ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 76

บทที่ 76 เลือกยาในห้องเก็บยา

องครักษ์ก้มหัวไม่พูดไม่จา กงชิงวี่ถามว่า: “แน่ใจหรือ?”

เมื่อครู่ตอนที่กงชิงวี่มาถึง ที่ถูกองครักษ์ขวางไว้นั้น เขาเห็นหมดแล้ว เดิมทีคิดว่านางคงจะฟ้อง แต่ตอนนี้พูกเช่นนี้ ทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้เขารู้สึกไม่คุ้นเคยเลยจริงๆ

“ท่านอ๋อง เมื่อครู่พวกเราได้พูดกับพระชายาแล้วพ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์ไม่กล้าปิดบัง เพราะรู้ผลที่จะตามาของการปิดบังเป็นอย่างดี

กงชิงวี่ถามว่า: “พระชายาล่ะ?”

“พูดกันแล้วเพคะ” อันหลิงหยุนได้แต่ยอมรับ หากนางไม่ยอมรับ องครักษ์ก็จะถูกลงโทษเพราะพูดโกหก

แต่ถ้าหากนางไม่ยอมรับ กงชิงวี่ก็สามารถเอาชนะนางได้อยู่ดี สู้นาง!

อันหลิงหยุนรอให้กงชิงวี่ตำหนิอยู่ แต่กงชิงวี่ทำเพียงแค่มองไปที่องครักษ์แล้วพูดว่า: “ต่อไปห้องเก็บยาให้พระชายาเป็นผู้รับผิดชอบ”

“พ่ะย่ะค่ะ”

องครักษ์ผลีกทางให้อย่างประหลาดใจ กงชิงวี่เข้าไปในห้องเก็บยาแล้ว อันหลิงหยุนจึงรีบตามเข้าไป

ห้องเก็บยาของจวนอ๋องเสียนใหญ่กว่าห้องเก็บยาของจวนแม่ทัพสองเท่า อีกทั้งมีตัวยาที่มีค่าอยู่มากมาย และมีอยู่อย่างครบถ้วน

อันหลิงหยุนได้ยินมาว่าที่นี่มียาล้ำค่าอยู่เป็นจำนวนมาก อยากจะเข้ามาดูนานแล้ว แต่ทุกครั้งที่ถามหายา ก็จะมีคนคอยนำไปให้ นางจึงไม่มีโอกาสเสียที วันนี้ได้เข้ามาข้างใน อันหลิงหยุนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น ห้องเก็บยาของจวนอ๋องเสียน ไม่ธรรมดาจริงๆ

อันหลิงหยุนเดินไปถึงหน้ากล่องเก็บยา จึงเปิดออกดูยาที่อยู่ด้านใน แล้วจึงหยิบขึ้นมาดมหนึ่งชนิด เป็นของชั้นหนึ่งจริงๆ

เมื่อก่อน อันหลิงหยุนเพื่อที่จะปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในถิ่นทุรกันดาร จึงคุ้นเคยกับตัวยาต่างๆในชนบทเป็นอย่างดี อีกทั้งยังตั้งใจศึกษายาแผนโบราณของจีนเป็นเวลาปีกว่า ดังนั้นจึงพูดได้ว่า อันหลิงหยุนคุ้นเคยกับตัวยาเป็นอย่างดีเลยที่เดียว

เมื่อเปิดกล่องออก อันหลิงหยุนก็เริ่มหาตัวยาที่ต้องการ ได้แก่ บัวหิมะ หวงฉี พุทราจีน ไป่เหอ เม็ดบัว......

จรงๆแล้วก็ไม่ใช่ตัวยาล่ำค่าอะไรนัก ที่จะไม่สามารถหาได้ แต่ในเมื่อที่นี่มี นางก็จะไม่เกรงใจแล้ว

อันหลิงหยุนนำตัวยาที่หามาได้วางไว้อย่างดี แล้วไปหาตัวยาที่นางยังไม่เคยเห็น อีกทั้งยังล้ำค่าอย่างมากอีกด้วย

ได้พบกับโสมจีนหนึ่งต้น ซึ่งดึงดูดสายตาของันหลิงหยุนเป็นอย่างมาก

อันหลิงหยุนยืนอยู่ด้านหน้าของโสมจีนด้วยความมึนงง โสมจีนเป็นของที่โปรดปราน แต่โสมจีนที่ใหญ่ขนาดนี้ อันหลิงหยุน้เพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก

กงชิงวี่ถามว่า: “โสมจีนช่วยดูแลผิวพรรณได้ใช่ไหม?”

“อืม โสมจีนถือเป็นที่สุดของการดูแลผิวพรรณ เพียงแต่คนปกติรู้จักแต่เพียงวิธีการนำมากิน แต่ไม่รู้วิธีการนำมาใช้ภายนอก”

“อย่างนั้นหรือ?”

น้ำเสียงของกงชิงวี่แฝงไปด้วยการเยาะเย้ย อันหลิงหยุนรู้ดีว่าเขาไม่ใช่คนใจกว้างขนาดนั้น อีกทั้งไม่มีทางเชื่อในสิ่งที่นางพูด

แต่นางเองก็ไม่ได้คิดที่จะอธิบายให้มากความ คนบางคน อธิบายมากเกินไป ก็ไม่เท่ากับไม่ต้องอธิบายอะไรเลย

กงชิงวี่เดินไปข้างๆอันหลิงหยุน ได้กลิ่นของโรสแมรี่จางๆอยู่บนตัวนาง ก็รู้สึกจิตใจเบิกบานผ่อนคลาย

สำหรับโรสแมรี่นั้น กงชิงวี่ก็พอจะเคยทำความรู้จักมาบ้าง ว่าเป็นตัวยาแบบกลิ่นชนิดหนึ่ง ไม่เพียงแต่มีคุณค่าทางยาสูง แต่มักจะถูกนำมาใช้ในการดึงดูดด้วยเช่นกัน

ถ้าหากไม่ใช่เพราะช่วงนี้พอที่จะเข้าใจในตัวนางขึ้นมาบ้างแล้ว คงจะต้องเข้าใจผิดว่านางมีกลอุบายอะไรมาคิดร้ายกับเขาอย่างแน่นอน!

รออยู่สักพัก กงชิงวี่ถึงจะสามารถพาตัวเองหลุดออกมาจากกลิ่นอายความหอมของโรสแมรี่ได้ แล้วจึงก้มหน้าลงถามว่า: “ไม่ใช่ว่าจะนำกลับบ้านไปให้แม่ทัพอันหรอกหรือ?”

อันหลิงหยุนคิดอยู่แล้วว่าเขาจะต้องถามเช่นนี้แน่ จึงรีบตอบทันทีว่า: “ไม่ใช่แน่อน”

“อย่างนั้นหรือ?” แล้วจึงมองไปที่อันหลิงหยุนอย่างมีนัยยะ กงชิงวี่เดินจากมา แล้วมองไปทางโสมพันปีต้นนั้น: “หากพระชายาอยากจะนำกลับจวนแม่ทัพไปคารวะแม่ทัพอันล่ะก็ ข้าก็จะเห็นแก่จิตใจที่กตัญญูของพระชายา จะมอบให้พระชายาก็ได้”

เขาจะใจดีขนาดนั้นเชียวหรือ? อันหลิงหยุนไม่อยากจะเชื่อ!

ถึงแม้จวนแม่ทัพจะเทียบไม่ได้กับจวนอ๋องเสียน แต่ท่านพ่อสุขภาพดีมาตลอด ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องกินของบำรุง สำหรับโสมนั้น เป็นของที่บำรุงอย่างมาก ควรกินแต่น้อย แต่ข้าก็หวังว่าท่านอ๋องจะมอบโสมให้แก่ข้า เพื่อที่จะใช้บำรุงผิวพรรณให้แก่ไทเฮา”

“โอ้!”

กงชิงวี่รู้สึกขำ แล้วหันหลังเดินไปนั่งอีกด้านหนึ่ง

อันหลิงหยุนรู้ดีว่า เขาไม่ได้พูดง่ายขนาดนั้น

แต่นางอยากได้โสมต้นนี้จริงๆ เพื่อที่จะนำไปเป็นยาให้ไทเฮา

ต้นใหญ่ขนาดนี้หาได้ยาก ถ้าหากสามารถนำมาใช้เป็นยาได้ ก็คงพอจะไว้ใช้ได้สักระยะหนึ่ง

อันหลิงหยุนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงตัดสินใจที่จะลองขออันชิงวี่ดู

จึงหันกลับไปหาอันชิงวี่ แล้วอันหลิงหยุนจึงถามว่า: “ท่านอ๋อง ท่านจะให้ข้าทำอย่างไร เพื่อที่จะยอมมอบโสมต้นนี้ให้แก่ข้า?”

