บทที่ 740เข้าสู่สุสานจักรพรรดิ์
กงชิงวี่ตื่นขึ้นมาอีกทีฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว อันหลิงหยุนจึงมอบยาให้เขากินเข้าไปสองสามเม็ด แล้วพยุงเขาให้ลุกขึ้น
ครั้งนี้นางไม่ได้ให้เขาดื่มเลือดด้วยความกลัวว่าจะส่งผลกระทบกับร่างกายของเขา และอีกอย่างก็คือไม่ต้องการจะให้ร่างกายของเขาหายเร็วเกินไป เพราะอันหลิงหยุนกังวลว่าเขาจะออกไปตามหามังกรไฟด้วยตัวคนเดียวอีก
หลังจากที่ทาอาหารเสร็จ กงชิงวี่เดินมานั่งลง:“ข้าอยากจะออกไป หลิงหยุน……”
“ท่านอ๋อง ข้าอยากออกไปทดสอบความสามารถของชื่อจินจื่อ นางเองก็ต้องการอาหารเช่นกัน”อันหลิงหยุนขัดคำของกงชิงวี่ แล้วเตรียมตัวที่จะออกไป
กงชิงวี่มองไปยังอันหลิงหยุนครู่หนึ่ง :“สถานที่ข้าจะไปไม่มีหนอนพิษกู่”
“ท่านอ๋องแน่ใจหรือ?”
“แน่ใจ”กงชิงวี่ไม่คิดว่าในหลุมฝังศพจะมีหนอนพิษกู่
“เช่นนั้นข้าเองจึงไม่ได้คิดที่จะไปกับท่านอ๋อง ท่านอ๋องสามารถที่จะไปสถานที่แห่งอื่น ส่วนข้าก็จะพาชื่อจินจื่อออกไป”
กงชิงวี่หน้าหมองลงทันที :“สิ่งนี้คงไม่ใช่เพื่อที่จะไม่ข้าออกไปหรอกนะ”
“แน่นอนว่าไม่ใช่ ท่านอ๋องออกไปด้านนอกเหตุใดต้องพาข้าไปด้วยเล่า?ข้าจะเป็นภาระเสียเปล่า”
“ผู้ใดว่าเจ้าเป็นภาระกัน?”
“แล้วเหตุเมื่อคืนนี้ท่านอ๋องออกไปถึงไม่พาข้าไปด้วย?”
“เจ้า……”กงชิงวี่เหมือนกำลังจะกล่าวบางอย่าง แต่เมื่อสายตาของอันหลิงหยุนที่ไม่ต้องการฟังเหตุผล จึงได้แต่กลืนสิ่งที่จะพูดกลับลงไป
“ท่านอ๋อง ข้าจะให้ลุงสามไปกับข้า ส่วนท่านก็วางใจแล้วทำธุระของท่านเถอะ”อันหลิงหยุนจัดแจงตัวเองเรียบร้อย แต่งตัวเป็นชายหนุ่ม แล้วเดินออกไป
หนานอี้นั้นต่างไปจากประเทศเฟิ่ง สตรีในหนานอี้ต่ำต้อย จึงไม่สามารถที่จะไม่ทำการเตรียมตัว
พออกมาด้านนอกอันหลิงหยุนยืนอยู่หน้าประตูเฝ้ารอ ด้านกงชิงวี่เพยงไม่นานก็เดินตามออกมา แม้ในตอนที่ต้องแยกกัจะรู้สึกโกรธเคือง แต่เมื่อมีเฟิงอู๋ฉิงอยู่ข้างกายอันหลิงหยุน เขาก็วางใจ
กงชิงวี่เดินจากไปตัวคนเดียว มุ่งตรงไปยังสุสานจักรพรรดิแห่งหนานอี้
เมื่อเห็นว่าเขาเดินออกไปไกล อันหลิงหยุนจึงพาชื่อจินจื่อเดินจากไป
กงชิงวี่เดินอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ได้หลุดพ้นจากอันหลิงหยุนทั้งสองคนเดินตามหลังกันไปจนถึงสุสานจักรพรรดิ์แห่งหนานอี้ กงชิงวี่ที่เพิ่งมาถึงประตูสุสานจักรพรรดิ ก็รู้สึกว่ามีคนกำลังตามหลังเขามา กงชิงวี่จึงหันหลังกลับไปมอง แล้วเขาก็ได้กลิ่นอันพิเศษหนึ่งในคืนเดือนมืด :“ออกมาเถอะ”
อันหลิงหยุนเดินออกมาจากตรงนั้น กงชิงวี่ถึงกับตกใจ :“หลิงหยุน?”
“ท่านอ๋อง”
“ไม่ใช่ห้ามเจ้ามาด้วยหรือ?”
“ข้าเองก็ไม่ได้คิดที่จะมาที่นี่ เป็นเพราะว่าเมื่อเดินมาแล้วดันมาถึงที่นี่เอง โดยมีนางพญานำทางมา ”
กงชิงวี่มองไปยังอันหลิงหยุนอย่างเสียอารมณ์ :“กลับไปเถอะ”
“ท่านอ๋อง ในเมื่อก็มาถึงแล้ว อย่างน้อยก็ให้ข้าเข้าไปด้วย ไม่แน่หากมีหนอนพิษกู่จริงๆเล่า ?”อันหลิงหยุนยิ้ม กงชิงวี่มองกลับยังทางที่เดินมา มันทั้งไกล ทั้งมืด!
“เดินตามข้าเอาไว้ อย่าได้คราดจากข้าไปแม้แต่ครึ่งก้าว”
“ได้”
กงชิงวี่หันหลังกลับพร้อมกับจุงมืออันหลิงหยุน เขาพาอันหลิงหยุนมุ่งตรงเข้าไปยังทางเข้าสุสานจักรพรรดิ
อันหลิงหยุนสำรวจดู สุสานจักรพรรดิค่อนข้างแออัด บริเวณโดยรอบมีรูปปั้นหินสัตว์ตั้งอยู่ ซึ่งสุสานของจักรพรรดิส่วนใหญ่เป็นประเภทนี้
ทั้งสองเดินไปยังหน้าสุสาน แล้วกงชิงวี่จึงหยุดลงตรงหน้าประตู:“เมื่อคืนนี้ข้าเข้าไปจากจุดนี้”
“ท่านอ๋องพวกเรายังสามารถที่จะเข้าไปได้ เพราะดูแล้วไม่น่าจะมีผู้ใดพบเห็นได้”
“อืม”
กงชิงวี่เปิดประตู แล้วพาอันหลิงหยุนเดินเข้าไป
“ฟ้าสว่างข้าก็ต้องกลับไปอยู่แล้ว แค่บังเอิญได้พบกับชื่อจินจื่อเท่านั้นเอง”
“ข้าก็คิดว่าฟ้าสว่างของท่านอ๋องคือการสังหารศัตรูเสียอีก?”
กงชิงวี่ที่ถูกมองออกก็ได้แต่เงียบ ก่อนที่อันหลิงหยุนจะถามอีกครั้ง:“ท่านอ๋อง เหตุใดท่านถึงได้สงสัยว่าจะมีการกักขังคนในสุสานจักรพรรดิ ในเมื่อเป็นสถานที่พักผ่อนของเหล่าบรรพบุรุษ คนรุ่นหลังยังจะสามารถเข้ามารบกวนได้งั้นหรือ?”
“คนของข้สตามมาถึงที่นี่ แล้วเขาก็หายตัวไปแล้ว”
“ดังนั้นท่านอ๋องจึงสงสัยว่าด้านล่างนี้มีการกักขังคนเอาไว้?”
“ พิษกู่ของหนานอี้ เดิมทีคือคาถาและเป็นต้นกำเนิดแห่งความตาย เพราะเดิมทีหนอนพิษกู่ถูกนำมาใช้ในการควบคุมศพ หากจะถูกกักขังไว้ในสุสานจักรพรรดิก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ว่าในเมื่อกักขังคนไว้ในสุสานจักรพรรดิแล้ว เช่นนั้นแสดงว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังก็คือฮ่องเต้หนานอี้”
“อืม เช่นนั้นก็ควรจะเป็นเขา สุสานจักรพรรดิไม่ได้ต่างไปจากที่แห่งอื่น หากไม่มีการได้รับอนุญาตจากคนเบื้องสูง ไม่นานก็จะต้องถูกจับได้อยู่ดี ”
สองสามีภรรยาเดินเข้าไปถึงด้านในหลุมฝังศพ โดยตรงหน้ามีประตูหินใหญ่ตั้งอยู่ อันหลิงหยุนหันหลังกลับไปมองด้านหลังแล้วกลับมามองประตูหิน กำลังจะเอื้อมมือออกไปจับ สิ่งที่อยู่บนหน้าอกก็ขยับตัว แล้วอันหลิงหยุนก็ถูกกงชิงวี่ดึงตัวกลับมา
แล้วเสียงการเคลื่อนได้ก็ได้ดังขึ้นมาจากด้านหลัง อันหลิงหยุนหันหลังกลับไปมองอีกครั้ง ชื่อจินจื่อจำนวนมากก็ได้คลานเข้ามาแล้ว ราวกับกองทหารที่กำลังเคลื่อนตัวในยามค่ำคืน แมลงที่เดินผ่าน ต่างพากันหลีกตัวออกจากอันหลิงหยุนและกงชิงวี่ ก่อนที่จะปีนขึ้นไปบนประตูหิน ปิดหน้าประตูหินสถานการณ์ดูน่าตื่นตระหนกอย่างมาก อันหลิงหยุนถึงกับขนแขนและผมลุกชัน
แล้วจับมือของกงชิงวี่ด้วยความหวาดกลัว นี่คงจะเป็นความน่ากลัวของสิ่งเหล่านี้สินะ
แต่ด้านกงชิงวี่กลับไม่ได้ปฏิกิริยาอะไรมากมาย
จากนั้นนางพญาจึงคลานออกมาจกถุงกระเป๋าของอันหิงหยุน พอมันคลานมาถึงปากถุงกระเป๋าจึงได้กางปีกบิน แล้วชื่อจินจื่อสีดำที่เกาะอยู่บนประตูหิน ก็เคลื่อนตัวออกอย่างรวดเร็วทันที ราวกับกำลังพลุ่งพล่าน
อันหลิงหยุนพูด :“นางพญารอไม่ไหวแล้วที่จะเข้าไปด้านใน ด้านในนั้นมีสิ่งที่นางสนใจอยู่ แต่นางบอกว่าด้านในนั้นมีคนอยู่”
“……”
กงชิงวี่มองออกไป แล้วเดินไปยังหน้าประตูหิน เดินเข้าไปสำรวจโดยไม่สนใจแมลงที่อยู่บนนั้นเลยแม้แต่น้อย ส่วนอันหลิงหยุนนั้นไม่กล้าที่จะเข้าใกล้ เพราะนางยังคงเกรงกลัวอยู่
กงชิงวี่เจอกับบางสิ่งที่อยู่ด้านล่าง แล้วทำการขยับมัน ก่อนที่ประตูหินจะส่งเสียงโครมครามออกมาราวกับหินอันมหึมากำลังเคลื่อนที่
อันหลิงหยุนหยินเข็มเงินออกมา ป้องกันเผื่อมีคนโจมตีมาจากด้านใน แต่ทว่าด้านในกลับไม่มีคน และไม่มีแมลงอีกด้วย จะมีเพียงแต่บรรยากาศที่น่าอึดอัดก็เท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...