ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 869

บทที่ 869 เหนื่อยกับความเป็นความตาย

ขณะที่อันหลิงหยุนขึ้นรถม้า หยุนจิ่นก็ออกมาจากจวนอ๋องเสียน หยุนจิ่นไม่อยากให้อันหลิงหยุนพาเจ้าห้าไปด้วย ถ้าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา คงจะต้องเสียใจไม่น้อย

“มีเรื่องอะไรก็ค่อยๆ พูดค่อยๆ จา หากเจ้าไปตอนนี้แล้วเกิดเรื่องขึ้น จะเป็นการดีได้อย่างไร ?” หยุนจิ่นยืนร้อนใจอยู่ด้านนอกรถม้า หลายวันมานี้อ๋องเสียนไม่กลับจวน บอกว่ามีงานยุ่งมาก แต่ปกติแล้วไม่ว่างานจะยุ่งสักแค่ไหนก็จะต้องกลับจวน ตอนนี้จึงพอจะดูออกว่ากำลังหลบหน้าอยู่

เรื่องของซูมู่หรง หยุนจิ่งเองก็พอจะมองปัญหาออก หลายวันนี้ซูมู่หรงเองก็เอาแต่ดูแลเด็กๆ อยู่ในลาน คงจะต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่นอน

“หยุนจิ่น ดูแลท่านพ่อให้ดี สองสามวันนี้จวนอ๋องเสียนขอยกให้เป็นหน้าที่ท่าน ข้าจะออกไปข้างนอกสักสองสามวัน ท่านไม่ต้องเป็นห่วงข้า ตอนนี้มีคนเพียงไม่กี่คนที่จะสามารถทำอันตรายข้าได้” อันหลิงหยุนตัดสินใจแล้วที่จะไป ไม่ว่าหยุนจิ่นจะพูดเช่นไรนางก็ไม่มีทางอยู่ต่อ ผ้าม่านของรถม้าปิดลงแล้วจากไป

ทันทีที่อันหลิงหยุนจากไป หยุนจิ่นก็ให้คนไปหากงชิงวี่ทันที

รถม้าของอันหลิงหยุนแล่นไปถึงประตูเมือง ก็ถูกถางเหอเข้ามาขวางเอาไว้ ถางเหอเดินเข้าไปหา : “พระชายา กระหม่อมมาด้วยเรื่องของสมุนไพร ถึงแม้จะมีสมุนไพรหลงเหลืออยู่ แต่ก็ส่งไปยังโรงงานผลิตยาอยู่ตลอด แต่ตอนนี้ยังขาดในส่วนที่เก็บในคลัง กระหม่อมจึงตั้งใจที่จะมาทูลขอคำแนะนำ”

อันหลิงหยุนตบเจ้าห้าเบาๆ ครั้งนี้ออกมาเพื่อที่จะเข้าไปในภูเขา นางพาเจ้าห้ากับเจ้าเสือน้อยไป รวมถึงหมาจิ้งจอกหางสั้นและอีกาน้อยด้วยเพื่อความสะดวก ส่วนคนนั้นพาแค่เฟยยิงไปคนเดียว

สักพักใหญ่อันหลิงหยุนถึงจะพูดขึ้นว่า : “ท่านถางมาหาข้า คงจะเป็นประสงค์ของหยุนจิ่น ขอให้ท่านถางกลับไปหาหยุนจิ่น ช่วงที่ข้าไม่อยู่นี้ ไม่ว่าจะกิดเรื่องอะไรขึ้น ให้ยึดเอาการตัดสินใจของหยุนจิ่นเป็นหลัก เชิญท่านถางกลับไปเถอะ”

“พระชายา หลายวันมานี้ท่านอ๋องทรงมีธุระจริงๆ จึงไม่ได้กลับจวน ขอพระชายาอย่าทรงใส่พระทัย” ถางเหอเองก็ไม่คิดว่าท่านอ๋องจะเอาแต่ใจเช่นนี้ มีหลายคนพูดโน้มน้าวก็ไม่ยอมกลับ ทำตัวเอาแต่ใจเหมือนเด็กๆ เรื่องนี้ทำให้คนอื่นๆ จนปัญญาจริงๆ