“นี่พระชายายังจะกล้าขอจริงๆหรือ?” กงชิงวี่สีหน้าเฉยชา

“ท่านอ๋อง ในเมื่อเสียดายก็ช่างเถอะ”

อันหลิงหยุนเองก็ไม่คิดอยู่แล้วว่ากงชิงวี่จะยอมรับปากเรื่องนี้ พูดไปก็เสียเวลาเปล่า คนตระหนี่ไม่มีทางที่จะยอมให้คนร่วงแม้แต่เส้นเดียว!

“ข้าไม่ได้เสียดาย เพียงแต่ว่าข้าเตรียมที่จะนำเข้าวังเพื่อถวายให้แก่เสด็จแม่” กงชิงวี่พูดเบาๆ

“เช่นนั้น ท่านอ๋องก็นำไปถวายเถอะเพคะ” อันหลิงหยุนเองก็ไม่บังคับ เพราะถ้าส่งเข้าวัง ยังไงเสียก็ต้องส่งต่อให้นาง

เพียงแต่ว่าอย่าเชื่อคำพูดของผู้ชายเป็นดีที่สุด ก่อนจะเข้ามาก็พูดกับองครักษ์ที่เฝ้าประตูอย่างชัดเจนว่า ต่อไปห้องเกบยาให้นางเป็นคนรับผิดชอบ นางดีใจอยู่ได้เพียงชั่วครู่ มาตอนนี้แม้แต่โสมต้นเดียวก็นึกเสียดายแล้ว

ครั้งหน้า นางไม่มีทางเชื่อเขาอีกอย่างเด็ดขาด

ไปหาตัวยาอื่นๆ อันหลิงหยุนก็ไม่ได้นำไปเยอะเท่าไหร่นัก แต่ละอย่างก็เตรียไปอย่างละนิดอย่างละหน่อย แล้วจึงเก็บอย่างดี เตรียมตัวจะเดินออกไป

กงชิงวี่ลุกขึ้นแล้วมอง: “แค่นี้หรือ?”

ไม่เอาโสมต้นนั้นแล้วจริงๆ!

อันหลิงหยุนไม่เพียงแต่รู้สึกแปลก คนแบบนี้ทำไมอยู่ดีๆถึงไร้ความปรานีเช่นนี้

เสินหยุนเอ๋อโตมาด้วยกันกับเขา เขาบอกว่าไม่สนก็คือไม่สนเลยหรือ

อาหยู่มองไปที่อันหลิงหยุน “พระชายามีอะไรจะรับสั่งหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

“อาหยู่ ตอนนี้ให้เจ้าไปที่จวนแม่ทัพ ไปบอกกับท่านแม่ทัพว่า ต้องการที่จะไปหาขวดสีขาวใบเล็กๆในห้องของข้า แล้วจงนำขวดใบนั้นมามอบให้ข้า ในนั้นมีตัวยาล้ำค่าอยู่ ข้าจะถวายให้ไทเฮาใช้ จะมีข้อผิดพลาดไม่ได้ และฝากท่านช่วยบอกท่านแม่ทัพแทนข้าทีว่า หากวันไหนข้ามีเวลา จะกลับไปอยู่เป็นเพื่อนเขา ให้เขากินให้อิ่มนอนให้หลับ และออกกำลังกาย ดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ”

สิ่งที่อันหลิงหยุนสั่งในครั้งนี้ ทำให้อาหยู่มึนงง ไปจวนแม่ทัพแล้วยังต้องไปปลอบแม่ทัพอันอีกหรือ

ถึงแม้จะรู้สึกงุนงง แต่อาหยู่ก็หันหลังกลับไปทำเรื่องนี้ให้ แต่อันหลิงหยุนเองกลับยังไม่ไปไหน รอให้อาหยู่กลับมาอยู่อย่างนั้น

จวนอ๋องเสียนกับจวนแม่ทัพไม่ไกลกันนัก อาหยู่ควบม้าไปอย่างรวดเร็ว และกลับมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน อันหลิงหยุนเกรงว่า 1.ยาจะมีข้อผิดพลาด 2.อยากจะถามอาหยู่เกี่ยวกับเรื่องของแม่ทัพ

คนหนึ่งมาคนหนึ่งไป พออาหยู่มา อันหลิงหยุนก็เดินออกไป

“เดิมทีแม่ทัพอันตั้งใจจะมา แต่ได้ยินมาว่าในวังมีแขก ฮ่องเต้จึงเรียกเขาไปเดินหมาก จึงจำเป็นต้องไปวังหลวงก่อน” แล้วอาหยู่จึงส่งขวดยาให้ แล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง

อันหลิงหยุนพยักหน้า: “พ่อข้าเดินหมากไม่เป็น ทำได้เพียงแต่อยู่คุยเป็นเพื่อนฮ่องเต้ เรียนรู้สิ่งต่างๆ ต้องขอบพระทัยที่ฮ่องเต้ทรงมีเมตตามาเป็นเวลาหลายสิบปีจนถึงทุกวันนี้ ทำให้รู้สึกซาบซึ้งใจจริงๆ”

อาหยู่มองหน้าอันหลิงหยุน พระชายารู้จักประจบประแจงตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เป็นไปได้หรือนี่!

อันหลิงหยุนเข้าใจแจ่มแจ้ง ที่ฮ่องเต้ชิงหยู่มีวันนี้ได้ ก็คงหนีไม่พ้นความจงรักภักดีของแม่ทัพอัน จะมีความรักหรือไม่นั้นนางไม่รู้ การดำรงชีวิตของคนในชาติก็ต้องการการตัดสินใจที่ดี!

ฮ่องเต้ชิงหยู่เองก็มีวิธีของเขา!

“อาหยู่ เจ้าช่วยเอาของเหล่านั้นที่อยู่ในห้องของข้า และพวกขวดยาต่างๆที่คนให้ข้า ให้ย้ายเข้ามาไว้ในโถงด้านข้าง เวลาเร่งรีบเข้ามาทุกที และข้ายังต้องการผู้ช่วยอีกสองคน ที่หน้าตางดงาม และมีความซื่อสัตย์มาเป็นสาวใช้ เจ้าช่วยจัดการให้ข้าหน่อย เจ้าเองก็ให้อยู่ที่โถงด้านข้างคอยช่วยออกคำสั่งแทนข้า” เวลาเร่งรีบเข้ามาทุกที อันหลิงหยุนเปิดขวดยาในมือเพื่อตรวจสอบดูอีกครั้ง แล้วจึงสั่งอาหยู่

“พ่ะย่ะค่ะ”

อาหยู่เองก็ไม่ค่อยเข้าใจชัดเจนนัก แต่ก็ยึดตามคำสั่งของอันหลิงหยุนไปปฏิบัติตาม

เมื่ออันหลิงหยุนสั่งเสร็จ จึงตามกงชิงวี่ไปที่โถงด้านหน้า

ตลอดทางไม่ด้พูดคุยอะไรกัน เมื่อเข้าไปด้านใน อันหลิงหยุนก็จัดแจงแบ่งพื้นที่ของโถงด้านหน้า ให้กงชิงวี่นั่งอยู่ในที่ส่วนตัวของเขา ส่วนนางก็เริ่มเตรียมการอยู่อีกทางด้านหนึ่ง

โถงด้านหน้าพื้นที่กว้างขวาง อันหลิงหยุนใช้เพียงแค่ส่วนเล็กๆ ส่วนที่เหลือยกให้กงชิงวี่ทั้งหมด

ตอนที่เพิ่งเริ่ม นักบัญชีต่างมองอันหลิงหยุนด้วยความมึนงง จนลืมเรื่องที่ทำอยู่ในมือไปหมดสิ้น

กงชิงวี่กระแอมขึ้นมาสองครั้งอย่างไม่มีเหตุผล จึงสามารถดึงสติทุกคนกลับคืนมา

ทุกคนต่างมองหน้ากันและกันอย่างละอายใจ และเริ่มที่จะลองคาดเดาความคิดของท่านอ๋อง

พระชายาเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ก็ชดเชยไม่ได้กับพฤติกรรมที่ไร้สาระและเลวร้ายที่พระชายาคนก่อนเคยทำเอาไว้ ท่านอ๋องไม่ถือสาแล้วจริงหรือ

เหล่านักบัญชีก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ อันหลิงหยุนเองก็จัดการธุระของตัวนางเองต่อ อาหยู่นำโต๊ะเก้าอี้และขวดเข้ามา พร้อมด้วยสาวใช้อีกสองคน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน