บทที่ 749 ข้าชอบคำว่าพวกเราคำนี้เสียจริง
“เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถสั่งการไปได้ไกลเป็นพันลี้เลยหรือ ?”
ซูมู่หรงรู้สึกขำ แล้วเดินออกมาจากกลุ่มคน
“เจ้าก็ลองดูสิ ข้าเคยไปหนานอี้มาก่อน ข้าแอบสำรวจหนานอี้จนทะลุปรุโปร่งหมดแล้ว ถึงแม้เจ้าจะไม่ได้มีส่วนร่วมในการข่มเหงมังกรไฟ แต่ข้าก็ได้บันทึกความแค้นต่อเจ้าเอาไว้ครั้งหนึ่งแล้ว
ก่อนที่ข้าจะมา ข้าคิดเอาไว้แล้วว่าเจ้าจะต้องตามมาแน่นอน หากไม่มีเจ้า ฮ่องเต้หนานอี้ผู้เป็นบิดาของเจ้าก็เหมือนขาดแขนไปหนึ่งข้าง เขามีโรงที่ซ่อนอยู่ สุขภาพไม่ดีมานานแล้ว ถ้าหากเจ้าไม่อยู่ คนของข้าจะเข้าวังไปหาเขานั้นง่ายมาก อีกทั้งข้าได้วางแผนเอาไว้เรียบร้อยแล้วว่า อย่างช้าก็คืนนี้จะระเบิดวังไท่จื่อของเจ้า ถ้าหากทางนี้ไม่ส่งสารออกไป วังไท่จื่อของเจ้ารวมถึงฮ่องเต้หนานอี้จะต้องเกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน
“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข่าจะตามมา ?” ซูมู่หรงไม่เชื่อว่ากงชิงวี่จะสามารถคาดเดาเหตุการณ์ได้เช่นนี้
“ที่นั่นเจ้าอาศัยโทรศัพท์ในการส่งสาร ตอนที่หยุนหยุนพูดเรื่องนี้ให้ข้าฟัง ข้าก็เริ่มวางแผนเรื่องบางอย่างแล้ว เพียงแต่เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ ข้ารับประกันกับเจ้าได้เลยว่า ถ้าเจ้าไม่ออกไปตอนนี้ คืนนี้วังไท่จื่อของเจ้าต้องระเบิดอย่างแน่นอน”
“......”
ซูมู่หรงมองไปรอบๆ ก็รู้สึกแปลกใจ
แต่กงชิงวี่ก็ดูสงบนิ่งเช่นนั้น
“เป็นไปไม่ได้”
“เป็นไปได้หรือไม่ได้ เจ้าจะลองอยู่ต่อก็ได้ แต่ข้ารับประกันว่าจะระเบิดวังไท่จื่อของเจ้าแน่นอน”
กงชิงวี่ยกมือขึ้นโบก มีคนชุดดำประมาณร้อยกว่าคนลงมาจากหลังคาทันที ทุกคนล้วนสวมใส่เกราะเหล็ก ในมือถือของสิ่งหนึ่งเอาไว้ ส่วนที่เอวมีโซ่เหล็กอยู่หนึ่งเส้น
ซูมู่หรงเคยเห็นในทีวี เคยเห็นอาวุธพวกนี้มาก่อน มันคือเส่ตีจื่อ ใช้สำหรับตัดหัวของมนุษย์โดยเฉพาะ
“ถอยไป”
ซู่มู่หรงออกคำสั่ง คนของเขารีบถอยหลังในทันที
กงชิงวี่ออกคำสั่ง : “ห้ามปล่อยให้รอดแม้แต่คนเดียว”
คนที่ล้อมอยู่เริ่มลงมือฆ่าในทันที ซูมู่หรงหลบทัน แต่คนอื่นๆไม่สามารถหลบได้ คนเหล่านั้นถูกตัดหัวหมดทุกคน
เมื่อหัวคนหนึ่งขาดลง ก็หันไปจัดการคนต่อไป
คนสิบกว่าคนไม่ช้าก็เหลืออยู่เพียงไม่กี่คน
ไม่นานคนสวมชุดเกราะก็กดดันคนเหล่านั้นจนต้องล่าถอยไปด้านหลัง
กงชิงวี่พูดว่า : “ข้ารู้ว่าหนอนพิษกู้ของหนานอี้นั้นน่ากลัว แต่ถ้าเจ้าอยากรู้ขอลองนำออกมาดู ดูซิว่าคนของข้าจะกลัวหรือไม่”
ซูมู่หรงผงะไปชั่วครู่ เขาได้รับบาดเจ็บแล้ว ยืนเหงื่อแตกอยู่ด้านหลังคนสองสามคนนั้น
“หนอนเองก็อันตรายถึงชีวิต พวกเขาเองก็กลัว แต่ข้ามีวิธีที่จะรักษาพวกเขา”
ซูมู่หรงดูรอยดำที่อยู่ในมือ จากนั้นจึงได้กดเอาไว้
อันหลิงหยุนไม่อาจทนดูได้อีกต่อไป จึงเดินออกไปตรงนั้น : “ครูฝึก คุณกลับไปก่อนเถอะ ฉันรับประกันว่าท่านอ๋องจะไม่ทำรุนแรงแน่นอน”
ซูมู่หรงยิ้มอย่างไม่เต็มใจ แล้วจึงนำกำลังคนออกจากที่นี่ไป
อันหลิงหยุนหันมองกงชิงวี่ แล้วจึงก้มลงมองหัวและร่างที่อยู่บนพื้น
“ท่านอ๋อง สิ่งที่ครูฝึกให้ความสำคัญที่สุดก็คือสหายที่ร่วมรบ เขามาที่นี่หลายปีแล้ว คนที่เขาเลี้ยงดูมาตลอดยี่สิบปีนี้ท่านไม่ควรฆ่า เพราะเขาจะไม่มีทางยอมปล่อยแน่”
กงชิงวี่หันหลังเดินกลับไป นั่งลงแล้วปิดตาพักผ่อนต่อ
อันหลิงหยุนรู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก ฆ่าคนไปมากมายขนาดนี้ นางเป็นหมอ ไม่ใช่พวกนักฆ่าบ้าเลือด
อันหลิงหยุนสั่งให้คนมาเก็บกวาดให้เรียบร้อยแล้วจึงกลับไปนั่งลง
ตอนนี้เองในกระเป๋าเงินของอันหลิงหยุนเริ่มขยับ มีของสิ่งหนึ่งลักษณะเป็นเมล็ดสีทองเริ่มส่องแสงออกมา แต่ผ่านไปสักครู่ก็มืดไป
อันหลิงหยุนหันมองไปก็เห็นเสี่ยวจินกำลังอุ้มเมล็ดถั่วสีทองเมล็ดนั้นแล้วปีนขึ้นมา
อันหลิงหยุนถาม : “เจ้าจะทำอะไร ?”
