บทที่ 736 พิษกู่เข้าสู่ร่างกาย
ในขณะนี้วิญญาณของเจ้าของร่างเดิมอ่อนแรง แม้แต่จะขยับตัวเพียงนิดก็แทบจะไม่ไหวแล้ว ราวกับว่าวิญญาณกำลังจะสลายหายไปเสียอย่างนั้น อันหลิงหยุนเกรงว่าจะเกิดเรื่อง จึงรีบเรียกวิญญาณเจ้าของร่างเดิมให้กลับเข้าไป
หลังจากฟื้นตัวได้สักระยะ อันหลิงหยุนถึงเพิ่งได้รู้ว่าที่จริงแล้วนางสามารถที่จะเรียกเจ้าของร่างเดิมให้กลับเข้าไปได้
และในตอนนี้นางได้สนทนากับเจ้าของร่างเดิม ซึ่งนางนั้นอ่อนแรง จำเป็นต้องรักษาตัวอย่างเงียบๆ ตัวอันหลิงหยุนจึงให้นางรับพลังเลือดของตัวเอง เพราะทำเช่นนี้นางก็จะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้มากยิ่งขึ้น
เจ้าของร่างเดิมถาม :“เจ้ารู้อยู่นานแล้วหรือว่าข้าใช้เลือดของเจ้าถึงได้ยังมีชีวิต ?”
“หยุดกล่าวพร่ำเพรื่อได้แล้ว เจ้าเร่งเข้าหน่อย ข้าต้องรับมือกับพวกเขา และจากสิ่งที่ฮ่องเต้หญิงได้กล่าวไว้ นางคงจะรักเจ้ามากเช่นกัน และไม่ต้องท่ะเห็นเจ้ามีปัญหา ”
หลังจากที่สนทนากันได้สักพัก สุดท้ายเจ้าของร่างเดิมก็สงบตัวลง อันหลิงหยุนถึงได้ค่อยออกห่างจากฮ่องเต้หญิง ก่อนจะหันไปมองอ๋าวชิงชายคนนั้นด้วยความมึนงง
อ๋าวชิงเป็นชายหนุ่มรูปงาม ทั้งอายุยังน้อย
เมื่อทั้งสองสบตากัน อ๋าวชิงมองดูอันหลิงหยุนพยักหน้า จากนั้นอันหลิงหยุนจึงหันหน้าไปมองยังฮ่องเต้หญิง ซึ่งขณะนี้ฮ่องเต้หญิงกำลังเช็ดน้ำตาอยู่ นางจึงหันหลังไปยังห้องบรรทมที่อู่ด้านหลังแทน
ตอนนี้ด้านนอกมีคนเฝ้าอยู่ ทั้งอันหลิงหยุนและคนอื่นๆจึงพากันเดินไปด้านหลัง
“ทุกคนนั่งลงเถอะ ที่นี่ไม่ได้คนนอก เพราะตัวข้านั้นเห็นพี่อันเป็นพี่ใหญ่มาโดยตลอด พี่ใหญ่เชิญนั่ง”
แม่ทัพอันนั้นไม่ได้เกรงใจสิ่งใด ก่อนที่ทุกคนจะนั่งลงพร้อมกัน ฮ่องเต้หญิงนั้นไม่ได้หันไปมองอันหลิงหยุนเลยสักนิดแต่กลับมองไปยังแม่ทัพอันแทน :“พี่ใหญ่ หลายปีมานี้ลำบากท่านแล้ว”
“ข้าไม่ได้ดูแลหลิงหยุนให้ดี ต้องขออภัยเจ้าด้วย ”
ในใจของแม่ทัพอันนั้นไม่สงบเลยแม้แต่น้อย
ฮ่องเต้หญิงเงียบลงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปมองอันหลิงหยุนด้วยสายตาที่รักและเอ็นดู :“พี่ใหญ่ เหตุใดจึงพาตัวหลิงหยุนมาที่นี่ ?พี่ใหญ่เคยให้สัญญากับข้าแล้วว่าจะดูแลนางอย่างดี ราวกับเป็นลูกที่ตัวเองให้กำเนิดไม่ใช่หรือ ?”
“นางต้องการที่จะมา และข้าเองก็ไม่ได้ดูแลนางอย่างดี เรื่องนี้ค่อยว่ากันทีหลังเถอะ ”แม่ทัพอันไม่ต้องการที่จะพูดสิ่งใดมาก ด้านฮ่องเต้หญิงจึงไม่คิดจะถามเอาความอีก
“แต่ว่า ตอนนี้ประเทศเฟิ่งกำลังตามหาตัวหลิงหยุนให้วุ่น เช่นนี้จะเป็นอันตรายต่อนาง ร่างกายของข้าในเวลานี้ เกรงว่าจะอยู่ได้อีกไม่นานนักแล้ว เดิมทีข้าคิดไว้ว่ารอให้ข้าจากไปความลับนี้ก็จะสิ้นสุดลงเสียที เหตุใดท่านจึงได้ทำเช่นนี้ ?”
