องค์ไท่จู่ตกตะลึงจนอ้าปากค้าง
ยะ…อย่างนี้ก็ได้ด้วยรึ?
เด็กนี่จะแข็งแกร่งเกินไปหรือเปล่า
มีใครที่ไหนยืนชี้กระบี่ “ด่า” ทัณฑ์สวรรค์แบบนี้กัน
แต่ทัณฑ์สวรรค์สายที่ยี่สิบเอ็ดกลับโผล่ออกมาจริงๆ และหลังจากที่มันปรากฏขึ้น มันก็ผ่าลงมาอย่างรวดเร็ว แทบไร้ซึ่งความลังเลใดใด
ฉู่หลิวเยว่ยืดตัวขึ้น แล้วยื่นกระบี่ออกไป
บนผิวหน้าของกระบี่เล่มงาม เปลวเพลิงกำลังแผดเผาอย่างดุเดือด! เผยให้เห็นเจตจำนงที่น่าเกรงขามของกระบี่เล่มนั้น
วินาทีต่อมา ฉู่หลิวเยว่ก็กระโดดขึ้นไปบนอากาศ และปะทะกับทัณฑ์สวรรค์ที่ฟาดลงมาอย่างรุนแรง
เปรี้ยง!
เกิดเสียงดังอึกทึก และลำแสงสีเงินที่กระเด็นไปทุกสารทิศ พร้อมทั้งมวลของพลังปราณที่กระจายไปทั่ว
ฉากเดิมๆ ที่เคยเห็นมาแล้วหลายครั้ง วนกลับมาฉายอีกรอบหนึ่ง
แต่คราวนี้ฉู่หลิวเยว่สามารถเรียกทัณฑ์สวรรค์ได้ โดยที่แทบไม่ต้องใช้ความพยายามเลย
เมื่อลำแสงสีเงินไหลเข้าสู่ตัวกระบี่เทพเมฆาสำริดจนหมด ทัณฑ์สวรรค์อีกสายก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมอง พลางกระตุกยิ้มมุมปาก
“ออกมาเร็วแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”
จะได้รีบทำรีบเสร็จ
องค์ไท่จู่ “…”
เขาเริ่มรู้สึกว่า ความกังวลในตอนแรกนั้นดูเหมือนจะไม่จำเป็นแล้ว
ไม่สิ ไม่จำเป็นเลยสักนิดต่างหาก
…
ณ แอ่งสี่ทิศ
ครึ่งแรกของการประลองผ่านไป และกำลังจะเข้าสู่ช่วงที่ตึงเครียดที่สุด
การแข่งขันของทั้งสี่สนามนั้นรุนแรงมาก
แต่สนามของชงซูเก๋อกับพันธมิตรเก้าดารานั้น เรียกว่าได้เป็น “โศกนาฏกรรม” เลยก็ว่าได้
“ตู้ม!”
บนลานประลองศิลปะการต่อสู้ ร่างของใครบางคนกระเด็นออกมา และกระแทกพื้นอย่างแรง จนร้องครางด้วยความเจ็บปวด
“การประลองประเภทนักรบครั้งที่หก เพ่ยชางจากพันธมิตรเก้าดารา เป็นฝ่ายชนะ!”
ตามมาด้วยเสียงโห่ร้องที่ดังกังวาน
ผู้ชมแต่ละคนล้วนมีสีหน้าที่แตกต่างกันไป หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง พวกเขาก็เริ่มกระซิบกระซาบกันอย่างเมามัน
“การประลองครั้งนี้กลายเป็นชัยชนะของฝ่ายพันธมิตรเก้าดาราอีกครั้ง ในการประลองหกครั้งนี้ กลับกลายเป็นว่าพวกเขาชนะห้าครั้งติด! สาวกของพันธมิตรเก้าดารานั้นแข็งแกร่งอันใดเยี่ยงนี้!”
“ดูจากแนวโน้มแล้ว สิ่งที่ชงซูเก๋อหวั่นเกรงคงได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ…ข้าคิดว่าพวกเขาสามารถดึงเกมในการแข่งขันเซียนหมอได้ แต่ในการประลองเจ็ดครั้ง จนถึงตอนนี้ พวกเขาชนะสามครั้ง แพ้สองครั้ง เสมอสองครั้ง…มันไม่นับว่าได้เปรียบเลยสักนิด…”
“ไม่เพียงแค่นั้น ในการประลองประเภทของปรมาจารย์ ดูเหมือนพวกเขาจะแพ้ไปหลายครั้งเลยนะ? นับดูแล้ว ตอนนี้ชงซูเก๋อตามหลังพันธมิตรเก้าดาราอยู่ไม่น้อยเลย หากพวกเขาต้องการพลิกเกม การประลองที่เหลือต้องชนะเท่านั้นถึงจะเป็นไปได้…”
ผู้คนต่างถกเถียงกันเกรียวกราว
กำลังใจของฝ่ายพันธมิตรเก้าดารานั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าของพวกเขานั้นเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ
“ท่านผู้นำ สิ่งที่ท่านได้พูดก่อนหน้านี้ไม่เลวเลย ทันทีที่คนเหล่านั้นก้าวขึ้นมาบนเวทีประลอง ชงซูเก๋อก็ไม่มีแรงที่จะสู้กลับแล้ว ขอเพียงปล่อยให้พวกเราผ่อนคลายจากสถานการณ์ในตอนนี้ พวกเราจะต้องได้รับชัยชนะได้อย่างแน่นอน!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ท่านผู้นำจางหัวก็หัวเราะเยาะเย้ย
“นี่มันก็เป็นเรื่องปกติมิใช่หรือ? ชงซูเก๋อนั้นแข็งนอกอ่อนใน ไม่ทันใดก็ไม่ไหวซะแล้ว! แม้ว่าไม่ได้ใช้สิ่งเหล่านั้น…พวกมันก็ไม่ถือว่าเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเราอยู่ดี ตำแหน่งสี่นิกายที่ยิ่งใหญ่ วันนี้พันธมิตรเก้าดาราจะครอบครองมันเอง”
“ฉลาดหลักแหลม สมกับเป็นท่านผู้นำ”
…
ในอีกฝั่ง สาวกสองคนของชงซูเก๋อรีบก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและประครองชายคนนั้นกลับมา
เย่หรานหร่าน ก้าวไปข้างหน้าด้วยความกังวล
“ศิษย์พี่หลู่ เป็นอย่างใดบ้าง?”
แท้จริงแล้วคนที่เข้าร่วมในการแข่งขันครั้งนี้ ก็คือลู่จือเหยา
ลู่จือเหยา เงยหน้าขึ้นและฝืนยิ้ม
“ขะ…ข้าไม่เป็นไร เพียงแค่นำความพ่ายแพ้ให้กับชงซูเก๋อ ข้าขอโทษพวกเจ้าทุกคน…”
ใบหน้าของเขาซีดมาก มุมปากและทรวงอกของเขาล้วนเต็มไปด้วยเลือด เห็นได้ว่าได้รับบาดเจ็บสาหัส
รอยยิ้มที่ไร้เรี่ยวแรงนี้ดูอ่อนแอและเศร้าหมองยิ่งนัก
อวี้ฉือซงพูดด้วยเสียงทุ้มว่า
“คนๆ นั้นศักยภาพไม่ได้อ่อนแอ อีกทั้งฝีมือของเขาร้ายกาจนัก เจ้าแพ้แล้วจะตำหนิตัวเองไม่ได้ ไม่ต้องโทษตัวเอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...