ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 560

เชียงหว่านโจวชะงัก

“ข้าก็ทำเช่นนี้มาโดยตลอด”

มาโดยตลอดหรือ?

จากนั้นฉู่หลิวเยว่ก็เข้าใจในทันที

“เมื่อก่อนเวลาที่เจ้าอยู่กับคนๆ นั้น เจ้าก็ทำเช่นนี้สินะ? แล้วนางผู้นั้นเองก็…ชอบทำอันใดแบบนี้?”

เชียงหว่านโจวส่งเสียง “อือ” ตอบกลับเบาๆ

ฉู่หลิวเยว่พลันขมวดคิ้ว

คนที่ชอบเล่นหมากรุกไปพร้อมๆ กับดื่มชานั้นมีอยู่มากมาย

แต่ทว่า น้อยคนนักที่จะชอบวางชาขิงไว้ข้างขอบกระดานหมากรุกเช่นนี้

อย่างน้อยในหมู่คนที่ฉู่หลิวเยว่รู้จัก นอกจากตัวนางเองแล้ว ก็ไม่เคยเห็นใครทำแบบนี้มาก่อน

“จะพูดอย่างใดดี ดูบังเอิญจังเลยนะ”

คนผู้นั้นมีนามว่า “เยว่” และนางเองก็ชื่อ “เยว่”

คนผู้นั้นชอบวางชาขิงไว้ข้างกระดานหมากรุก และนางเองก็ชอบทำเช่นกัน

ราวกับนางมีชะตากรรมร่วมกับเชียงหว่านโจวอย่างนั้นแหละ

ฉู่หลิวเยว่ถูถ้วยน้ำชาในมือของตน

น้ำชาในถ้วยยังร้อนอยู่ มีควันสีขาวลอยม้วนตัวขึ้น พร้อมความขมจางๆ ที่สัมผัสได้จากความฉุนของขิง ซึ่งให้ความสดชื่นเป็นพิเศษ

ทันใดนั้น นางก็เริ่มสงสัยเกี่ยวกับบุคคลนั้น

หากคนผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่…นางก็อยากจะลองเจออีกฝ่ายซึ่งๆ หน้าสักครั้ง

เชียงหว่านโจวใจลอย อย่างกับกำลังคิดอันใดอยู่

กระทั่งฉู่หลิวเยว่เรียกเขาสองครั้ง เขาถึงได้สติคืนมา

“อันใด?”

ฉู่หลิวเยว่ตอบกลับ

“ข้าบอกว่า วันนี้เราจะพักผ่อนกันก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยเดินทางไปที่ชงซูเก๋อ”

อวี้ฉือซงกลับไปตั้งนานแล้ว แต่ก็ฝากให้เย่หรานหร่านอยู่ดูแลพวกเขา

ดังนั้นคืนนี้เย่หรานหร่านเองก็จะพักอยู่ที่นี่เช่นกัน

แม้ว่าจวนหลังนี้จะเล็กกว่าจวนมู่ แต่หากพักอยู่เพียงไม่กี่คน ก็สามารถอยู่กันได้อย่างสบายๆ

เย่หรานหร่านขอตัวไปพักผ่อนอย่างไว

แต่เชียงหว่านโจวยังมีบางสิ่งที่เขาต้องการจะพูด และยังยืนอยู่ที่เดิม

ฉู่หลิวเยว่จึงเดินเข้าไป พลางถามด้วยรอยยิ้ม

“มีอันใดจะถาม ก็ถามมาได้เลย”

เชียงหว่านโจวยืนหันหลังให้กับประตู แสงระเรื่อสาดส่องลงบนเส้นผมสีบลอนด์อ่อนๆ ของเขา จนหัวกลมๆ นั่นดูเป็นประกายเจิดจ้า แม้แต่หูของเขาเองก็ดูเหมือนจะโปร่งใส รวมทั้งแก้มเนียน ที่ดูละเอียดอ่อนยามถูกไล้ด้วยแสงไฟจากภายนอก

อย่างใดก็ตาม ใบหน้าของเขาถูกซ่อนอยู่ในเงามืด และเพราะความกึ่งสว่างและกึ่งมืดนี้ จึงทำให้คนที่มองอยู่เห็นสีหน้าของเขาได้ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร

มีเพียงดวงตาที่ฉายแสงลึกลับและคลุมเครือคู่นั้น ที่เปล่งประกายท่ามกลางความมืด

หลังจากเงียบไปนาน เขาก็ถามเบาๆ

“เมื่อก่อนเจ้าเคยไปแถวชายแดนทางใต้หรือไม่?”

ฉู่หลิวเยว่ส่ายหัว

“ไม่เคย”

แสงนัยน์ตาของเชียงหว่านโจวดับลง เสมือนเทียนที่มอดดับ

หัวใจของฉู่หลิวเยว่ดิ่งจมลงอย่างไม่มีเหตุผล ราวกับว่านางถูกกดดันอย่างหนักจากบางสิ่งบางอย่าง

“ข้าเข้าใจแล้ว”

พูดจบเชียงหว่านโจวก็หมุนตัวเตรียมเดินออกไป

ทว่าในขณะที่ก้าวขาออกไปข้างหนึ่ง จู่ๆ เขาก็หยุดฝีเท้าลง

“เจ้าว่า นางจะลืมข้าไปแล้วหรือเปล่า?”

เสียงของเขาเบาหวิวอย่างกับสายลม

ไม่มีน้ำเสียงที่เย็นชาและแข็งกร้าวเหมือนปกติ และไร้ซึ่งน้ำเสียงที่ดื้อรั้นเฉกเช่นในอดีต

ณ ตอนนี้เชียงหว่านโจวดูสิ้นหวังราวกับเด็กน้อยที่กำลังหลงทาง

ฉู่หลิวเยว่จ้องมองแผ่นหลังของอีกฝ่าย

ร่างที่ผอมแห้งเกินมาตรฐานของเด็กชาย ถูกซ่อนอยู่ในเสื้อผ้าที่หลวมโพรกและพลิ้วไหวไปมา เนื่องจากขนาดที่ใหญ่เกินตัว

กระแสแห่งความเหงาที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ในใจ เล็ดลอดออกมาจากตัวเขา และห่อหุ้มร่างของเขาเอาไว้

“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างใด?”

ฉู่หลิวเยว่เอ่ยเสียงแผ่ว

บทที่ 560 นางไม่มีทางลืมข้า 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์