“มีคนไล่ตามสังหารหลิงหยุน พวกเราเองจึงลำบากไปด้วยเช่นกัน”
เมื่อกล่าวถึงการไล่สังหาร ท่าทางที่อ่อนแรงของฮ่องเต้หญิง อยู่สีหน้าของนางก็เย็นชาขึ้นมาทันที ราวกับความเยือกเย็นในเดือนสิบสอง
“ไล่สังหาร?”
จากนั้นแม่ทัพอันถึงค่อยกล่าวเรื่องของเพลงกระบี่ไร้ใจออกมา รวมทั้งเรื่องที่มีคนไล่สังหารด้วย
“ที่แท้คนพวกนี้ก็ยังไม่ตายใจ หลายปีก่อนสังหารอู๋ซินไป ตอนนี้ยังต้องการที่จะสังหารข้าและลูกสาวของอู๋ซินอีก หากข้าไม่สังหารพวกมันข้าก็คงจะไม่อาจอยู่สงบแล้ว”
ดวงตาของฮ่องเต้หญิงเยือกเย็น แต่ด้วยความโมโหที่เข้ามากระตุ้นจึงทำให้นางไอขึ้นมา
อ๋าวชิงจึงต้องรีบนำยาป้อนเข้าปากฮ่องเต้หญิงทันที พอป้อนยาให้นางอย่างระมัดระวังเสร็จแล้ว เขาก็กลับไปรินน้ำให้ฮ่องเต้หญิงด้วยหนึ่งแก้ว ให้นางดื่มลงไป
เมื่อดื่มน้ำเรียบร้อย อ๋าวชิงก็เดินไปนั่งลงที่ท้ายเตียงด้วยท่าขัดสมาธิแล้วใช้พลังภายในขับไล่พิษที่อยู่ในร่างกายของฮ่องเต้หญิง
อันหลิงหยุนลุกขึ้นยืน แล้วตรงไปยังฮ่องเต้หญิง
ฮ่องเต้หญิงจึงมองไปที่นางด้วยสายตาที่อบอุ่น ก่อนที่อันหลิงหยุนจะเอื้อมมือออกไปจับข้อมือของฮ่องเต้หญิง แล้วจับชีพจรตรวจดูอาการ
ตรวจอาการได้สักพักอันหลิงหยุนก็พูดขึ้นมา :“ในร่างกายของท่านได้รับพิษชั้นสูง ทั้งยังมีหนอนพิษกู่อีกด้วย เวลาผ่านมาได้หลายปีแล้ว พวกเขา ……”
ทันใดนั้นในใจของอันหลิงหยุนก็เจ็บแปลบขึ้นมา ไม่ใช่เพียงแค่ เจ้าของร่างเดิม แม้แต่ตัวนางเองยังรู้สึกเจ็บปวดใจเช่นกัน
ฮ่องเต้หญิงยิ้มขึ้นมา :“เจ้ามีวิชาการรักษาหรือ?”
“ข้ามี”
ฮ่องเต้หญิงยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง แล้วหันไปมองรอบ :“เอาล่ะ ทุกคนแยกย้ายกันเถอะ พี่อัน พวกเราไม่ได้เจอกันมานานหลายปีแล้ว คืนนี้พี่อันอยู่ที่นี่เถอะ อ๋าวชิงเจ้าช่วยพาพวกเขาไปยังวิหารบรรทมรองพักผ่อนที”
อ๋าวชิงจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา สีหน้าของกงชิงวี่ถึงกับหมองลงทันที :“ฮองฟูอ๋าวยิ้มอะไรเช่นนั้นหรือ?”
