บทที่ 97 หายาตอนกลางคืน
กงชิงวี่รอเป็นเวลานานกลับยังไม่พบใคร จึงลุกไปดูอันหลิงหยุน เมื่อถึงประตูก็เคาะขึ้น
“บอกท่านอ๋องข้าไม่หิว ไม่...”
ประตูถูกเปิดออกกงชิงวี่ยืนอยู่ดูท่าทีอารมณ์ไม่ดี
อันหลิงหยุนรีบหุบปากทันที
“ข้ารำคาญนัก เพื่อจะหนีข้า ถึงกับไม่กินข้าวเลยหรือ?”
ประตูไม่ได้ปิดลง กงชิงวี่เดินไปเบื้องหน้าอันหลิงหยุน อันหลิงหยุนพยายามยืดตัวขึ้น เอ่ยขึ้นอย่างไม่มีแรงนัก “ท่านอ๋อง”
“สรุปแล้วทำไมไม่ยอมอยู่ร่วมห้องกับข้า หรือว่า ข้าไม่คู่ควรกับเจ้า?” กงชิงวี่อารมณ์ไม่ดี กำมือแน่นพลางมองไปที่นาง
อันหลิงหยุนคิดอยู่ชั่วครู่ เรื่องบางเรื่องต้องพูดให้ชัดเจน
อันหลิงหยุนหันหลังเดินไปยังหน้าต่าง เอ่ยขึ้นอย่างไร้อารมณ์ “ท่านอ๋องบรรดาศักดิ์สูงส่งยิ่งนัก มีค่าเหนือทอง ในอนาคตข้างหน้าน้องมีพระชายามากมายแน่ แต่ข้าไม่อยากต้องแย่งผู้ชายคนเดียวกับผู้หญิงทั้งกลุ่ม ยิ่งไม่ต้องคิดถึงเรื่องหลับนอน
อย่างไรท่านอ๋องปลดข้าจากตำแหน่งเถิด!”
กงชิงวี่จ้องไปยังร่างบอบบางของอันหลิงหยุนครู่หนึ่ง “หรือว่า ก่อนหน้านี่ที่ทำชื่อเสียงแปดเปื้อน เป็นไปเพราะไม่ยินยอมแต่งกับข้า เพื่อแบ่งปันสามีกับหญิงอื่น?”
อันหลิงหยุนเหนื่อยใจเหลือเกิน บุรุษคนนี้คิดมากมายเสียจริง
“หากท่านอ๋องจะคิดอย่างนั้นก็ย่อมได้” อันหลิงหยุนยอมทุบแก้วให้แตก
กงชิงวี่เดินไปข้างนาง ประสานมือไว้ด้านหลังพลางยืนนิ่ง เขาสูงกว่านางกว่าศีรษะหนึ่ง
“ข้าไม่อาจสัญญาได้ว่าในอนาคตจะมีสตรีอีกกี่คน แต่ข้าสามารถสัญญาได้ว่า ข้าจะไม่รับสตรีทุกคนอย่างสิ้นคิด” เกิดมาในราชตระกูล เรื่องการแต่งงานไม่นับเป็นสิ่งที่เลือกเองได้
การเป็นราชนิกุลเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ตัวเขาเองก็คงจะเหมือนกัน
อันหลิงหยุนส่ายหน้า “หากเป็นไปไม่ได้ ก็อย่าคิดถึงเรื่องนั้นเลย เมื่อใดที่ท่านอ๋องเข้าใจเรื่องราวแล้ว ก็ค่อยคิดถึงเรื่องนั้น”
“เจ้ากล้าบีบบังคับข้าหรือ?” กงชิงวี่หน้านิ่งไปแล้ว
สตรีนางนี้ช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง
เขาถอยให้ก้าวหนึ่งแล้ว ยังไม่อ่อนข้ออีก!
“ท่านอ๋อง หม่อมฉันก็มีเรื่องคับข้องใจของตัวเอง” อันหลิงหยุนหมดหนทาง พยายามหาข้ออ้างต่อไป
“พูดมาสิ มีเรื่องคับข้องใจอันใด?” กงชิงวี่อยากรู้จริงๆ
“อารมณ์ของข้าขึ้นๆ ลงๆ เพียงคิดว่าเห็นท่านอ๋องอยู่กับสตรีนางอื่นเป็นต้องโมโหเป็นแน่ หากไม่ระมัดระวัง คงได้ตบหญิงนางนั้นตายคามือ แล้วท่านอ๋องเจ็บใจจะทำอย่างไร?”
อันหลิงหยุนยกมือขึ้น ทำท่าตบออกไปสุดแรง พลางขบเคี้ยวฟัน
กงชิงวี่สีหน้าเปลี่ยนไป ที่คิดภาพคือไม่ใช่อันหลิงหยุนตบสตรีนางนั้น กลับเป็นเขาที่ถูกตบ
อดไม่ได้กงชิงวี่โมโหขึ้นแล้ว “เหลวไหล!”
“ดังนั้นหม่อมฉันจึงไม่กล้าคาดหวังไป” อันหลิงหยุนเอ่ยอย่างหมดหนทาง กงชิงวี่ที่โมโหอยู่หันหลังกลับเดินออกไปเลย
เมื่อคนจากไปแล้ว อันหลิงหยุนพลันรู้สึกโล่งใจ พันหน้ากลับไปชมวิว
น่าเสียดายที่นอกหน้าต่างไม่นับว่ามีอะไรน่าดู แต่ท้องกลับร้องขึ้นแล้ว
เมื่อพูดออกไปให้ชัดเจนแล้วอันหลิงหยุนก็สบายใจขึ้น ก้าวออกไปกินข้าวเป็นเพื่อนกงชิงวี่
เมื่อเห็นอันหลิงหยุนกงชิงวี่ถึงกับไม่อยากอาหาร กลับเป็นอันหลิงหยุนที่กินอย่างเอร็ดอร่อย
เมื่อกินเสร็จแล้วอันหลิงหยุนกลับไปพักทั้งวัน วันที่สองจึงกลับไปยังจวนแม่ทัพ
เมื่อกลับมาอาหยู่สั่งคนให้มาอารักขา เรียกให้คนล้อมจวนแม่ทัพด้านนอกไว้ ภายในจวนไม่ว่าอันหลิงหยุนไปที่ใดอาหยู่จะตามติด แม้จะกินข้าวเป็นเพื่อนแม่ทัพ อาหยู่ก็ยังอยู่
เดิมทีอันหลิงหยุนคิดจะไปฝึกฝีมือที่ห้องฝึก แต่ก็ไม่มีโอกาส
มีเพียงแม่ทัพอัน ที่ในเวลานี้กลับรู้สึกยินดียิ่ง
แม้จะไม่พูด แต่ใจเขากลับรู้สึกพองฟูยิ่งนัก
อันหลิงหยุนกินข้าวเป็นเพื่อนแม่ทัพอัน เมื่อกลับจึงเริ่มทำงานจริงจัง
เวลานี้ใกล้จะถึงฤดูใบไม้ผลิแล้ว อันหลิงหยุนไม่อาจให้ไทเฮาจัดเตรียมเครื่องแต่งหน้าคนเดียวได้ ยิ่งเพราะตำแหน่งนางเองเป็นถึงพระชายาแล้ว
ดังนั้นนางจึงหาเรื่องให้ตัวเองทำ และก็ไม่ได้ทำเพื่อหาเงินอีกด้วย เพียงไปยังวัดเฉิงหวงนอกเมือง ไปรักษาคน
ตอนนี้อากาศเย็นลงแล้ว อันหลิงหยุนได้ยินมาว่า ชาวบ้านผู้ยากจนไม่มีอาหารต่างอยู่ที่นั่น ไม่มีอาหารกิน ไม่มีเสื้อผ้า อากาศเย็นขนาดนี้ ผู้เฒ่าและเด็กที่ป่วนมีเยอะมาก ดังนั้นผู้ป่วยจึงติดกันแล้วมีจำนวนมาก
กินไม่อิ่มไม่มีเสื้อผ้าอบอุ่น ยารักษานับว่าเป็นของฟุ่มเฟือยเลยทีเดียว
อันหลิงหยุนอยากลองไปดูสักครั้ง
ในวันแรกที่ออกไปอันหลิงหยุนเรียกอาหมั่นไป
รวมหงเถา ลุ่ยหลิ่ว อาหยู่ สี่ห้าคน อันหลิงหยุนไปถึงที่ก่อน
ทั้งห้าคนต่างแต่งกายอย่างคนธรรมดา นั่งรถม้าสภาพโทรม แต่งกายเป็นคุณนายที่เร่งรีบเดินทาง เมื่อผ่านวัดเฉิงหวงอันหลิงหยุนก็ลงรถไปดู
ด้านนอกวัดเฉิงหวงมีชายเจ็ดแปดคนนอนอยู่ แต่ดูท่าทางพวกเขาใบหน้าเหลืองซีดผ่ายผอมเป็นอย่างมาก ร่างกายแทบจะทนไม่ไหวแล้ว บนร่างกายห่มคลุมด้วยเสื้อผ้าชิ้นหนานิดหน่อย แต่กลับผุพังมีรูไปทั่ว
อันหลิงหยุนเดินผ่านคนเหล่านี้พลางเข้าไปในวัดเฉิงหวง ภายในอาคารแทบไม่ต้องเอ่ยถึงเด็กผู้เฒ่าต่างพากันไออย่างรุนแรง มีบางคนเพียงปรายตาดูก็รู้ว่าแทบจะทนไม่ไหวแล้ว
อันหลิงหยุนไม่สนใจเรื่องอื่นแล้ว รีบกำชับอาหยู่ “เอากล่องยามาให้ข้า”
อาหยู่หยิบกล่องยามา อันหลิงหยุนถือไปพลางเดินไปยังหญิงนางหนึ่งเบื้องหน้า หญิงนางนั้นริมฝีปากเหลืองซีด ในอ้อมกอดอุ้มเด็กวัยราวห้าหกขวบสายตามีความหวาดกลัว
เมื่อเขาลงไป อันหลิงหยุนเดินเข้าป่าไปแล้ว
เมื่อพบอันหลิงหยุน นางใช้มือทั้งสองถูเข้าด้วยกันแล้ว
เมื่อทั้งสองพบกัน อันหลิงหยุนประหลาดใจไปแล้ว
กงชิงวี่เห็นอันหลิงหยุนแบกกล่องยา ภายในเริ่มมีสมุนไพรแล้ว
ฟ้าค่อยๆ สว่างขึ้น เริ่มสังเกตเห็นหญ้าแห้งในตะกร้าได้ และเห็นได้ว่าถูกอัดอยู่เต็ม
“ทั้งคืนกลับไม่นอน ไม่กลัวคนในยุทธจักรแล้วหรือ?” กงชิงวี่เอ่ยด้วยอารมณ์เสีย เพื่อหญ้าสมุนไพรนี่ ต้องถึงกับออกมาตั้งแต่กลางคืน ทำผิดถึงขั้นนี้
วัตถุดิบยาในจวนอ๋องเสียนก็ไม่ได้ไม่ให้นางใช้ นางคิดจริงๆ หรือว่าตำแหน่งพระชายาแห่งจวนอ๋องเสียนเป็นเพียงตำแหน่งปลอมๆ เท่านั้น?
“เพียงชั่วยามเดียวคงยังไม่มา” อันหลิงหยุนก็มิใช่คนโง่ เหตุการณ์โดนลอบทำร้ายที่เพิ่งเกิดขึ้น คนพวกนั้นคงยังไม่กลับมาทำร้ายนางในเร็ววันนี้ ไม่ใช่เพราะให้นางได้หายใจ แต่พวกนั้นก็ต้องรักชีวิตตัวเอง ใช่เวลาที่จะมาหานางหรือ?
มองจากบนลงล่าง อันหลิงหยุนถูตัวไปมา
อากาศเย็น ทางชัน พื้นก็ลื่น
นับจากประสบการณ์ของอันหลิงหยุนที่เคยอาศัยภายนอกมาก่อน เดินขึ้นเขานับว่าง่าย ลงเขาว่ายากกว่า
กงชิงวี่จ้องไปยังเท้าของนาง เกรงว่าหากนางไม่ระวังจะร่วงหล่นลงมา มือพลันยื่นไปให้นางถืออัตโนมัติ
อันหลิงหยุนระมัดระวัง เมื่อมาถึงเบื้องหน้ากงชิงวี่จึงยื่นมือออกไปอย่างเสียไม่ได้ มือบวมราวเท้าหมู หากเกิดร่วงหล่นลงไป นางจะได้ไม่ตกลงไป
หมาจิ้งจอกหางสั้นพลันโผล่ออกมาจากตะกร้ายาเบื้องหลัง ส่งเสียงร้องเรียกสองที แจ้งบอกว่าอันหลิงหยุนกำลังจะทำให้มันแข็งตายแล้ว
กงชิงวี่กลับเอ่ยขึ้น “ไปรออยู่ที่ด้านล่างเขา”
เมื่อหมาจิ้งจอกหางสั้นได้รับคำสั่ง เมื่อรู้ว่าอันหลิงหยุนมีคนคอยปกป้องแล้ว จึงรีบผลุบลงเขาไปอย่างรวดเร็ว เพียงได้เขยิบร่างกายก็จะไม่หนาวแล้ว
อันหลิงหยุนไม่มีหนทางอื่น ค่อยๆ เดินต่อไป
กงชิงวี่เอ่ยถามขึ้น “นี่มันสมุนไพรอะไรกัน?ในจวนไม่มีหรือ?”
“นี่คือหญ้ากุ่ยเจิง ใช้สำหรับรักษาอาการไข้ได้ผลดีนัก หากหมู่บ้านอาจจะมีใช้มัน แต่ยาในจวนอ๋องเสียนเป็นยาชั้นดี ยาเหล่านี้ปกติใช้กับพวกหมู ในจวนท่านอ๋องนับว่าไม่มีหรอก”
เมื่ออธิบายดังนี้กงชิงวี่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรอีก
อันหลิงหยุนลงมาจากด้านบน กงชิงวี่จดจ้องไปยังมือของนาง ดูราวกับมือหมูอย่างนั้น ทั้งบวมทั้งแดง
“เรื่องนี้ต้องบอกอาหยู่ ไม่หลับไม่นอนกลับออกมา แข็งตายกันพอดี!”
ที่นี่สูงราวร้อยกว่าเมตร หากจะลงไปต้องเดินอีกสักพัก กงชิงวี่คิดว่าหากนางไม่ตกลงไปตายก็ต้องแข็งตาย
อันหลิงหยุนกลับไม่คิดเช่นนั้น มาเก็บยาทำให้นางรู้สึกร่างกายอบอุ่นยิ่งนัก
แต่เมื่อเดินลงเขายื่นไม่มั่นคง เกือบจะล้มลงไป กงชิงวี่รีบยึดมือไว้ จากนั้นก็กุมมือนางเดินลงเขาไปตลอด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...