เสี่ยวเฮยส่งเสียงร้อง
“ท่านอ๋อง เขาบอกว่าเสี่ยวจินให้กำเนิดราชาหนอนออกมาแล้ว หาเจ้านายเจอแล้ว แต่ไม่ได้อยู่ที่นี่”
แต่เสี่ยวเฮยอยู่ ก็ดูเหมือนว่าหนอนพิษกู่สีขาวตัวนั้นมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อจะโดนกิน
เมื่อกินอิ่มแล้ว เสี่ยวจินก็กลับไป
ตอนนี้เองอันหลิงหยุนเข้าไปดูซูอู๋ซิน ซูอู๋ซินดูอ่อนแรงเป็นอย่างมาก เขากำชับกงชิงวี่สองสามประโยค แล้วกลับเข้าไปในเตียง
มีลมอ่อนๆพัดมา อันหลิงหยุนจึงมองเห็นฮ่องเต้หญิงที่นอนหลับสนิทอยู่ในเตียง ตอนนี้เห็นนางดูงดงามขึ้นมาก ไม่ได้ดูซีดเซียวเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
แต่เมื่อครู่อันหลิงหยุนเห็นว่าเลือดของซูอู๋ซินเป็นสีดำ จึงคิดว่าเขาคงจะถูกพิษด้วย
เพื่อคนที่รัก จึงยอมที่จะตาย ยอมที่จะถูกพิษ ซูอู๋ซินเป็นคนรักที่คู่ควรอย่างยิ่งเท่าที่นางเคยพบเจอมา
อันหลิงหยุนออกไปพร้อมกับกงชิงวี่ อ๋าวกวงเลี๋ยนฟื้นแล้ว กำลังโวยวายต้องการที่จะเข้าพบฮ่องเต้หญิงอยู่ด้านนอก
แต่เมื่อกงชิงวี่ปรากฏตัวขึ้น อ๋าวกวงเลี๋ยนก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก
“วันนี้ที่พวกท่านมาไม่มีอะไรนอกเหนือไปกว่าต้องการว่าถามเรื่องของซูอู๋ซินให้ชัดเจน วันนี้อู๋ซูซินกำลังถวายการปรนนิบัติอยู่ คิดว่าพวกท่านเองก็ไม่ควรปรากฏตัวขึ้นในห้องนอนของฮ่องเต้หญิง ขอให้ทุกท่านกลับไปก่อน สามวันให้หลังในการออกว่าราชการตอนเช้า เรื่องของซูอู๋ซินคงจะต้องมีคำอธิบายให้แก่พวกท่านอย่างแน่นอน”
“.......”
ไม่มีใครอยากกลับไป แต่กงชิงวี่นั้นน่ากลัวมาก พวกเขาจึงไม่กล้าแข็งข้อ
รอยเลือดที่อยู่บนพื้นยังไม่ได้ทำความสะอาดจนเกลี้ยง พวกเขาเองก็กลัวว่าจะต้องกลายเป็นศพไม่มีหัวเช่นเดียวกัน
“ได้ อีกสามวันพวกเราพบกันตอนว่าราชการตอนเช้า พวกเราต้องการคำอธิบายจากฮ่องเต้หญิง”
“จงรักษาชีวิตของท่านเอาไว้ให้ครบสามวันเถอะ !”
คำพูดลอยๆของกงชิงวี่เพียงหนึ่งประโยค ก็ทำให้อ๋าวกวงเลี๋ยนไม่กล้าเอ่ยปากพูดอะไรอีก ตกใจกลัวจนรีบหนีกลับไปแทบไม่ทัน
อันหลิงหยุนยืนอยู่ข้างๆเขา เกิดความรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก : “มีคนโง่เช่นนี้ ทำไมประเทศเฟิ่งถึงได้แข็งแกร่งกว่าประเทศต้าเหลียงของพวกเราได้ ?”
อันหลิงหยุนคิดอย่างไรก็คิดไม่ออกจริงๆ
กงชิงวี่มองนาง : “ข้าชอบคำว่าพวกเราคำนี้เสียจริง !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...