ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1611

……….

เผ่าหงส์ทองคำเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับบรรพกาลที่มีฐานะสูงส่ง ดังนั้นมันจึงมีนิสัยเย่อหยิ่งอยู่ตลอด

โดยเฉพาะอยู่ต่อหน้าพวกมนุษย์

อีกทั้งคนผู้นี้ยังเป็นบรรพบุรุษของเผ่าหงส์ทองคำ!

จะว่าไปแล้วถือว่าเขาเป็นคนที่มีอำนาจสูงสุดก็ไม่ได้เกินไปนัก!

ต่อให้จะเป็นเพียงจิตสำนึกสายหนึ่งที่หลงเหลืออยู่ แต่ฐานะอีกฝ่ายที่ยังหลงเหลืออยู่นั้น ก็เต็มไปด้วยแรงกดดัน

ต่อให้นางกับถวนจื่อทำพันธสัญญากันแล้ว อีกฝ่ายก็ไม่จำเป็นจะต้องให้เกียรตินางเช่นนี้หรอกมั้ง?

ในสมองของฉู่หลิวเยว่มีความคิดมากมายปรากฏขึ้นมา แต่สีหน้าก็ดูปกติ นางหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า

“ท่านเกรงใจเกินไปแล้ว ถวนจื่อติดตามข้ามาหลายปี ร่วมเป็นร่วมตายมานับครั้งไม่ถ้วน เราเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกันมาตั้งนานแล้ว ข้ารู้ว่าสิ่งที่ประมุขอี้เจาทำนั้น คือการหวังดีต่อถวนจื่อ ข้าก็รู้สึกยินดีและมีความสุขเช่นกัน”

สิ่งที่พูดนี้เป็นความจริง

ฉู่หลิวเยว่รู้ว่าตนเองไม่ใช่คนดีอันใด ครั้งนี้เผ่าหงส์ทองคำทำหลายสิ่งหลายอย่างต่อนาง หากเป็นนางเมื่อก่อนหน้านี้ นางไม่มีทางอดทนได้อย่างแน่นอน

แต่รู้ว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาก็ทำเพื่อถวนจื่อ

เมื่อพิจารณาถึงจุดนี้แล้ว นางก็สามารถเมินเฉยสิ่งเหล่านั้นได้ทั้งหมด

สำหรับนางแล้ว ถวนจื่อมีความสำคัญมากกว่าสิ่งใด

ทันทีที่สิ้นเสียง นางก็รู้สึกว่าขาของตนเองอุ่นวาบ

เมื่อก้มหน้าลงไปมองก็เห็นว่าถวนจื่อกำลังกอดขาของนางอยู่ อีกทั้งยังจ้องมองนางด้วยแววตาเปล่งประกาย ในดวงตาเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา

“อาเยว่…”

ถวนจื่อเรียกชื่อนางด้วยความออดอ้อนและสนิทสนม อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความผูกพันและพึ่งพา

นางรู้ว่า อาเยว่นั้นดีต่อนางมากที่สุด!

ฉู่หลิวเยว่ลูบศีรษะของนางพร้อมรอยยิ้ม

“ข้ามีคำถามจะถามเจ้า”

เสียงของท่านผู้นั้นดังขึ้นมาอีกครั้ง

ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า

“ผู้อาวุโสเชิญพูดมาได้เลย”

อีกฝ่ายลังเลไปครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นอย่างเชื่องช้าว่า

“ของที่อยู่ภายในร่างกายของเจ้า เจ้าได้มาจากที่ไหน?”

ภายในท้องพระโรงตกอยู่ในความเงียบงัน

ทันทีที่ฉู่หลิวเยว่ได้ยินประโยคนั้น นางก็สามารถเข้าใจได้ทันทีว่า เขาหมายถึงไข่มุกธาราที่อยู่ในตันเถียนของนาง!

นางชะงักไปชั่วคราว และรู้ว่าในตอนนี้ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งโง่งม นางจะพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า

“นั่นเป็นสิ่งที่ผู้เยาว์ได้มาอย่างบังเอิญเมื่อหลายปีก่อน”

“อ่า?”

อีกฝ่ายดูประหลาดใจเล็กน้อย

“แล้วหลายปีที่ผ่านมานี้เจ้าไม่คิดจะตามหาเศษที่เหลือหรือ?”

ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมอง!

ห่างออกไปหลายหมื่นลี้

บนเกาะแห่งหนึ่งที่มีภูเขาสลับซับซ้อน

ที่แห่งนี้คือฐานที่มั่นของไท่ซวีเฟิ่งหลง

ยอดเขาสูงที่อยู่ตรงกลางมีความสูงมากที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นมันเต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่ตระการตา

ทันใดนั้นเองภายในถ้ำแห่งหนึ่งที่อยู่เชิงเขาก็มีเสียงคำรามของมังกรดังลอดออกมาด้วยความโกรธจัด

โฮก…

กระแสเสียงสะเทือนฟ้า ทำให้ไท่ซวีเฟิ่งหลงจำนวนไม่น้อยหันไปมองด้วยความตกใจ

“มันเกิดอันใดขึ้นหรือ?”

“เสียงนั้นเหมือนจะเป็นเสียงของผู้อาวุโสโหมวเหยา?”

“อ่า… เหมือนว่าผู้อาวุโสโหมวเหยาจะหายดีแล้วสินะ…” น้ำเสียงนั้นยังแฝงด้วยความประชดประชันอยู่หลายส่วน “ครั้งนี้พักรักษาตัวนานขนาดนี้ ช่างลำบากจริงๆ เลยนะ”

“ชู่ว! เบาเสียงหน่อย! หากมีใครได้ยินเข้า แล้วเรื่องนี้รู้ถึงหูผู้อาวุโสโหมวเหยา เกรงว่าเจ้าจะต้องรับผลที่ตามมาเองแล้ว! เจ้าลืมพวกที่ติดตามเขาไปที่สำนักหลิงเซียวแล้วหรือ ตอนนี้จุดจบของพวกเขาคืออย่างใด!”

“หึ แล้วอย่างใดเล่า? ข้าพูดผิดตรงไหนกัน? อย่างมากที่สุดข้าก็แค่เป็นห่วงสภาพร่างกายของผู้อาวุโสโหมวเหยาก็เท่านั้น! แล้วอีกอย่างไม่ใช่แค่พวกเราเท่านั้น เหล่าผู้อาวุโสจำนวนไม่น้อยก็ล้วนวิพากษ์วิจารณ์ผู้อาวุโสโหมวเหยากันอยู่เลย!”

นี่เป็นการพูดปฏิเสธทางอ้อม

ตั้งแต่ผู้อาวุโสโหมวเหยาพาคนไปที่สำนักหลิงเซียว เขาก็ตั้งใจไปหาเรื่องซั่งกวนเยว่และซั่งกวนจิ้ง หลังจากที่เขากลับมาในสภาพอเนจอนาถ ความคิดของไท่ซวีเฟิ่งหลงที่มีต่อเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก

บทที่ 1612 เจ้าไม่ไปหาส่วนที่เหลือหรือ 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์