นางยืนยันว่าจะพาถวนจื่อกลับไป ที่นางมาในครั้งนี้ก็เพื่อมาทำความรู้จักกับบรรพบุรุษ เพราะหลังจากนี้ก็นับว่าเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว
แม้ว่าในตอนนี้ สถานที่แห่งนี้จะสามารถเรียกว่า “บ้าน” ได้หรือไม่นั้นก็ยังไม่ทราบ แต่การทำความเคารพบรรพบุรุษนั้นสำคัญที่สุด
ไม่อย่างนั้นจะถือว่ามาเสียเที่ยวแล้วไม่ใช่หรือ?
“อ่า? อื้อ ดีเลย ดีมากเลย!”
ถวนจื่อได้ยินว่าสามารถจากไปได้แล้ว ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
แค่ทำตามขั้นตอนไม่น่าจะมีอันใดยุ่งยาก! ไม่ว่าอย่างใดหากสุดท้ายแล้วสามารถออกจากที่นี่ได้ก็จะดีอย่างยิ่ง!
ฉู่หลิวเยว่ลูบศีรษะของอีกฝ่ายเบาๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมองกลุ่มคนไม่กี่คนที่ยังแข็งค้างอยู่ที่เดิม
“ท่านประมุขอี้เจา ขอบคุณมากสำหรับความเมตตาที่ท่านมีให้ เพียงแต่ว่าตอนนี้ถวนจื่อยังเด็กเกินไป อีกทั้ง… อีกนานหลังจากนี้นางน่าจะต้องติดตามข้าไป ตำแหน่งนายน้อยนี้ เกรงว่านางจะไม่สามารถรับเอาไว้ได้ ข้าว่าท่าน… ถอนคำพูดเสียจะดีกว่า”
สายตาจำนวนนับไม่ถ้วนหันมามองนางเป็นตาเดียว อารมณ์ของพวกเขาซับซ้อนสับสนเป็นอย่างมาก
ความจริงแล้วเรื่องนี้ คนที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุด นอกจากถวนจื่อแล้วก็คือซั่งกวนเยว่
นางเป็นเจ้านายของถวนจื่อ หากถวนจื่อสามารถรับตำแหน่งนายน้อย เช่นนั้นตำแหน่งของนางก็จะสูงขึ้น อย่างน้ำขึ้นเรือย่อมสูง
และยิ่งไม่ต้องพูดถึงหากหลังจากนี้ถวนจื่อได้เป็นประมุข
เมื่อถึงเวลานั้นภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงทั้งหมดก็จะต้องติดตามนางไปด้วย
ทุกคนเชื่อฟังถวนจื่อ ส่วนถวนจื่อก็จงรักภักดีต่อนาง
เท่ากับว่าเผ่าหงส์ทองคำทั้งหมดกลายเป็นผู้สนับสนุนอันทรงพลังของนาง!
ซั่งกวนเยว่ไม่มีทางไม่เข้าใจเรื่องนี้
แต่คาดไม่ถึงว่านางจะปฏิเสธโดยตรง…
อี้เจาขมวดคิ้วแล้วมองหน้านาง ความรู้สึกที่อยู่ภายในใจก็เปลี่ยนไปหลายส่วน
… ซั่งกวนเยว่ผู้นี้ ไม่เหมือนกับมนุษย์ผู้อื่นจริงๆ
สิ่งเย้ายวนขนาดใหญ่มาวางอยู่ตรงหน้า มีใครบ้างที่จะสามารถปฏิเสธมันได้?
เมื่อพิจารณาจากความใกล้ชิดของถวนจื่อ ขอเพียงแค่นางสั่งให้ถวนจื่อไปแย่งชิงมา ถวนจื่อจะต้องตอบตกลงอย่างไม่อิดออดแน่นอน
แต่นางกลับไม่ได้ทำเช่นนั้น นางปฏิเสธตำแหน่งเหล่านั้นแทนถวนจื่อ
ดวงตาดำขลับคู่นั้นเหมือนว่าจะสว่างวาบขึ้น
กระจ่างใส ไร้มลทิน ไม่มีคำพูดโกหกหรือไม่อยากละทิ้งตำแหน่งนี้
… เหมือนว่านางไม่ได้สนใจตำแหน่งเหล่านี้จริงๆ
อี้เจาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง
“ถวนจื่อก็คิดเช่นนั้นหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มแล้วก้มหน้ามองถวนจื่อ
ถวนจื่อเงยหน้าขึ้น แล้วพูดอย่างชัดเจนว่า
“ตำแหน่งนายน้อยมันมีอันใดดีกัน? ข้าอยากจะติดตามอาเยว่ไปต่างหาก!”
สีหน้าของนางนั้นบริสุทธิ์และผ่อนคลาย แต่ทุกคำที่พูดออกมาล้วนจริงใจ
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ
ถวนจื่อดูเหมือนว่าอายุยังน้อย แต่ความจริงแล้วอีกฝ่ายติดตามนางมาหลายปี เรื่องราวส่วนใหญ่ มันก็รู้อย่างชัดเจน
แต่มันยังคงเลือกทำเช่นนี้อย่างไม่ลังเล
แล้วนางจะไม่รู้สึกซาบซึ้งได้อย่างใด?
ยังดีที่เรื่องราวเหล่านี้น่าจะสามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว เมื่อถึงตอนนั้นนางจะได้พาถวนจื่อออกไปจากที่นี่ได้
หลังจากนี้จะได้มีชีวิตอยู่อย่างผ่อนคลายแล้ว
เมื่อทุกคนได้ยินถวนจื่อพูดเช่นนี้ พวกเขาจึงมีสีหน้าแตกต่างกันออกไป
คนจำนวนไม่น้อยลอบสบสายตากัน
มีบางคนรู้สึกเสียดาย บางคนก็ดูแคลน บางคนประชดประชัน และบางคนที่คิดจะคัดค้าน
พวกเขาคิดว่าการที่ถวนจื่อติดตามซั่งกวนเยว่ต่อไป และปฏิเสธตำแหน่งนายน้อย เป็นเรื่องโง่เขลาอย่างไม่ต้องสงสัย
คนมากมายต้องการแย่งชิงตำแหน่งนี้ แต่นางกลับสละสิทธิ์
นี่มัน… โง่อย่างไม่มีทางรักษาได้!
…
ผู้อาวุโสอี้กงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“ท่านประมุข ในเมื่อถวนจื่อพูดออกมาเองเช่นนี้แล้ว ท่านยังจะยืนหยัดต่อไปหรือ?”
ผู้อาวุโสอี้ซังเหลือบสายตาหันไปมองซั่งกวนเยว่อย่างลึกซึ้ง
ไม่รู้ว่าแม่นางคนนี้มีความสามารถระดับไหนกันแน่ คาดไม่ถึงว่าจะสามารถทำให้ถวนจื่อยอมติดตามต่อไปอย่างเต็มใจ อีกทั้ง… ยังยินยอมที่จะเสียสละโอกาสอันล้ำค่านี้อย่างไม่ลังเล
การที่มีสายเลือดบริสุทธิ์แต่ไม่สามารถเป็นนายน้อยได้นั้น มันช่าง… น่าเสียดายจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...