บทที่ 777 ความรักฝังรากลึก
"สวีกงกง ข้าก็ไม่ได้กินคน ท่านยังอยากวิ่งหนีอีก?" อันหลิงหยุนพูดติดตลก ตอนนี้เองสวีฝูจึงได้หยุดลง ตื่นเต้นจนไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร เขาจึงทำเพียงแค่คุกเข่าลงไปให้กับอันหลิงหยุน
"ข้าน้อยทำไม่ได้ มกุฎราชกุมารีทำเช่นนี้ไม่ได้ ฐานะแตกต่างกันพ่ะย่ะค่ะ!" สวีฝูแทบจะร้องไห้แล้ว
อันหลิงหยุนสั่งให้คนพยุงสวีฝูขึ้นมา ให้เขานั่งบนเก้าอี้ เมื่อเขาไม่เชื่อฟังอันหลิงหยุนจึงเรียกซูมู่หรง "รบกวนองค์ชายสามช่วยจับสวีกงกงกดไว้ให้หน่อย ตอนข้าตรวจให้เขา เขาจะได้ไม่ทำตัวไม่เชื่อฟัง"
ซูมู่หรงเดินไปจับไหล่ของสวีฝู และกดสวีฝูเอาไว้
สวีฝูจึงไม่กล้าลุกขึ้นมาอีก อันหลิงหยุนเอื้อมมือไปจับข้อมือของสวีฝู นางไม่จำเป็นต้องสแกน แต่ใช้ความรู้ทางวิชาชีพที่เรียนมา เพื่อตรวจดูสวีฝูอยู่สักพัก
หลังจากตรวจดูอันหลิงหยุนก็ถามสองสามอย่าง "กงกงเคยได้รับบาดเจ็บตอนเด็กหรือเปล่า?"
สวีฝูค่อย ๆ มองไป "ตอนที่ข้าเพิ่งเข้าไปในวังแรก ๆ ยังไม่ค่อยรู้ว่าเรื่องรู้ราว ทำให้ท่านอาจารย์โกรธ อาจารย์จึงใช้ตะบองไม้ทุบตี แต่ก็ไม่ได้ตีจนหัก เพียงแต่ว่าหลังจากที่ตีเสร็จก็โยนออกไปข้างนอก ตอนนั้นสภาพอากาศหนาวเย็นอย่างผิดปกติ พวกเราที่นี่ไม่มีช่วงเวลาหนาว แต่ในปีนั้นมีหิมะตกลงมาเล็กน้อย และคงเพราะพระเจ้าเห็นว่าข้าไม่รู้เรื่องรู้ราว หนาวมาก ต่อมาจึงล้มป่วย และมักจะรู้สึกสุขภาพไม่ดี"
"เช่นนั้นก็เป็นเวลาหลายปีแล้ว นี่ก็นับได้ว่าท่านเป็นโรคที่ขามีความเย็นสะสมคั่งค้างทำให้เกิดอาการ กลับไปข้าจะลองจ่ายยาแช่เท้าให้ท่านร่วมกับการฝังเข็มดู โรคนี้เป็นโรคที่รักษาไม่หายแต่ไม่ถึงตาย ตอนอากาศไม่หนาวยังพอทนได้ แต่หากอากาศหนาวก็จะทรมานขึ้น
แม้ว่าที่หนานอี้นี้จะไม่หนาว แต่ที่หนานอี้อากาศชื้น
หากไม่ได้ป่วยก็ยังดี แต่มันพูดยากสำหรับคนอย่างท่าน หากรู้สึกว่าสุขภาพแย่ขึ้นมาจริง ๆ ความชื้นก็จะหนักข้อขึ้น"
"หมอหลวงก็พูดเช่นนี้ ข้าก็ไม่ได้ใส่ใจ อดทนผ่านพ้นมาโดยตลอด" สวีกงกงปลงตก
อันหลิงหยุนหยิบเข็มเงินออกมาจากตัว และกล่าวว่า "เข้าไปเถอะ ข้าจะฝังเข็มให้ท่านเอง"
“ให้หมอหลวงทำเถอะพ่ะย่ะค่ะ” แน่นอนว่าสวีฝูปฏิเสธ
อันหลิงหยุนไม่สนใจเขา สาวเท้าเข้าไปตรง ๆ
ทางด้านใน อันหลิงหยุนเข้าไปรอ สวีฝูจึงจำต้องตามเข้าไป ฮ่องเต้หนานอี้วางถ้วยชาในมือลง แล้วก็ตามเข้าไปเช่นกัน
สวีฝูเข้าประตูไปแล้วก็ยังปฏิเสธ อันหลิงหยุนให้ไปเขานอนลงบนเตียงโล๋ห้าน ในห้องนี้มีเตียงหลังหนึ่งที่ปกติมักจะใช้นั่งเล่นหมากรุก อันหลิงหยุนให้สวีฝูขึ้นไป
สวีฝูรีบปฏิเสธ: "คงไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ"
"ขึ้นไปเถอะ ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้หรอก" อันหลิงหยุนมองซูมู่หรง ซูมู่หรงโยนสวีฝูลงบนเตียงทื่อ ๆ ราวกับหิ้วไก่ก็ไม่ปาน
สวีฝูจำต้องนอนลง อันหลิงหยุนจึงได้กล่าวว่า: "ม้วนขากางเกงขึ้น นอนบนเตียง"
ใบหน้าของสวีฝูเขียวคล้ำไปแล้ว "มิได้ ๆ "
“ท่านช่างดื้อด้านยิ่งนัก ข้าเป็นหมอ แค่ปฏิบัติต่อข้าในฐานะหมอก็พอแล้ว หากไม่ใช่เพราะท่านเป็นคนเก่าแก่ของไทซางฮวางละก็ ข้าจะไม่ตรวจให้ท่านหรอกนะ”
น้ำตาของสวีฝูไหลนองออกมา ตั้งแต่ไทซางฮวางจากไป ยังไม่เคยมีใครปฏิบัติกับเขาดีถึงเพียงนี้มาก่อนเลย
เมื่อเห็นว่าสวีฝูไม่ขยับ อันหลิงหยุนจึงสั่งให้คนถอดรองเท้าให้เขา สวีฝูได้แต่ม้วนขากางเกงขึ้นอย่างว่าง่าย และหมุนตัวขึ้นไปนอนตรงนั้น
ขาทั้งสองข้างของสวีฝูบวมแล้ว สำหรับผู้ชาย การที่สองขาบวมไม่ใช่เรื่องดี แสดงว่าไตก็มีความผิดปกติเช่นกัน อันหลิงหยุนจนปัญญา สุดท้ายวิธีการดั้งเดิมก็ใช้ไม่ได้จริง ๆ ไม่แม่นยำเท่ากับการสแกน
ระบบของนางก็เหมือนกับการนำอุปกรณ์ตรวจสอบของโรงพยาบาลทั้งหมดมาด้วย ตรงไหนผิดปกติก็ตรวจตรงนั้น
อันหลิงหยุนกดขาของสวีฝูทำให้สวีฝูตกใจจนตัวสั่น อันหลิงหยุนมองไป สวีฝูที่นอนอยู่ตรงนั้นอายุอานามปาไปเท่าไหร่แล้วกันเนี่ย ยังตกใจจนสั่นอีก
อันหลิงหยุนจึงกล่าวว่า "ช่วงนี้ท่านปัสสาวะสีเหลืองอมแดง และเวลาจะถ่ายก็ยากเย็นใช่ไหม?"
สวีฝูตกตะลึงไปชั่วขณะ ส่งเสียงดังอืมอย่างอู้ ๆ อี้ ๆ
เดิมทีเมื่อไทซางฮวางจากไป เขาต้องการติดตามไปด้วย แต่เขาสัญญากับไทซางฮวางว่าจะต้องรอให้ทายาทขององค์ชายสองมาก่อน เขารอมาจนถึงตอนนี้ ก็เกือบจะสิบปีแล้ว
ตอนนี้กลับไม่อยากจากไปแล้ว ตัดใจทิ้งนายน้อยไว้ไม่ลง
ตอนนี้หลิงหยุนไม่เป็นไรแล้ว มองไปที่ซูมู่หรง "ท่านเป็นอะไรไป?"
ซูมู่หรงอดไม่ได้ที่จะ ตะลึงไปชั่วขณะ "ช่วงนี้อาจเพราะเป็นหวัด บวกกับครั้งล่าสุดที่ได้รับบาดเจ็บยังไม่กระฉับกระเฉง ที่นี่อากาศชื้นยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่ แย่มาตั้งแต่เด็กแล้ว”
"ทำตัวเอง ที่นี่ไม่เหมาะสำหรับเจ้า เจ้าก็รู้"
อันหลิงหยุนเคาะโต๊ะอย่างไม่สบอารมณ์ บอกให้ซูมู่หรงนั่งลง
ชาติที่แล้วซูมู่หรงเป็นชาวเหนือ เขาเคยชินกับการวนเวียนสี่ฤดูกาลของภาคเหนือ ตอนที่อันหลิงหยุนติดตามเขาไปปฏิบัติภารกิจ ยังเคยไปทางตอนใต้สถานที่ซึ่งมีน้ำมากและอากาศชื้นบางแห่งด้วย เมื่อเขาไปเขาก็ปรับตัวไม่ได้ ตอนเป็นหนัก ๆ เขาก็จะอาเจียนท้องเสีย
การปรับตัวของร่างกายให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องแปลกมาก มักจะถูกครอบงำโดยสมองได้ง่ายที่สุด หากสมองไม่ชอบสถานที่นี้ ร่างกายก็จะปฏิเสธมันได้ง่าย
ซูมู่หรงไม่ชอบสภาพอากาศชื้นในชาติที่แล้ว ตอนนี้ก็ยิ่งไม่ชิน
บนหน้าของซูมู่หรงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ยิ้มออกมาเห็นฟันขาวราวหิมะทำให้ผู้คนดวงตาเปล่งประกาย รวมกับรอยยิ้มที่น่าหลงใหลของเขา ทำให้บรรดาสาว ๆ ในวังหลงใหลจนเคลิบเคลิ้ม
หลิงหยุนกลับไม่เห็นด้วย ราวกับว่ามีภูมิคุ้มกันแล้ว
ในทางกลับกันฮ่องเต้หนานอี้ที่นั่งอยู่ด้านข้างนั้นแปลกมาก รู้สึกว่าทั้งสองคนนี้มีความรู้สึกเชิงชู้สาว และไม่ได้รู้จักกันแค่วันสองวัน
แต่เรื่องของลูกชายเขาพูดได้ว่ารู้อย่างทะลุปรุโปร่ง เขาฉลาดมีความสามารถ เป็นผู้สืบทอดที่เขาพอใจมากที่สุด เลี้ยงดูมาตั้งแต่อายุไม่กี่ขวบ สำหรับเขาตลอดมาไม่เคยมีสองจิตสองใจ แล้วก็ไม่เคยแตะต้องอันหลิงหยุนเช่นกัน มันเกิดอะไรขึ้นกัน?
เป็นไปได้ไหมว่าเจอกันข้างนอกในครั้งนั้น ความรักก็ฝังรากลึกเสียแล้ว?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...