“ไม่มีอะไรหรอก เพียงแค่สิ่งนี้ค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกับฝ่าบาท ปกติฝ่าบาทก็ทรงทำเช่นนี้ เวลาที่ทรงไม่พอพระทัยก็มักจะใช้สายตาอันอบอุ่นกล่าวตักเตือนพวกเรา ว่าอย่าได้งมงาย”
“……”สีหน้าของกงชิงวี่ยิ่งบึ้งตึงขึ้นมาอย่างมาก แต่อันหลิงหยุนกับยิ้มออกมาแทน
เมื่อเห็นอันหลิงหยุนยิ้มราวกับดอกไม้บาน อ๋าวชิงถึงตกอยู่ในภวังค์ :“ตัวข้านั้นคิดอยู่มาตลอดถึงท่าทางของฝ่าบาทในยามเยาว์วัย แต่ก็ไม่เคยจะนึกออกเลยสักครั้ง วันนี้ได้พบแล้วก็ราวกับความฝันกลายเป็นจริงแล้ว ”
อันหลิงหยุนในตอนนี้ถึงค่อยกลับมาแสดงสีหน้าปกติดังเดิม ส่วนสีหน้าของกงชิงวี่ก็หม่นหมองอย่างไร้ที่สิ้นสุด
อันหลิงหยุนเห็นดังนั้นจึงกุมมือเขาเอาไว้ เขาถึงไม่ได้แสดงอารมณ์โมโหออกมา
อ๋าวชิงลูบแขนเสื้อไปมาพลันพูด:“พิษของฝ่าบาทนั้นอยู่มานานหลายปีแล้ว พวกเราพยายามที่จะหาทางสะกดมันมาโดยตลอด แต่มาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถที่จะหาวิธีการถอนพิษได้เลย พิษกู่ของฝ่าบาทนั้นมาจากหนานอี้ ซึ่งที่วางยาพิษนี้ก็คือฮ่องเต้ของหนานอี้ พิษกู่นั้นมีการใช้เลือดของเฟิงอู๋ซินในการสกัดยา จากนั้นได้ทำการเพาะเลี้ยงพิษในร่างกายของฝ่าบาท ในทุกวันพระจันทร์เต็มดวง พิษกู่ในร่างกายองฝ่าบาทก็จะกำเริบ ซึ่งเป็นความเจ็บปวดในใจที่ไม่อาจต้านทานได้
ฝ่าบาทไม่เคยที่จะโวยวายใดๆ ทรงอธิบายเช่นนั้นกับพวกเราเท่านั้น พวกเราต่างก็เห็นใจจนน้ำตารินไหล แต่นางก็ได้แต่มองพวกเราโดยไม่พูดกล่าวสิ่งใด ตามที่ได้ถูกกล่าวไว้พิษนี้จะต้องปล่อยความรักทั้งหมดที่มีอยู่ในใจพิษถึงจะคลายตัวหนอนพิษกู่เองก็จะตายไป แต่ว่าหลายปีมานี้ ฝ่าบาทมีอาการกำเริบมาโดยตลอด ไม่เพียงแต่พิษไม่เสื่อมลง แต่กลับยิ่งนานเข้าก็ยิ่งทรมานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย และร่างกายก็อ่อนล้าขึ้นทุกวันแล้ว ”
อันหลิงหยุนกล่าวถาม :“ในยามที่พิษกู่กำเริบ แล้วการยับยั้งความต้องการเล่า ?”
“หนอนพิษกู่ก็คือความรัก ซึ่งเป็นมาจากเลือดต้นยาของท่านแม่ของท่าน ในวันพระจันทร์เต็มดวง ร่างกายของฝ่าบาทก็จะรุ่มร้อน จำต้องให้ชายหนุ่มมาช่วยคลายพิษ ขอเพียงทั้งสองรวมกันเป็นหนึ่ง ก็จะไม่เป็นอันใด แต่เวลาผ่านมาหลายปี เมื่อยิ่งมีความต้องการ พระนางก็ทรงปฏิเสธมากขึ้น เช่นนี้พวกเราจึงไร้ซึ่งหนทาง การยับยั้งจึงถือว่าไม่สามารถใช้การได้ ”
อันหลิงหยุนถอนหายใจออกมายาวๆฟอดหนึ่ง ต้องเป็นความรักแบบไหนกัน ถึงได้กลายเป็นเช่นนี้ได้
“หากกล่าวเช่นนี้ พิษก็คือประเทศเฟิ่งเป็นผู้วางยา หนอนพิษกู่คือประเทศหนานอี้เป็นผู้ลงมือ ?”อันหลิงหยุนกล่าว ด้านอ๋าวชิงก็พยักหน้า
“เพราะเหตุอันใดกัน หากเป็นคนของประเทศเฟิ่ง ไม่น่าที่จะทำร้ายฮ่องเต้หญิง หากเป็นหนานอี้ พวกเขาเองก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่จะต้องทำเช่นนี้”
อ๋าวชิงยิ้มขึ้นมา แล้วหันไปถามกงชิงวี่แทน :“อ๋องเสียนคิดเช่นไร?”
อันหลิงหยุนไม่เข้าใจ จึงหันไปหากงชิงวี่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...