ได้ยินมาว่าเรื่องนี้เป็นเพราะองค์ชายสามของหนานอี้มาที่จวน แต่ถางเหอเองก็ไม่เข้าใจว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับองค์ชายสามเช่นไร ทั้งสองมีเรื่องบาดหมางอะไรกันมาก่อน

อันหลิงหยุนตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะไป จึงสั่งเฟยยิงว่าไม่ต้องสนใจถางเหอ ให้เฟยยิงเดินทางออกไป

ถางเหอไม่ได้ขวางอันหลิงหยุนไว้ เขาขึ้นหลังม้าเพื่อไปหากงชิงวี่

วันนี้กงชิงวี่กำลังรอหงยิ่งอยู่ เขากำลังดูแบบจำลองภูมิศาสตร์อยู่ภายในวัง

ถางเหอเข้าวัง กงชิงวี่ไม่ได้สนใจ ถางเหอรอจนกระทั่งถึงบ่ายถึงจะได้พบกับกงชิงวี่

“ท่านอ๋อง พระชายาทรงออกไปเช่นนี้ ถ้าหากพบกับอันตรายเข้าจะทำเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ ?” ตอนนี้ถางเหอเองก็ยุ่งมาก เข้าต้องดูแลเรื่องสมุนไพร ตอนนี้ถึงแม้จะเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงแล้ว แต่ก็ต้องเลือกช่วงเวลาที่จะเพาะปลูกสมุนไพร ปีหน้าเขายังต้องคอยกำกับดูแลเรื่องการเพาะปลูกสมุนไพรด้วย ศัตรูพืช น้ำฝน อัตราการงอก รวมไปถึงการป้องกันภัยแล้งและน้ำท่วม ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องของเขาทั้งหมด เวลาของเขานั้นเร่งด่วนมาก

กงชิงวี่หันมองถางเหอ แล้วพูดอย่างลังเลว่า : “พระชายาจะต้องมีวิธีแน่นอน ไม่ต้องไปสนใจหรอก”

พูดจบกงชิงวี่ก็กลับไปดูแบบจำลองทางภูมิศาสตร์ต่อ แล้วสั่งการว่าต้องทำเช่นไร

ถางเหอรู้สึกจนใจ : “ท่านอ๋อง พระชายาทรงพาซื่อจื่อไปด้วย และไม่ได้พาผู้ติดตามไป ถึงแม้นางจะมีความสามารถแค่ไหน แต่ออกไปข้างนอก หมอผีเองก็ไม่ใช่คนปกติ ถ้าหากเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ จะน่าเสียใจแค่ไหน !”

กงชิงวี่ไม่ได้สนใจ แต่กลับพูดว่า : “ข้าเชื่อว่าพระชายามีสวรรค์คอยคุ้มครองอยู่ ไม่มีทางเกิดเรื่องขึ้นแน่ ท่านถางเองก็อย่าทำกระต่ายตื่นตูมไป กลับไปก่อนเถอะ”

“ท่านอ๋อง......”

กงชิงวี่ไม่ฟัง ถางเหอจึงทำได้เพียงกลับออกมาจากวังหลวง

ฮ่องเต้ชิงหยินนั่งอยู่ข้างใน เมื่อถางเหอไปแล้วเขาถึงได้ลุกขึ้น จากนั้นจึงเดินเข้าไปหากงชิงวี่ โบกมือส่งสัญญาณให้คนทั้งหมดออกไป

ในวิหารหลักเหลือเพียงเขาสองคน ฮ่องเต้ชิงหยินพูดว่า : “ที่เขาพูดกันว่าแผ่นดินนั้นได้มาง่าย แต่สาวงามนั้นได้มายากนั้น ถ้าหากรอให้ถึงวันที่ต้องมานั่งเสียใจถึงจะคิดได้แล้วล่ะก็ ถึงเวลานั้นเกรงว่าทุกอย่างจะสายเกินไปเสียแล้ว

เมื่อก่อนหากไม่ใช่เป็นเพราะพวกเจ้าช่วยข้า ตอนนี้ข้าเองก็คงไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับชวนเอ๋อเช่นนี้

ข้าไม่ชอบที่จะต้องมาเป็นฮ่องเต้ ข้าชอบชีวิตที่อิสรเสรีและมีความสุข สำหรับข้าแล้ว ไม่มีอะไรที่จะทำให้คนรู้สึกดีไปกว่าการได้มีความสุขและมีอิสระอีกแล้ว

เพียงแต่ ตอนนี้ข้ามาคิดๆ ดู ไม่ว่าข้าจะมีอะไรมากมายก็ตาม หรือมีความสามารถมากขนาดไหน มีเงินทองมากขนาดไหน แต่ยังไง ?

ถ้าหากไม่มีชวนเอ๋อคอยอยู่เคียงข้าง สุดท้ายทุกอย่างที่มีก็คงจะไร้ค่า

ทุกวันนี้สิ่งที่ข้าชอบที่สุดในตอนเช้าก็คือได้มองดูชวนเอ๋อลุกขึ้น คอยปรนนิบัติข้า สวมใส่เสื้อผ้า ตระเตรียมอาหารการกิน แต่งเนื้อแต่งตัวให้ข้า

คิดไปถึงตอนแรกๆ ที่เขาเริ่มติดตามอันหลิงหยุน ก็เป็นแบบนี้เช่นเดียวกันมิใช่หรือ !

รถม้าแล่นไปตามทาง ซูมู่หรงนั่งอยู่ในรถม้า : “คุณเชื่อหมอผีหรือ ?”

อันหลิงหยุนส่ายหน้า : “ไม่ได้เชื่อมากเท่าไหร่ แต่ตอนนี้คุณกับฉันยังมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ไหมล่ะ ?”

“เหอะ......” ซูมู่หรงอดขำไม่ได้

อันหลิงหยุนวางเจ้าห้าลงในรถไม้ ให้เขานอนด้วยตัวเอง เจ้าห้านอนหงายหน้าอยู่ ไม่มีการตอบสนองใดๆ เลยสักนิด และไม่มีทางที่จะลืมตา อีกทั้งในรถม้ายังมีเจ้าเสือน้อยกับหมาจิ้งจอกหางสั้นคอยเฝ้าดูเขาอยู่ ทำเหมือนกับคอยคุ้มกันเจ้านายอยู่ตลอดเวลา

ซูมู่หรงถาม : “เขามีนิสัยเย็นชามาก !”

“เป็นเพราะเขาผ่านเรื่องราวมามาก เห็นทั้งร้อนหนาวในโลกมาหมด จึงเหนื่อยกับความเป็นความตายกระมัง สำหรับเจ้าห้าแล้ว การมาที่นี่ถือเป็นแต่ขั้นตอนหนึ่งเท่านั้น เข้ามาที่นี่เพื่อฝึกฝน ไม่ได้เหมือนกับพวกเราตอนนี้ พวกเราคือชาติหนึ่ง แต่สำหรับเขาคือความฝันหนึ่ง

ตอนที่พวกเราปิดตาลง ทุกสิ่งทุกอย่างของพวกเราล้วนจบลง แต่เมื่อเขาปิดตาลง ก็จะกลายเป็นอีกโลกหนึ่งแล้ว”

“ดูไม่ออกเลยว่า มาแค่ครั้งเดียว คุณจะมีความเข้าใจที่มากขนาดนี้ !” ซูมู่หีงพูดหยอก

อันหลิงหยุนหันมอง : “อาจารย์ ตอนนี้ยังอยากอยู่ที่นี่อีกไหม ?”

“ไม่อยาก !” ซูมู่หรงส่ายหน้า จากนั้นจึงหันหน้าออกไปมองด้านนอกรถม้า : “ก่อนที่ยังไม่มาที่นี่ ผมอยากที่จะพาคุณกลับไป คุณไม่เหมาะกับที่นี่ แต่มาวันนี้กับรู้สึกขำ คุณจะอยู่ที่ไหน ตัวคุณเองเป็นคนเลือก จะมาเปลี่ยนเพราะผมได้อย่างไรกัน ?”

“อาจารย์ ไม่ใช่ว่าไม่อาจเปลี่ยนแปลงเพราะคุณได้ แต่เป็นเพราะฉันไม่สามารถไปจากที่นี่ได้ แต่ถ้าหากคุณอยากให้ฉันกลับไปกับคุณ ฉันก็สามารถกลับไปกับคุณได้”

ซูมู่หรงมองอันหลิงหยุน : “คุณกลับไปกับผม แล้วพวกเขาล่ะ ?”

“......” อันหลิงหยุนลังเล หันมองเจ้าห้าแล้วเหม่อลอยไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน