บทที่ 825 ความอิจฉาของเจ้าห้า
อันหลิงหยุนเงยหน้าไปมองเฟิ่งป่ายซู เฟิ่งป่ายซูยังมองดูเจ้าห้าอย่างละเอียด
ยังไม่รออันหลิงหยุนถาม เฟิ่งป่ายซูก็ถอดถุงเท้าของเจ้าห้าออกแล้ว เผยเท้าเล็กๆของเขาออกมา เท้าเล็กที่ขาวนุ่ม ฝ่าเท้าแดงระเรื่อดูมีเลือดฝาด ดูแล้วแข็งแรงมาก เฟิ่งป่ายซูอดยิ้มและกล่าวขึ้นมาไม่ได้ว่า: “ดูแล้วผอมบางมาก ในความเป็นจริงในบรรดาเด็กๆเหล่านี้ มีเพียงคนนี้ที่ร่างกายแข็งแรงดีเป็นพิเศษ กระฉับกระเฉงทรงพลัง”
อันหลิงหยุนไม่เข้าใจ เฟิ่งป่ายซูหันฝ่าเท้าของเจ้าห้าไปทางอันหลิงหยุนและกงชิงวี่พวกเขา
อันหลิงหยุนก้มหน้าลงไปมอง ตะลึงอยู่พักใหญ่
“ท่านอ๋อง......”
กงชิงวี่ก็เห็นแล้ว ใต้ฝ่าเท้าซ้ายของลูกชายมีเท้าเหยียบเจ็ดดาว(เหยียบเจ็ดดาวควบคุมทหารใต้หล้าเกิดมาเพื่อเป็นจักรพรรดิ)
อันหลิงหยุนแปลกใจ: “ก่อนหน้านั้นไม่เคยเห็นพวกนี้เลย ทำไมตอนนี้ถึงได้มีสิ่งนี้เกิดขึ้นมาได้?”
“เขาน่าจะไปเปิดบางอย่างที่ไม่สมควรจะเปิดเข้า บวกกับครั้งนี้เขาฝืนเก็บราชาหนอนพิษกู๋น้ำแข็งเอาไว้ ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้น และในอนาคตจะเป็นอย่างไรยังพูดได้ยาก”
เฟิ่งป่ายซูกล่าวในขณะที่ใส่ถุงเท้าให้เจ้าห้าไปด้วย ตบเจ้าห้าเบาๆ เอาแขนเสื้อคลุมเอาไว้แล้วมองดูซูอู๋ซินกับกงชิงวี่
ซูอู๋ซินกล่าวว่า: “ฮ่องเต้หญิงแห่งประเทศเฟิ่ง นับแต่ก่อตั้งประเทศฮ่องเต้หญิง ก็มีวิชาที่ตกทอดกันมาวิชาหนึ่ง สามารถทำนายทางโหราศาสตร์ สามารถดูดวงตรวจชะตา!”
อันหลิงหยุนกับกงชิงวี่ประหลาดใจ ไม่เคยได้ยินมาก่อน
กงชิงวี่ถาม: “หมายความว่า ฮ่องเต้หญิงดูออกว่าแม่ทัพอันเป็นคนที่สามารถไว้ใจฝากฝังได้?”
“สามารถกล่าวเช่นนั้นได้ ดูจากใบหน้าของแม่ทัพอัน ก็เพียงพอที่จะเห็นว่าแม่ทัพอันเป็นคนซื่อสัตย์และภักดี มอบหยุนหยุนให้กับแม่ทัพอัน สามารถวางใจได้ และ......”
ซูอู๋ซินมองเฟิ่งป่ายซู ไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่
เฟิ่งป๋ายซูกล่าวว่า: “การแต่งงานของพี่อันหาได้ยาก จะมาช้า”
อันหลิงหยุนเพ่งตามอง: “ไม่ใช่ว่าไม่มี?”
“อืม ไม่ใช่ว่าไม่มี ก่อนหน้านี้ตอนที่พี่อันไปประเทศเฟิ่ง เคยดูอย่างละเอียด เขายังไม่มีดวงวิวาห์เจิดจรัสแต่มาคราวนี้ดวงวิวาห์เข้าสู่ระหว่างคิ้วของเขา คาดว่าเรื่องดีๆของเขาใกล้เข้ามาแล้ว”
เมื่อเฟิงป่ายซูพูดคำนี้ออกมาอันหลิงหยุนก็นึกขำ หรือจะมีความหวังแล้ว!
อันหลิงหยุนยิ้มและถามว่า: “สามารถดูที่มาของผู้หญิงคนนี้หรือไม่?”
“อืม สามารถดูออกได้บ้าง คนคนนี้กับพี่อันรู้จักกันมาหลายปีแล้ว และยังเป็นเมียสาว!”
“หยุนจิ่น?”
อันหลิงหยุนอดตกใจไม่ได้ เก่งขนาดนั้นเลย!
กงชิงวี่ก็ต้องไม่เชื่ออยู่แล้ว เขาถาม: “ฮ่องเต้หญิง ช่วยทำนายให้ข้าได้หรือไม่”
เฟิ่งป่ายซูเงยหน้า: “ทำนายไว้นานแล้ว เจ้าอยากถามอะไร?”
“ข้ามีลูกสาวไหม?”
“มี เพียงแต่ว่าเจ้าจะมีลูกสาวคนเดียวเท่านั้น ลูกชายห้าคน นั่นหมายความว่า ลูกคนต่อไปก็ต้องเป็นลูกสาว เว้นแต่จะคลอดไม่ออกเกิดเรื่องขึ้นกับเด็ก ค่อยคลอดใหม่!”
“......ไม่เป็นเช่นนั้นแน่” กงชิงวี่ตื่นเต้นมาก แต่พอพิจารณาจากอีกมุมหนึ่งก็รีบถามด้วยความกังวลทันที: “ข้ากับหยุนหยุนอายุยังน้อยขนาดนี้ ทำไมถึงมีลูกแค่หกคน?”
“หกคนไม่น้อยแล้ว”
เฟิ่งป่ายซูทำท่าทางเหมือนกำลังมองคนน่าเบื่อคนหนึ่ง
กงชิงวี่รู้สึกอายเล็กน้อย: “ถึงแม้ลูกชายของข้าจะมีหลายคน แต่ก็เกิดในท้องเดียว หากมีลูกสาวอีกหนึ่งคน ก็หมายความว่า หยุนหยุนกับข้าจะให้กำเนิดแค่สองท้อง แต่อายุเรายังน้อยขนาดนี้”
“ดังนั้นนี่ก็คือปัญหาที่มีอยู่ เจ้าอยากจะถามข้าว่า อายุน้อยๆทำไมถึงตั้งท้องแค่สองครั้ง ใช่ไหม?”
“......” แผ่นหลังของกงชิงวี่เย็นยะเยือก เฟิ่งป่ายซูพูดเข้าไปถึงข้างในใจเขา
“ข้าไม่เอาก็ได้” จู่ๆกงชิงวี่ก็กล่าวออกมาอย่างเด็ดขาด
เฟิ่งป่ายซูกลับกล่าวว่า: “ข้าเห็นคิ้วเจ้าแดงขึ้นมาแล้ว เชื่อว่าไม่ช้าเจ้าก็จะเป็นพ่อคนอีกครั้ง เจ้าไม่เอาก็สายเกินไปแล้ว และดูจากความไม่เต็มใจของเจ้า ชะตาชีวิตเจ้าจะมีลูกสาว และเป็นลูกสาวผู้สูงศักดิ์ หนีไม่พ้น!”
“ท่าน......”
กงชิงวี่โกรธจนกัดฟัน อันหลิงหยุนเห็นท่าทางชักดาบดึงธนูของเขา ถึงได้ลุกขึ้นกล่าวว่า: “เรากลับไปก่อนดีกว่า วันนี้มาเพื่อดูว่าพวกท่านอยู่สบายดีไหม อีกอย่างหนึ่งที่นี่คือประเทศต้าเหลียง พวกท่านทั้งสองต่างเป็นฮ่องเต้ ไม่รู้ว่าอยากจะพบฮ่องเต้ชิงหยู่หรือไม่?”
“ไม่ต้องแล้ว ข้าสองคนมาที่นี่เพื่อเที่ยวเล่นเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากขนาดนั้น อีกสองสามวันรอให้ในจวนพวกเจ้าสงบสุขลงแล้ว เราก็จากไป”
“อืม” อันหลิงหยุนก็ไม่พูดอะไรมากอีก ถึงอย่างไรฐานะของเขาก็สูงส่ง นางก็ไม่อยากพูดอะไรมาก มองกงชิงวี่ครู่หนึ่ง หันหลังก็เดินจากไป
ออกจากประตูอันหลิงหยุนอุ้มเจ้าห้าไว้แล้วตบเบาๆ ก้มหน้ามองดูเจ้าห้า: “แม่คิดว่าร่างกายเจ้าไม่แข็งแรงเสียอีก ร่างกายเจ้าแข็งแรงดีขนาดนี้!”
“แค่กๆ......”
เจ้าห้าหลับอยู่แต่ก็ไอขึ้นมา อันหลิงหยุนตกใจจนมือสั่น เกือบจะโยนเจ้าห้าออกไป กงชิงวี่ที่อยู่ด้านข้างคว้าลูกชายมากอดเอาไว้ ตกใจจนเหงื่อแตก
กงชิงวี่เงยหน้าขึ้นมองอันหลิงหยุนอย่างไม่สบอารมณ์: “พูดจาเหลวไหล”
อันหลิงหยุนก็ตกใจไม่น้อย เห็นลูกชายไม่เป็นอะไร ก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก
อุ้มลูกชายกลับไป ครั้งนี้ไม่กล้าพูดเหลวไหลแล้ว เจ้าห้าหันหัวไปนอนดีๆ อันหลิงหยุนถอนหายใจโล่งอก
คิดในใจ ความอิจฉาของเด็กคนนี้ก็มากเกินไปหน่อยแล้ว เป็นใช่นี้ต่อไปยังใช้ได้หรือ?
แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ใช้ไม่ได้แล้วจะทำอย่างไรได้?
ผัวเมียกลับไปอยู่ข้างๆลูกๆ วางเจ้าห้าลง ต้าเป่าเป้ยทุกคนต่างก็รู้ว่าหลายวันมานี้น้องชายลำบาก นั่งโอบล้อมมองดูอยู่พร้อมกัน ใครก็ไม่กล้ารบกวน อันหลิงหยุนกลับรู้สึก ต้าเป่าเป้ยทั้งสี่คนนี้น้อยใจและอึดอัดมาก จะอย่างไรพวกเด็กๆก็สู้นิ้วมือเดียวของเจ้าห้าไม่ได้
เจ้าห้าก็ขี้อิจฉาอีก ตั้งแต่เล็กก็เป็นเช่นนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...