ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 861

บทที่ 861 พวกเด็กๆที่เงียบขรึม

พวกเด็กๆไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่ามีคนกำลังมองพวกเขาอยู่ พ่อบ้านปิดประตูอย่างไม่สบอารมณ์นัก เขาหันหลังพาซูมู่หรงเดินออกมาด้านนอก เมื่อออกมาถึงด้านนอก พ่อบ้านก็หันหลังเดินจากไป เหลือเพียงซูมู่หรงที่ยังยืนอยู่ต่ออีกครู่หนึ่ง

เขารู้นานแล้วว่าอันหลิงหยุนมีลูกอยู่ที่นี่ห้าคน แต่ยังไม่เคยมีโอกาสได้เห็นมาก่อน

วันนี้ได้เห็นพวกเด็กๆ ก็รู้สึกว่าสวรรค์ได้ส่งคำเตือนลงมาให้เขาตั้งนานแล้ว

ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ปกติแล้วเป็นคนที่มีจิตใจงดงาม ไม่มีทางที่จะทิ้งขว้างลูกๆอย่างไม่แยแส ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าผู้หญิงคนนี้คืออันหลิงหยุน

จากที่เขาได้รู้จักและเข้าใจในตัวอันหลิงหยุน แม้กระทั่งคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับนางเลยแม้แต่น้อย นางยังพยายามช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ แล้วนางจะสามารถทอดทิ้งลูกๆของตนเองเพื่อที่จะไปกับเขาได้อย่างไร ?

หากเป็นเช่นนั้น นางคงไม่ใช่ผู้หญิงที่ชื่อว่าอันหลิงหยุนแล้ว

นางเคยพูดว่า ชีวิตของคนอื่นล้วนสำคัญกว่าตัวนางเอง ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีชีวิตเป็นเป้าหมาย หากมีชีวิตอยู่ต่อได้นั่นจึงจะถือว่าคุ้มค่า ทำไมเขาถึงลืมไปได้ ?

ซูมู่หรหยุดยืนอยู่ในลานจุนจื่อสักพัก แล้วหันมองสภาพแวดล้อมโดยรอบของลานจุนจื่อ สายตาของเขาไปหยุดอยู่ที่ป่าไผ่ด้านหลังลานจุนจื่อ มีลมพัดผ่านป่าไผ่มา ลมนั้นหอบเอากลิ่นจางๆ ของไผ่มาด้วย นั่นเป็นกลิ่นที่เขาไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน

ในชาติก่อน เขาใช่เวลากว่าครึ่งชีวิตของเขาในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนอีกครึ่งชีวิตที่เหลือ ก็หมกมุ่นอยู่กับงานวิจัยว่าจะหาคนๆ หนึ่งเจอได้อย่างไร ถึงแม้จะอยู่คนละโลกก็ต้องหาให้เจอให้ได้ เขาเสาะหามาหลายสถานที่ หาจนกระทั่งผมกลายเป็นสีขาว

เขาไม่เคยคิดที่จะหันมองต้นไม้ใบหญ้าที่อยู่ข้างๆ เขาถึงขนาดไม่เคยลิ้มรสถึงความสุขบนโลก และไม่เคยเห็นถึงความงดงามของชีวิต

เขามัวแต่พยายามมาตลอดชีวิต พยายามเพื่อที่จะสามารถต่อสู้กับกงชิงวี่ได้ พยายามเพื่อที่จะได้มีอำนาจมาไว้ในมือ

ซูมู่หรงรู้สึกเหนื่อยแล้ว หันมองโดยรอบด้วยจิตใจที่เงียบสงบ จากนั้นจึงหันมองเข้าไปในห้องของพวกเด็กๆ เปิดประตูแล้วเดินเข้าไป

หลายครั้งที่เด็กๆ หันมองคนที่เดินเข้ามาในห้องพรอ้มกันโดยไม่ได้นัดหมาย เมื่อเห็นซูมู่หรงต่างก็นิ่งเงียบไป พวกเขาใช้ดวงตาคู่สวยจ้องมองชายหนุ่มรูปงามที่เดินเข้ามาในห้องด้วยความแปลกใจ ชายหนุ่มหันไปยิ้มให้พวกเขาอยู่สักครู่ พวกเด็กๆ ต่างก็พากันลุกขึ้นยืนในทันที จากนั้นจึงพิจารณาดูซูมู่หรงแล้วรู้สึกแปลกใจขึ้นมา

หวางหวยอันลุกยืนขึ้น มองพิจารณาพลางถามว่า : “ท่านคือซูมู่หรง ?”

“ข้าเอง”

ซูมู่หรงเอ่ยปากถาม : “ท่านคือ ?”

“ข้าคือหวางหวยอัน !”

“ถ้าจำไม่ผิด ท่านก็คือกั๋วจิ้วน้อย ?”

“วันนี้องค์ชายสามมาถึงที่นี่ ไม่ทราบว่ามีเรื่องสำคัญอะไรหรือไม่ ?” หวางหวยอันปฏิบัติต่อเขาอย่างมีมารยาท พวกเด็กๆ เองต่างก็ยืนอย่างมีมารยาทเช่นกัน

“ข้ามาที่นี่วันนี้ ก็ถูกพ่อบ้านนำทางมาที่นี่” ซูมู่หรงพูดพลางเดินเข้าไปในห้อง จากนั้นจึงหันมองพวกเด็ก ๆ

“ข้าเป็นคนที่มาจากที่อื่น พวกเจ้าอยากรู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร อยากรู้เรื่องของข้าหรือไม่ ?”

ถึงแม้สิ่งที่ซูมู่หรงเอ่ยมาจะเป็นประโยคคำถาม แต่ตัวเขาเองได้เดินเข้าไปนั่งภายในห้องเรียบร้อยแล้ว พวกเด็กๆ ต่างมองคนแปลกหน้าที่เดินเข้ามาในห้องด้วยความแปลกใจ แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้รู้สึกแปลกหน้าขนาดนั้น

เด็กๆ เงยหน้าขึ้นแล้วหันไปมองหวางหวยอันที่ยืนอยู่ทางด้านหลัง หวางหวยอันยืนลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงพูดขึ้นมาว่า : “ข้าไม่อาจไปจากที่นี่ได้ ไม่ทราบว่าองค์ชายสามจะถือสาหรือไม่ ?”

“ข้าไม่ถือสาหรอก กั๋วจิ้วอยู่ต่อเถอะ”

ซูมู่หรงหันมองพวกเด็กๆ แล้วลองพิจารณาดูอย่างละเอียด ถึงแม้จะเป็นฝาแฝดกันทั้งหมด แต่หน้าตาก็ไม่ได้เหมือนกันทั้งหมดเสียทีเดียว แต่ลักษณะของเด็กๆ พวกนี้ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว ถึงแม้อายุยังน้อย แต่ก็ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วจะเป็นพวกที่ไร้ซึ่งความทะเยอทะยานหรือไม่ ใบหน้านั้นดูมีอำนาจ ยิ่งแววตานั้นยิ่งแสดงออกถึงความสง่างาม

ซูมู่หรงนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ของอันหลิงหยุนที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันขนาดนั้น ก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย

การกลับชาติมาเกิด ถ้าหากสวรรค์ต้องการให้นางมาที่นี่จริงๆ เช่นนั้นตัวเขาเองก็คงจะต้องยอมรับ !

ตอนนี้เด็กๆ ต่างจ้องมองซูมู่หรง พวกเขาทำเหมือนกำลังอิจฉาอยู่อย่างไรอย่างนั้น

ซูมู่หรงกล่าวว่า : “จริงอยู่ว่านี่เป็นเพียงแค่ปืนของเล่นชนิดหนึ่ง แต่ของที่ข้าให้นั้นก็ย่อมจะต้องเป็นของที่ดีที่สุด ทุกครั้งที่แม่ของพวกเจ้ากลับไปหาข้า ข้าจะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับนางเสมอ ปืนของเล่นเหล่านี้ทำเลียนแบบของจริง รัศมีในการยิงคือภายในระยะสิบเมตร ก็เท่ากับการก้าวเท้าของข้าสิบห้าก้าว

แต่ระยะที่มีอานุภาพร้ายแรงที่สุดคือหกเมตร ก็คือความห่างประมาณเก้าก้าว”

เจ้าสี่ยื่นมือออกไปหยิบปืนพก คิดที่จะนำมาประกอบขึ้นใหม่

ซูมู่หรงหันไปมอง เด็กคนนี้ฉลาดมาก การเคลื่อนไหวของเขานั้นรวดเร็ว อีกทั้งเขายังทำแบบกะทันหันอีกด้วย คิดไม่ถึงเลยว่าเด็กคนนี้จะสามารถจดจำได้ ถึงขึ้นที่รู้ว่าจะต้องประกอบกลับเช่นไร

“ท่านแม่ของเจ้าเคยสอนเจ้าอย่างนั้นหรือ ?”

เจ้าสี่ส่ายหัว เขาไม่รู้เรื่องของท่านแม่ เขาเงยหน้าขึ้นมองซูมู่หรงด้วยท่าทีฉงนเล็กน้อย ยังไงเสียก็เป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่ง ถึงแม้จะฉลาดมากแค่ไหน แต่เรื่องบางอย่างที่ไม่มีขั้นตอน เขาก็ยังไม่เข้าใจ

ซูมู่หรงพูดว่า : “แม่ของเจ้านั้นยอดเยี่ยมมาก เป็นนักเรียนหญิงเพียงคนเดียวของข้า !”

หวางหวยอันขมวดคิ้วเล็กน้อย ยิ่งรู้สึกงงไปกันใหญ่ !

ซูมู่หรงหยิบปืนพกมา แล้วค่อยๆ ประกอบกลับเข้าไปทีละชิ้นๆ ประกอบไปพลางอธิบายไปพลาง เด็กๆ ต่างฟังอย่างมีสมาธิ ซูมู่หรงพูดว่า : “นี่เป็นพลาสติกที่มีความแข็งแรงอย่างมากชนิดหนึ่ง เป็นประเภทที่มีการบีบอัดขึ้นรูปตามแบบปืนจริง มีการผ่านความร้อนสูง

แม่ของพวกเจ้าเป็นหมอทหาร ด้วยเหตุนี้นางจึงกลายเป็นนักเรียนของข้า เป็นเพราะนางต้องการติดตามหน่วยพิเศษไปช่วยเหลือคน เวลาที่พวกเราออกไปปฏิบัติภารกิจ อาจต้องเผชิญหน้ากับอันตราย นางเป็นนักวิจัย เป็นหมอทหารที่ดีที่สุด ผู้บังคับบัญชาจึงสั่งให้นางเข้ามาอยู่ในหน่วยของพวกเรา แต่ในตอนแรกนั้นข้าไม่เห็นด้วย เป็นเพราะข้าไม่ชอบให้พวกผู้หญิงมาคอยเป็นตัวถ่วง

คนของข้าจะต้องเป็นพวกหัวกะทิ ถ้าหากพวกเขาได้รับบาดเจ็บ แม้ต้องตายก็ห้ามเปิดเผยอะไรออกมา การเข้ามาของนางนั้น ถือเป็นส่วนเกินเป็นอย่างมาก !”

ความรู้สึกของซูมู่หรงที่ส่งผ่านออกมานั้นดูแข็งแกร่งมาก พวกเด็กๆ ต่างจ้องมองเขา ใบหน้าเต็มใบด้วยความเคร่งขรึม !

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน