หากแต่ซั่งกวนเยว่ยังมิทันได้ขบคิดดีถึงปัญหาข้อนี้ พริบตาเดียวก็เห็นชายเสื้อคลุมของหรงซิวสะบัดไหว!
ทันใดนั้น กลุ่มเปลวเพลิงสีทองพลันพวยพุ่งขึ้นมา!
ซั่งกวนเยว่ที่รับรู้ได้ถึงความรุนแรงของการโจมตีครานี้ ร่างกายก็ก้าวถอยหลังในทันใด!
ชั่วพริบตานี้เอง บริเวณโดยรอบเขาหมื่นเมรัยพลันปรากฏเส้นโครงสีเงินนับไม่ถ้วนพาดผ่าน!
เส้นโครงสีเงินเหล่านี้ทับพันยุ่งเหยิง แต่ละเส้นเชื่อมติดกัน ยามทอประกายเรืองรองท่ามกลางค่ำคืนมืดมิดจึงสว่างเจิดจ้าเป็นพิเศษ
ฟึ่บ!
ในขณะนั้นเอง เส้นโครงความหนาเท่านิ้วโป้งเส้นหนึ่งพลันเคลื่อนผ่านต่อหน้าซั่งกวนจิ้ง!
ใจเขากระตุกกึก ยกมือขึ้นมาปัดป้องโดยไม่รู้ตัว!
ลมปราณอันเฉียบคมปรากฏขึ้นในบัดดล เส้นโครงสีเงินสายนั้นตัดชายเสื้อคลุมของเขาขาดเป็นสองส่วนโดยไร้สุ้มเสียง!
ยามเห็นชายเสื้อที่ฉีกขาดร่วงลงถูกเส้นโครงสีเงินจำนวนนับไม่ถ้วนแทงทะลุไม่เหลือซาก แผ่นหลังของซั่งกวนจิ้งพลันรู้สึกเย็นวาบ!
นี่มันเฉียดไปแค่นิดเดียวเท่านั้น!
หากว่าเมื่อครู่มิได้หรงซิวลงมือช่วยไว้ เกรงว่าผู้ที่ถูกเส้นโครงเหล่านั้นทิ่มแทงจะเป็นเขาเสียเอง!
“ผู้อาวุโสซั่งกวน! ค่ายกลกระสวยสวรรค์อันตรายมาก ทันทีที่เปิดใช้มันจะโจมตีไม่เลือกหน้า! ท่านรีบกลับมาเร็วเข้าเถิด!”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงตะโกนบอกอย่างร้อนรน
พวกเขาเพิ่งจะเปิดใช้งานค่ายกลกระสวยสวรรค์ได้ ก็พบว่าซั่งกวนจิ้งและหรงซิวพุ่งเข้าไปพร้อมกันแล้ว
ความเร็วของคนทั้งสองรวดเร็วยิ่งนัก ถึงขั้นที่ว่าพวกเขาจะเอ่ยห้ามออกไปก็ไม่ทันแล้ว!
ทันทีที่ค่ายกลกระสวยสวรรค์เปิดใช้งานเต็มรูปแบบ คนที่ติดอยู่ข้างในนั้นเรียกว่ามีโอกาสถึงตายเก้าส่วน!
ซั่งกวนจิ้งที่ได้ยินเสียงตะโกนบอกเข้าใจเรื่องบางอย่างได้ในบัดดล
บริเวณด้านล่างของเขาหมื่นเมรัยทั่วทุกสารทิศ มีเส้นโครงสีเงินปรากฏขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว
ยามหลุบตามองจากด้านบน เส้นโครงแต่ละเส้นตัดไขว้ผ่านกันนั้นช่วยให้ตื่นตาตื่นใจยิ่ง!
เขามิสงสัยในคำพูดของผู้อาวุโสฮวาเฟิงเลยแม้แต่น้อย
ชั่วพริบตานั้นเองเขาก็เข้าใจแล้วว่า เหตุใดก่อนหน้านี้ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนถึงได้ทำตัวอืดอาดยืดยาดไม่ยอมอนุญาตให้เปิดใช้ค่ายกลกระสวยสวรรค์นี่เสียที
… เจ้าค่ายกลอันน่าสยดสยองยิ่งยวดปานนี้ ทันทีที่เปิดใช้ พลังมหาศาลของมันก็แทบไร้หนทางควบคุม!
แววตาของเขาลึกล้ำขึ้นยามปราดมองไปทางตำแหน่งของตาน้ำ
เส้นโครงสีเงินนับไม่ถ้วนที่ตัดไขว้เกี่ยวพันกันไปมาปิดบังตาน้ำเอาไว้เสียจนแทบมิด
เขามองไม่เห็นหรงซิว ไม่ต้องพูดถึงเยว่เออร์เลยด้วยซ้ำ
ที่ยังพอมองเห็นอยู่บ้าง ก็คือ ‘ตาน้ำ’ ที่ยังคงไหลเอื่อยๆ มิแปรเปลี่ยน
ในค่ำคืนอันมืดมิดจนยากที่จะมองเห็นสีของตาน้ำได้อย่างชัดเจน
ทว่าภายใต้แสงสว่างเรืองรองจากเส้นโครงสีเงินนับไม่ถ้วน กลับเห็นประกายแสงสะท้อนสีแดงเจือจางที่ลอยอยู่เหนือตาน้ำได้รางๆ
ฉึบ!
เส้นโครงสีเงินสายหนึ่งพุ่งเฉียดร่างของเขาไปอย่างหวุดหวิด!
ซั่งกวนจิ้งขบกรามแน่น สะกิดร่างของตนให้ถอยห่างไปอย่างว่องไว!
…
“ในเมื่อรู้แต่แรกว่าจะเป็นเช่นนี้ แล้วจะทำแบบนั้นไปเหตุใด! เสียเวลามากขนาดนี้ไปโดยเปล่าประโยชน์เลยเชียว”
ขณะที่กำลังมองค่ายกลกระสวยสวรรค์ขนาดมหึมาค่อยๆ ปรากฏรูปร่างออกมา อี้เหวินจั๋วก็ยืนเอามือไพล่หลัง ดวงหน้าประดับรอยยิ้มเย็นยะเยือก
“ต้องเข้าใจก่อนว่าประวิงเวลามานานขนาดนี้ กระทั่งสภาพแวดล้อมของภูเขาโดยรอบเองก็เริ่มเสื่อมถอยไปตามกัน”
มิมีผู้ใดพูดอันใดออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...