ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 764

บทที่ 764 การร้องเรียนของเสนาบดีเว่ย

ทันใดนั้นกงชิงวี่ก็รู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก ที่ไม่สามารถพิชิตใจผู้หญิงได้สักคน

ซูอู๋ซินมองอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ ราชบุตรเขย คดีนี้ยกให้เป็นผู้จัดการก็แล้วกัน เนื่องด้วยท่านเสนาบดีเว่ยและคนอื่นๆต่างคิดว่าบุรุษนั้นไร้ประโยชน์ ท่านจะไม่แสดงให้พวกเขาเห็นหน่อยหรือว่าตัวท่านนั้นมีประโยชน์แค่ไหน ”

กงชิงวี่ปฏิเสธ “ เหตุใดเปิ่นหวางต้องแสดงให้พวกเขาดู เดิมทีเปิ่นหวางก็ไม่ได้เป็นขุนนางของที่นี่ ถึงแม้ว่าจะเป็นราชบุตรเขยแต่เรื่องนี้ก็ไม่สมควรอย่างยิ่ง ข้าเป็นราชบุตรเขย สำหรับการจัดการคดีนี้……เปิ่นหวางไม่มีความเห็นใดๆ ส่วนคนที่อวดดีเหล่านี้สำหรับเปิ่นหวางแล้วมิได้มีค่าแต่อย่างใด ”

“ ในเมื่อท่านราชบุตรเขยอภิเษกกับองค์รัชทายาทแล้ว ก็ถือว่าเป็นคนของประเทศเฟิ่งแล้วกึ่งนึง คดีนี้ใช้เวลามากเกินไป นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลคดีในเมืองหลวงล้วนแต่เป็นสตรี ดังนั้นคดีนี้จึงตกอยู่ในความพิจารณาของผู้เป็นภรรยาไปโดยปริยาย

ฝ่าบาทก็เคยทรงทอดพระเนตรคดีนี้และในการพิจารณาคดีครั้งที่สามนั้น ผู้ที่ไม่มีความผิดต่างพากันยอมรับผิดเพราะทนการทรมานไม่ไหว แม้พวกเขาจะไม่ตายแต่ก็เหมือนตาย

เจ้าก็แค่คิดว่าเจ้านั้นทำเพื่อความสุขของรัชทายาท ถ้าไม่เช่นนั้นฝ่าบาทก็มีวิธีให้องค์รัชทายาทรับช่วงต่อคดีนี้อยู่ดี ”ความหมายก็คือหากกงชิงวี่ไม่ไป องค์รัชทายาทก็ต้องไป

ผู้คนต่างหันมามองกงชิงวี่ อย่างที่ทุกคนทราบกันว่าตอนนี้องค์รัชทายาทกำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับการเปิดโรงหมอเพื่อรักษาผู้คน ในเมืองหลวงเป็นที่รู้กันว่าองค์รัชทายาทเป็นหมอเทวดาที่สามารถรักษาคนใกล้ตายให้หายเป็นปกติได้เหมือนเดิม

กงชิงวี่คำรามเบาๆ ก่อนที่จะจากไป

“ อ๋าวชิง เจ้าไปดูเขาหน่อย เกรงว่าหากเข้าไม่ต้องการที่จะไป เขาก็จะไม่ไป คงต้องไปเชิญเสด็จรัชทายาท ” ซูอู๋ซินสั่ง อ๋าวชิงเมื่อได้รับคำสั่งก็ตามออกไป

ผู้คนต่างคิดไม่ถึง หรือว่าท่านอ๋องแห่งประเทศเหลียงจะเกรงกลัวองค์รัชทายาท?

เฟิงไป๋ซูลุกขึ้น และสองสามีภรรยาก็เดินออกไป

กงชิงวี่ตรงไปที่สถานที่เกิดเหตุ โดยมีอ๋าวชิงตามหลังไปพร้อมกับเสนาบดีเว่ยและผู้ว่าการ

เสนาบดีเว่ยไม่เชื่อว่าบุรุษจะมีเกียรติและสติปัญญาที่สูงส่งกว่าสตรี

ที่นี่ผู้ว่าการเป็นผู้รับผิดชอบ

ระหว่างทางอ๋าวชิงได้นำเอกสารทางการให้กงชิงวี่ดู แต่เขาก็ไม่ดู

ไม่นานทุกคนก็มาถึงสถานที่เกิดเหตุ กงชิงวี่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและสามีของช่างตีเหล็ก

สามีของช่างตีเหล็กชื่อจูหน่ายซาน เป็นคนซื่อ รูปร่างสูงใหญ่กำยำ ใบหน้ามีหนวดเครา ซึ่งต่างไปจากชาวประเทศเฟิ่ง

ทั่วร่างกายของจูหน่ายวินเต็มไปด้วยบาดแผล เขาเดินคล้ายคนเป็นง่อย สองมือสองเท้าถูกตีตรวนใส่กุญแจ เขาคุกเข่าและไม่พูดออกออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความละอายใจ

กงชิงเจวี่ยถาม “ เจ้าคือจูหน่ายซานใช่หรือไม่? ”

“ ขอรับ ”

“ เหตุใดเจ้าจึงฆ่าภรรยาของเจ้า? ” กงชิงวี่ถาม คนอื่นๆจึงนั่งอยู่ทั้งสองฝั่ง จูหน่ายซานทั้งส่ายหน้าและพยักหน้า เวลาผ่านไปนานจึงบอกว่าเข้าไม่รู้

กงชิงวี่ถาม “ ผู้ใดบอกเจ้า? ”

“ น้องสาวของช่างตีเหล็กขอรับ ”

“ ไปพาตัวนางมาที่นี่ ”

ไม่นานน้องสาวของช่างตีเหล็กก็มาถึง ทันทีที่นางเห็นจูหน่ายซานคุกเข่าอยู่ก็ตรงเข้าไปทำร้าย กงชิงวี่จึงให้นำเซียงหยุนน้องสาวของช่างตีเหล็กไปโบยสิบไม้

เสนาบดีเว่ยที่เห็นดังนั้นก็รีบลุกขึ้นและพูดอย่างขุ่นเคือง “ ราชบุตรเขย ท่านลงโทษผู้ร้องเรียนได้อย่างไรกัน ”

“ คดีนี้จูหน่ายซานถูกทรมานโดยไม่มีสาเหตุ เมื่อนางมากลับทำร้ายคน คงหาได้เห็นราชบุตรเขยอย่างข้าอยู่ในสายตาจริงหรือไม่ ”

เสนาบดีเว่ยกลับไปนั่นที่ ใบหน้าอายุสามสิบกว่าๆของนางซีดขาวและตัวสั่นไปด้วยความโกรธ

เมื่อเซียงหยุนถูกโบยเสร็จกงชิงวี่จึงถาม “ เพื่อนบ้านที่ลักลอบมีความสัมพันธ์กับพี่สาวเจ้าอยู่ที่ไหน? พวกเขาลักลอบมีความสัมพันธ์กันมานานแค่ไหน? ”

เซียงหยุนปฏิเสธ “ ข้าน้อยไม่รู้เจ้าค่ะ ”

“เปิ่นหวางจะโบยเพราะเจ้าไม่รู้ เปิ่นหวางจะโบยเจ้าจนกว่าเจ้าจะรู้ นอกเสียจาก……ท่านผู้ว่าการ ท่านจำไปตามหาคนที่ลักลอบมีความสัมพันธ์กับช่างตีเหล็กมา ก่อนหน้านี้นางบอกว่าท่านผู้ว่าการไม่มีความสามารถ ตามกฎหมายแล้วความผิดนี้โทษคือโบยห้าสิบไม้ หากท่านผู้ว่าการหาคนๆนั้นเจอ เจ้าจะต้องโดนโบยห้าสิบไม้ ”

สีหน้าของผู้ว่าการเปลี่ยนไป “ ราชบุตรเขย นี่เป็นการที่ให้คนที่ไม่ผิดยอมรับผิดเพราะต้องโทษทรมานหรือว่าเป็นการสอบสวนดำเนินคดีกันแน่ ”

เมื่ออันหลิงหยุนทำเรื่องของนางเสร็จ ก็ออกไปดูเช่นกัน

เมื่อถึงประตูเมืองอันหลิงหยุนที่อยู่ด้านล่างก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน บนกำแพงเมืองมีศพสองร่างและอีกหนึ่งซากโครงกระดูกที่เน่าเปื่อยถูกแขวนอยู่

เมื่ออันหลิงหยุนเห็นก็สึกสะอิดสะเอียนและอยากอาเจียนนัก นางจึงหันหลังเดินกลับไป

เมื่อมาถึงประตูโรงหมอ ก็พบกับกงชิงวี่ที่ยืนมองรอบๆอยู่ อันหลิงหยุนจึงหยุดเดิน “ ท่านอ๋องมาทอดพระเนตรหม่อมฉันหรือเพคะ? ”

“ ไม่ได้หรือ? ” แล้วจับมืออันหลิงหยุนให้เข้าประตูมา

“ เรื่องที่หน้าประตูเมืองคงไม่ใช่ฝีมือท่านอ๋องใช่หรือไม่เพคะ ”

“ อืม ”

อันหลิงหยุนแปลกใจ “ ท่านอ๋องทรงทำเช่นนี้ ต้องการให้ประชาชนประเทศเฟิ่งเป็นคนเช่นไรเพคะ ”

“ ก็ไม่เป็นอย่างไร หากข้าไม่ทำเช่นนั้นแผ่นดินประเทศเฟิ่งก็จะเป็นเช่นนี้ไปตลอด ฝ่าบาททรงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ นับจากวันนี้จะไม่มีใครมาสร้างเรื่องรำคาญใจให้ข้าอีกแล้ว ”

“ แต่ที่จริงแล้ว ท่านกำลังสังหารคนอย่างเปล่าประโยชน์ ”

พระราชวังเฟิง ณ ตำหนักฟินิกซ์

เฟิงไป๋ซูกำลังนั่งใจลอยอยู่ที่ห้องบรรทม ด้านล่างก็มีเสนาบดีเว่ยที่กำลังยืนฎีการ้องเรียน อีกด้านเป็นซูอู๋ซินนั่งจิบชาอยู่โดยมีอ๋าวชิงยืนอยู่ใกล้ๆ

“ ฝ่าบาทเพคะ ข้าเป็นสตรีชาวเฟิงจะถูกกระทำเช่นนี้ได้อย่างไร ท่านออกนอกก็ชอบมีความสัมพันธ์ชู้สาว ก็มีเหตุจำเป็น เดาว่าเป็นความอ้างว้างของหญิงคนหนึ่ง ถึงได้เป็นเช่นนี้ ”

“เสนาบดีเว่ย วันนี้ข้าเหนื่อยดังนั้นขอให้ท่านพูดเรื่องนี้กับจักรพรรดิเถิด”

เฟิงไป๋ซูสะบัดมือและลุกขึ้นเพื่อไปพักผ่อน อ๋าวชิงก็รีบตามไป

เมื่อเข้ามาถึงในที่บรรทมอ๋าวชิงก็บอกเล่าเหตุการณ์ให้เฟิงไป๋ซูได้รู้ และเวลานี้เองเสนาบดีเว่ยกำลังฟ้องร้องเรื่องนี้กับซูอู๋ซิน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน