บทที่ 96 พ่อตา
เมื่อรู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับอันหลิงหยุน กงชิงวี่ได้นอนไปแล้ว อาหยู่รีบตะโกนเรียกจากด้านนอก “ท่านอ๋อง เกิดเรื่องขึ้นกับพระชายาแล้ว”
กงชิงวี่เบิกตาโพลงขึ้นทันที เมื่อลุกขึ้นก็รีบเดินออกจากห้องทันที หยิบเสื้อมาสวมพลางเดินออกจากห้อง
“มีเรื่องอะไร?”
“พระชายาถูกลอบทำร้ายในจวนแม่ทัพ ตอนนี้ยังสลบอยู่”
“ไอ้ชาติชั่ว!”
กงชิงวี่ออกจากจวนอย่างรวดเร็ว รีบพุ่งไปยังจวนแม่ทัพ
พ่อบ้านรออยู่ที่หน้าประตู เมื่อเห็นกงชิงวี่ถึงกับเกือบร้องไห้ออกมา เกรงว่าหากอ๋องเสียนไม่มา คุณหนูคงลำบากเป็นแน่
“อ๋องเสียน รีบหน่อย!”
พ่อบ้านเองก็ไม่ได้สนใจพิธีการอะไรอีกแล้ว รีบนำกงชิงวี่ไปยังห้องอันหลิงหยุน
เมื่อเข้าไปแล้วกงชิงวี่รีบหันไปมองบนเตียง แม่ทัพอันกุมมืออันหลิงหยุนอยู่ นั่งอยู่พร้อมน้ำตารื้นขึ้นทั้งสองตา
หมอจวนร้อนใจเดินไปมาภายในห้อง
“หลิงหยุน”
กงชิงวี่ก้าวไปไม่กี่ก้าวก็ถึงเบื้องหน้าอันหลิงหยุน หมอจวนต่างพากันก้าวออกไป
แม่ทัพอันจึงรู้สึกตัวขึ้น “หลิงหยุนหลับไปแล้ว เจ้าไสหัวออกไปซะ”
ชีพจรไม่มีแล้ว แม่ทัพอันราวกับใจสลายไปแล้ว แล้วก็ไม่อยากมีชีวิตอีกต่อไป
แต่เขาไม่อยากเห็นกงชิงวี่ หากไม่ใช่เพราะร่างบุตรสาวเขาจะเย็นชื้น ไม่อย่างนั้นเลือดของกงชิงวี่คงได้หลั่งเป็นแน่
จะอย่างไร บุตรสาวเขาก็ยังใส่ใจกงชิงวี่ เพื่อให้บุตรสาวเขาได้สงบสุข แม่ทัพอันก็ไม่ต้องการรบกวนนาง
ขณะที่พูดก็พยายามกลั้นน้ำตา
หมอจวนต่างพากันก้มหน้าลง ยกชายเสื้อขึ้นเช็ดน้ำตา
เสด็จแม่ทัพรักบุตรสาวยิ่ง บนสนามรบ ใต้คมดาบ ภายในวงล้อมข้าศึกและศัตรู ยังไม่เห็นว่าเขาจะสะทกสะท้านใดๆ มีเพียงเรื่องบุตรสาวเท่านั้น ที่ทำให้เขาแทบไม่มีสติ
จวนแม่ทัพทั้งจวนต่างสะทกสะท้านไปทั่ว
กงชิงวี่ไม่สนใจใดๆ ยื่นมือไปตรวจดูลมหายใจของอันหลิงหยุน ลมหายใจขาดไปแล้วจริงๆ
กงชิงวี่ค้อมตัวลงอุ้มอันหลิงหยุนขึ้น “หลิงหยุนอยู่ภายใต้การดูแลของข้า หากมีเรื่องอันใดเกินขึ้นขอให้ท่านพ่อตารีบรุดมากล่าวโทษข้าได้เลย”
กงชิงวี่อุ้มคนไปแล้วก็เดินจากไป แม่ทัพอันรั้งไม่อยู่จึงรีบตามออกไป โพล่งอย่างโกรธแค้น “ไอ้สารเลว หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
กงชิงวี่เดินไปอย่างรวดเร็ว เมื่อพ้นประตูก็ขึ้นรถม้าทันที
“อาหยู่ กลับจวน”
อาหยู่ขึ้นรถ รีบกลับรถม้ากลับจวน
หมาจิ้งจอกหางสั้นเมื่อเห็นอันหลิงหยุนจากไป พลันรีบพุ่งตัวไปยังรถม้า ขึ้นไปและเข้าไปในรถม้าทันที
เพราะกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับอันหลิงหยุน หมาจิ้งจอกหางสั้นร้องครางอยู่หน้าประตูรถม้า เดินวนไปมา อยากจะเข้าใกล้แต่ก็ไม่กล้า ไม่เข้าไปหาก็เป็นห่วง
กงชิงวี่เงยหน้ามองไป “ไม่ต้องเป็นห่วง เจ้านายเจ้าไม่เป็นอะไรหรอก ถ้าเจ้ากังวลนัก ก็เขามา”
เมื่อเจ้าหมาจิ้งจอกหางสั้นได้รับคำอนุญาต ก็ส่งเสียงแล้วเข้าไปอยู่ข้างกายอันหลิงหยุน ใช้สายตาเศร้าสร้อยมองไปยังอันหลิงหยุน มันตกใจจะแย่แล้ว
แม่ทัพอันวิ่งตามออกมาคิดจะติดตามไป ทว่าพ่อบ้านรั้งเขาไว้ “เสด็จแม่ทัพ เท้าของท่านสองขา จะสู้สี่เท้า สองล้อได้ยังไง?”
“เตรียมรถม้า”
แม่ทัพอันน้ำตารื้นขึ้น หากเกิดอะไรขึ้นกับหลิงหยุน เขาก็ไม่คิดจะมีชีวิตอีกต่อไป
ภายในรถ
กงชิงี่กอดอันหลิงหยุนไว้ แก้เสื้อนางออกดู บาดแผลบนไหล่ค่อยๆ เชื่อมติดกัน ผิวที่ซีดจางเริ่มแดงระเรื่อขึ้น
ใจที่หวั่นวิตกจึงเริ่มนิ่งขึ้นได้
ครั้งนี้อันหลิงหยุนนับว่าฟื้นขึ้นได้อย่างรวดเร็ว แต่นางก็ฝัน ฝันว่าซูโมู่หรงได้ตายไปแล้ว
แต่ว่าร่างถูกทับโดยคนมากมาย เป็นการตายอย่างน่าเศร้าสลดยิ่งนัก
ในครั้งนี้ ใจของอันหลิงหยุนเจ็บปวดยิ่งนัก เจ็บจนสะดุ้งขึ้น
เมื่อลืมตาขึ้น อันหลิงหยุนสูดหายใจเฮือกใหญ่ กงชิงวี่โอบไหล่นางไว้อย่างแน่นหนา ในสายตามีแต่ความกังวล
“หลิงหยุน”
อันหลิงหยุนลืมตาขึ้นด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง เห็นใบหน้ากงชิงวี่อย่างชัดเจน
“ท่านอ๋อง”
“ตื่นขึ้นมาก็ดีแล้ว ข้าประมาทเอง”
กงชิงวี่นับว่าวางใจได้แล้ว อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจขึ้น
เวลานั้น สตรีนางนี้นับว่านั่งอยู่ในใจเขาเป็นอันดับแรก
อันหลิงหยุนอยากลุกขึ้นนั่ง กงชิงวี่กลับโอบนางไว้ “นอนไปก่อน ข้าไม่ได้เหนื่อยอะไร”
“อืม”
เจ้าจิ้งจอกหางสั้นนั่งอยู่ใต้มืออันหลิงหยุน อันหลิงหยุนลูบมัน “ล้วนเป็นเพราะเจ้า ไม่เช่นนั้นข้าคงอาการแย่ไปมากกว่านี้”
เจ้าหมาจิ้งจอกร้องตอบสองครั้ง พลางนอนขดลงด้านหนึ่งของผนัง
อันหลิงหยุนนอนลงไป กงชิงวี่จัดแต่งชุดให้นาง ต่างเกิดความรู้สึกขึ้นมากมาย คิ้วขมวดขึ้นเล็กน้อยพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง
“ดูไปแล้วพวกมันยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ”
อันหลิงหยุนนับว่าสงบลงแล้ว อย่างแรกคือร่างกายนางไม่ไหวแล้ว อย่างที่สองคือที่กงชิงวี่พูดนั้นถูกต้อง
รถม้าพลันหยุดลง ม้าถอยหลัง ทำให้ตัวรถโคลงเคลงไปมา
อาหยู่จดจ้องไปยังแม่ทัพอันที่ควบม้าสูงสง่ามา ทั้งคนและม้าแข็งแกร่งยิ่งนัก ม้าของแม่ทัพอันทำให้ม้าของอาหยู่หวั่นเกรง
ม้าก้มหัวลงพลางถอยหลัง
ราวกับหลานชายเจอกันท่านปู่เช่นนั้น
น่ากริ่งเกรงเหลือเกิน!
“แม่ทัพอัน!”
อาหยู่น้อมคำนับทักทาย แม่ทัพทันหน้านิ่ง “คืนหลิงหยุนให้ข้า”
อันหลิงหยุนมีเรื่องบางเรื่องอยากจะพูดแต่ไม่สะดวกให้คนนอกรู้ แม้จวนแม่ทัพเองก็ไม่นับว่าปลอดภัย
กงชิงวี่ยังมีเรื่องที่สงสัยอยู่ จึงโบกมือขึ้น “ออกไปก่อน พระชายาและเสด็จแม่ทัพจะคุยกัน ไม่ต้องอยู่ดูแล อาหยู่ รออยู่ที่หน้าประตู อย่าให้ใครเข้ามา!”
“ขอรับ”
อาหยู่เฝ้าอยู่ บ่าวใช้คนอื่นๆ ต่างออกไป ภายในห้องเหลือทั้งสามคน อันหลิงหยุนจึงเอ่ยปากขึ้น
“ท่านพ่อ บุตรสาวมีร่างกายพิเศษ เหมือนเมื่อก่อน มีบาดแผลบางอย่างสามารถรักษาให้หายเองได้ ท่านพ่อเองก็รู้อยู่บ้าง”
“อืม” แม่ทัพอันพยักหน้า แม้จะรู้เรื่องอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เข้าใจนัก แต่ตัวเขาเองก็ท่องเดินทางภายนอกมาตลอด พบเจอกับเรื่องราวแปลกๆ มามาก เขาเป็นแม่ทัพ ไม่อาจเชื่อเรื่องผีสางได้ ต้องไม่เชื่อเรื่องไร้สาระ มิเช่นนั้นจะควบคุมกองทัพไม่อยู่
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นกับบุตรสาวของเขา แม่ทัพอันกลับรู้เรื่องดี
พูดถึงเรื่องความรู้สึกของบุตรสาวก่อน เพียงคืนเดียวกลับเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
ยิ่งพูดถึงไอ้คนโฉดด้านหน้านี้แล้ว ก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน
ยังจะมีอะไรให้เขาไม่เชื่อได้อีกหรือไม่
อันหลิงหยุนอธิบายขึ้น “ท่านพ่อ เรื่องที่ข้าไม่อยากให้ใครรับรู้ คนในจวนแม่ทัพก็ไม่ควรรู้ เกรงว่าคนนอกรู้เขาจะป่าวประกาศไปทั่ว”
“อืม เรื่องนี้บิดารู้ดี” แม่ทัพอันดื่มชาอึกหนึ่ง ถามขึ้น “ช่วงนี้พวกเจ้าไม่ทะเลาะกันแล้วหรือ?”
“...” อันหลิงหยุนพลันไม่มีคำพูด ท่านพ่อเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมาเหลือเกิน
เมื่อมองไปยังใบหน้าเย็นชาของกงชิงวี่ กงชิงวี่เองก็นับว่าไม่มีอะไรไม่ดี กลับพูดขึ้นด้วยความเกรงใจ “ในอดีตข้าไม่ชอบหน้าหลิงหยุนจริงๆ แต่หลังจากที่ข้าสังเกตช่วงหลังๆ นี้ หลิงหยุนแม้จะดื้อด้านบ้าง แต่ไม่นับว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ในเมื่อข้าแต่งกับหลิงหยุนแล้ว ก็เป็นอย่างนี้ไปก่อน”
อันหลิงหยุนไม่มีคำพูดใด คำพูดนี้ดูเขาถูกบีบบังคับ
แม่ทัพอันก็ไม่ใช่คนโง่ ตบโต๊ะขึ้นพลางสะบัดเสียงเย็นชา “ในวันพรุ่งนี้ ข้าจะเรียนฮ่องเต้ ให้พวกเจ้าเลิกกันซะ ให้ท่านอ๋องเสียนไปแต่งกับหญิงอื่นได้”
อันหลิงหยุนแทบจะยืนขึ้นชูธง สรรเสริญเสด็จแม่ทัพ!
“ตัวข้าเกรงว่าเรื่องเดินมาจนถึงจุดนี้ เกรงว่าฮ่องเต้เองก็คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ท่านพ่อตาทำไมต้องแยกครอบครัวของคนอื่นด้วยเล่า?” กงชิงวี่ไม่ยอมตาม
อันหลิงหยุนลอบถอนหายใจ บุรุษคนนี้ตัดช่องน้อยแต่พอตัวเสียจริง
เพียงแต่เขายอมเรียกท่านพ่อตา แค่นี้ก็นับว่าเป็นเรื่องคุ้มค่าอย่างยิ่ง
แม่ทัพอันกลับไม่อยากร่วม “เหอะ!”
แม่ทัพอันลุกขึ้นยืนและออกไปด้านนอก “วันพรุ่งนี้ ข้าจะเข้าเฝ้าฮ่องเต้”
เมื่อเดินออกจากประตูพ่อบ้านก็รีบไปส่ง อาหยู่ขึ้นรถม้าและป้องกันไปส่งแม่ทัพอันถึงจวนอย่างปลอดภัย
แม่ทัพอันเมื่อกลับถึงจวนแล้วกลับนอนไม่หลับทั้งคืน เพราะเรื่องที่กงชิงวี่เรียกเขาว่าท่านพ่อตา
อันหลิงหยุนเองก็ไม่ได้นอนทั้งคืน กงชิงวี่นอนอยู่ข้างกายนาง นางไม่สามารถหลับตานอนลงได้
พลิกตัวไปมาทั้งคืน จนถึงเช้าอันหลิงหยุนจึงเริ่มคล้อยหลับไป
เมื่อตื่นขึ้น พลันกอดกงชิงวี่ไว้
เวลาผ่านไปหลายชั่วยาม อันหลิงหยุนจึงตื่น เมื่อลืมตาจึงรีบยกมือที่กอดเอวกงชิงวี่ออกมา พลันรู้สึกเก้อเขิน
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป อีกไม่นานคงห้ามใจไม่อยู่
เมื่อลุกขึ้นจากเตียง อันหลิงหยุนใช้โอกาสที่กงชิงวี่ยังไม่ตื่น รีบออกไปด้านนอก
อาหารเช้าก็ยังไม่ได้ออกมากิน ก็รู้ได้เลยว่าคงอยู่แต่ในห้อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...