บทที่ 862 เพียงแค่ขู่เท่านั้น
“ต่อมา เมื่อนางมาแล้วข้าเองก็ต่อต้านนาง ทุกวันจะมีการฝึกอบรมอย่างเข้มข้น นางเกือบจะตายในมือของข้าแล้ว ทุกครั้งที่นางกลิ้งไปกลิ้งตัวในโคลน ก็จะถูกตีจนต้องกลิ้งไปทั่วพื้น ข้าหวังเหลือเกินว่านางจะเอ่ยปากออกว่ามาต้องการจะไป แต่นางก็ไม่ได้ทำ
เวลาผ่านไประยะหนึ่ง ไม่เพียงแต่นางไม่จากไปเท่านั้น แต่นางกลับผ่านการทดสอบอีกด้วย
จนในที่สุดก็กลายมาเป็นสมาชิกในหน่วยของข้า ติดตามข้าออกปฏิบัติภารกิจ
นางโดดเด่นเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่ออกปฏิบัติภารกิจเท่านั้น ยังทำวิจัยไปด้วย
ทำให้ทุกคนล้วนชื่นชม
พวกเรารู้จักกันมาสิบปี ภายในสิบปีนี้ข้าเองเริ่มที่จะมองนางต่างออกไป ตั้งแต่ตอนเริ่มต้นที่ดูถูกนาง จนกระทั่งในภายหลังกลับแอบชื่นชมนาง ข้าชอบแม่ของพวกเจ้าเข้าโดยไม่รู้ตัว !”
หวางหวยอันตะลึงเล็กน้อย จ้องมองซูมู่หรงแล้วพูดว่า : “ท่านเป็นพี่ชายของนาง”
ซูมู่หรงหันไปมอง : “เรื่องนั้นคือตอนนี้ แต่ที่ผ่านมาข้าไม่ใช่พี่ชายของนาง”
หวางหวยอันไม่ได้ตอบอะไร ซูมู่หรงพูดต่อว่า : “ตอนที่ข้าเตรียมสารภาพความในใจกับนาง นางได้รับช่วงต่อหัวข้อวิจัยหัวข้อหนึ่ง เป็นงานวิจัยเกี่ยวกับระบบชีวภาพ งานวิจัยนี้ถือเป็นความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของมนุษยชาติ นอกจากนี้ยังเป็นการปฏิวัติการกลายพันธุ์ของหน่วยความจำ ถ้าหากงานวิจัยนี้สำเร็จ ร่างกายของมนุษย์จะมีความสามารถในการรักษาตัวเองได้ อีกทั้งหลังจากได้รับบาดเจ็บ ก็ไม่จำเป็นจะต้องได้รับการรักษาก็สามารถดำรงชีวิตต่อได้ อีกทั้งระบบยังทำให้เป็นอมตะได้อีกด้วย !
นี่คืองานวิจัยของนาง เพื่อที่จะไม่เป็นการรบกวนนาง ข้าจึงทำเพียงแค่รอนางอย่างเงียบๆ
ตอนที่นางโทรศัพท์มาบอกข้าด้วยความดีใจอย่างสุดแสนว่างานวิจัยสำเร็จแล้ว นางก็ได้ตายลง !
ข้ารีบตรงไปยังห้องวิจัยเพื่อดูนาง ตอนนั้นนางหยุดหายใจไปแล้ว
ข้าอยากที่จะพาร่างของนางไป แต่จู่ๆ ก็มีการระเบิดเกิดขึ้น จากนั้นร่างของนางก็หายไป
บางคนพูดว่านางระเบิดจนกลายเป็นผุยผงไปแล้ว
แต่ข้าไม่อาจยอมรับได้ จึงพยายามเสาะหามาตลอด
ภายหลังข้าเองก็ได้นำยามาฉีดเข้าในร่างกาย แต่ยาเกิดข้อผิดพลาดขึ้น
ข้าไม่ตาย แต่ต้องนอนอยู่เป็นเวลาหนึ่งปี
หนึ่งปีนี้ ข้าเอาแต่ฝันอยู่ตลอด ฝันถึงเรื่องราวมากมาย
หลังจากนั้นข้าก็เริ่มค้นหานาง อีกทั้งในความทรงจำของข้าเอาแต่ปรากฏเงาของนางออกมาไม่หยุด ข้ารู้ดีว่ามีปัญหาเกิดขึ้น ดังนั้นข้าจึงไม่เคยคิดที่จะยอมแพ้
ตอนที่อายุได้ห้าสิบกว่าปี ข้าคิดถึงเรื่องราวหลายๆ อย่าง นางพาพ่อของพวกเจ้าไปหาข้า พ่อของพวกเจ้าเหมือนเป็นโจร ไม่เพียงแต่ขโมยเสื้อผ้าของข้าไป ซ้ำยังขโมยของของข้าไปด้วย
แต่ว่าของเหล่านี้ล้วนเป็นของที่ข้าเตรียมเอาไว้ให้พวกเจ้า ไม่ใช่ของที่เขาขโมยมา”
เจ้าสามพูดขึ้นมาเบาๆ : “ท่านพ่อไม่ได้ขโมย !”
ซูมู่หรงหันมอง : “พ่อเจ้าขโมยมา ไม่เพียงแต่ขโมยของ ยังขโมยผู้หญิงของข้าด้วย แม่ของพวกเจ้า ถ้าหากไม่มีเขา หากข้ามาหาให้เร็วกว่านี้ นางจะต้องกลับไปกับข้าอย่างแน่นอน”
เจ้าสี่รู้สึกแปลกใจ จึงพูดขึ้นเบาๆ ว่า : “ท่านแม่มาได้อย่างไร ?”
“จิตวิญญาณเดิมในร่างของแม่ของพวกเจ้าได้จากไปแล้ว แม่ของพวกเจ้ามาถึงที่นี่ ก็ได้กลายมาเป็นจิตวิญญาณที่อยู่ในร่างนี้ กลายมาเป็นท่านแม่ !”
พวกเด็กๆ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเจ้าสี่ก็พูดขึ้นว่า : “ท่านแม่ก็คือท่านแม่ !”
ซูมู่หรงรู้ดีว่าพวกเด็กๆ นั้นยังเล็กเกินไป ไม่อาจเข้าใจเรื่องพวกนี้
“แม่ของพวกเจ้านั้นฟื้นคืนชีพ !”
“......” พวกเด็กๆ จ้องมองซูมู่หรงอยู่สักพัก ไม่มีใครพูดอะไรออกมา พวกเขายังไม่เข้าใจความหมายของคำว่าฟื้นคืนชีพ
ซูมู่หรงพูดว่า : “ข้าใช้เวลาวิจัยมาทั้งชีวิต ก็เพื่อที่จะพาแม่ของพวกเจ้าไปจากที่นี่ ไม่ง่ายกว่าที่ข้าจะกลายมาเป็นองค์ชายสามของหนานอี้ ไม่ง่ายที่ข้าจะหาแม่ของพวกเจ้าเจอที่นี่ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าข้าจะต้องมาล้มป่วยอย่างนี้ !”
ซูมู่หรงพูดพลาง ก็เปิดรอยเลือดคั่งที่เน่าเปื่อยบริเวณข้อมือของตนเองให้ดู
อันหลิงหยุนได้ยินเสียงตะโกนจึงลุกขึ้น แล้วให้กงชิงวี่อุ้มเด็กๆ ที่อยู่ทางนี้ไว้
เมื่อเดินเข้าไปเด็กๆ ก็วิ่งกรูกันเข้ามาหา จากนั้นจึงร้องไห้โฮออกมา !
อันหลิงหยุนรีบก้มลงมา นางรู้สึกว่าไม่เป็นไรแล้ว
อันหลิงหยุนคุกเข่าลงแล้วกอดพวกเด็กๆ เอาไว้ในอ้อมแขน แล้วถามพวกเขาว่าเกิดอะไรขึ้น ?
ถึงแม้เจ้าสามจะเป็นคนก่อเรื่อง แต่กลับร้องไห้เสียงดังกว่าใคร : “ท่านแม่ เขาจะฆ่าท่านแม่ !”
อันหลิงหยุนหันมองเจ้าสาม ใบหน้าของเด็กน้อยเต็มไปด้วยน้ำตา
อันหลิงหยุนกอดเจ้าสาม จากนั้นจึงหันมองซูมู่หรงและหวางหวยอัน ซูมู่หรงหันกลับไปมองอันหลิงหยุน แล้วพูดว่า : “ผมเพียงแค่บอกพวกเขาเรื่องที่จะพาคุณกลับไปได้อย่างไรเท่านั้น ทำให้พวกเขาตกใจ !”
อันหลิงหยุนอุ้มเจ้าสามขึ้นมา ยังรู้สึกหอบอยู่เล็กน้อย แล้วจึงลากพวกเด็กๆ ที่มีสภาพเหมือนหนูตัวเล็กๆ เดินเข้าไปดูซูมู่หรง จากนั้นจึงนั่งลงตรงข้ามกับซูมู่หรง แล้วยื่นมือออกไปจับชีพจรของเขา เห็นบริเวณหน้าอกของเขายังมีบาดแผลอยู่ แต่กลับไม่มีเลือดไหลออกมา
นางยังอุ้มเจ้าสามเอาไว้ในอ้อมอก เจ้าสามร้องไห้ไม่หยุด
สีหน้าของกงชิงวี่แย่มาก เขาปิดประตูแล้วกลับไปนั่งลง จากนั้นจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า : “เจ้าอยากตายก็จงไปตายซะ เจ้าทำให้ลูกๆ ของข้าต้องร้องไห้ รอให้เจ้าตายก่อน ข้าจะเอากระดูกของเจ้ามาเผาให้เป็นผุยผง !”
ตอนนี้กงชิงวี่พูดด้วยท่าทีที่โหดร้าย เมื่อเด็กๆ ได้ยินพ่อพูดออกมาเช่นนี้ น้ำตาที่ไหลรินอยู่ก็เหือดหายไปหมด ต่างสูดน้ำมูกแล้วค่อยๆเขยิบเข้าไปอยู่ใกล้ๆ พ่อ
กงชิงวี่อ้าแขน แล้วใช้แขนเสื้อที่กว้างโอบเด็กๆ เข้ามาไว้ในอ้อมแขน ตอนนี้พวกเด็กๆ ต่างมองซูมู่หรงด้วยแววตาที่กล้าหาญ รอให้เขาถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่าน !
ส่วนอันหลิงหยุนเองก็อุ้มและปลอบประโลมเจ้าสาม : “ไม่ต้องร้องแล้ว เขาเป็นอาจารย์ของแม่ ไม่มีทางที่จะทำร้ายแม่แน่นอน ถ้าคิดที่จะพาแม่ไปจริงๆ จะยอมบอกพวกเจ้าอย่างนั้นหรือ เขาเพียงแค่ขู่พวกเจ้าเท่านั้น อย่าไปเชื่อ อีกอย่างเจ้าเองก็แทงเขาแล้วด้วย !”
เจ้าสามจึงได้หยุดร้อง สูดน้ำมูก แล้วหันไปหาอันหลิงหยุนพร้อมพิงตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมกอด แล้วจึงแอบหันหน้าไปมองซูมู่หรง เป็นเพราะเป็นคนลงมือดังนั้นจึงได้แสดงท่าทีใสซื่อ
ซูมู่หรงหันมองแล้วพูดว่า : “โชคชะตาของคนเป็นเรื่องที่พูดยาก โชคชะตาของเจ้าช่างดีเหลือเกิน !”
ซูมู่หรงหันมองกงชิงวี่ กงชิงวี่เลิกคิ้ว แล้วส่งเสียงไม่ค่อยพอนัก : “ไม่ต้องให้เจ้ามาบอกข้าหรอก อย่าคิดว่าที่นี่เป็นสมัยโบราณ แล้วเจ้าจะมาข่มขู่ลูกชายของข้าได้ ถ้าทำให้พวกเขาตกใจล่ะก็ ข้าก็จะขอลงโทษเจ้าเช่นกัน ข้าเองก็เตรียมที่จะแก้ไขกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ ของประเทศต้าเหลียงเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลานั้น ก็จะส่งพวกโรคจิตชอบข่มขู่คนเข้าไปนอนคุก เจ้าเองก็เช่นกัน !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...