ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน จางเทียนเหิงก็หันไปมอง เมื่อเห็นอู๋เป่ยเขาก็พยักหน้าเบาๆและไม่ได้ลุกขึ้นแต่อย่างใด อีกทั้งก็ไม่ได้ทักทาย
และอู๋เป่ยเองก็ไม่ได้ไปหา เขาทำเพียงดึงแขนติงม่อไปนั่งข้างๆพูดพร้อมกับรอยยิ้มว่า “พี่สอง ตั้งลากันตอนนั้น ผมก็ไม่ได้เจอพี่อีกเลย พี่ไปไหนอยู่ไหนมา?”
ติงม่อยิ้มอย่างขมขื่น “อย่าพูดถึงมันเลย ถ้าไม่ใช่เพราะพลังวิญญาณฟื้นคืนกลับมา เราสองคนคงไม่ได้เจอกันอีก” ต่อจากนั้น เขาก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เขาได้ประสบพบเจอมาให้ฟัง
ที่แท้ หลังจากที่ทั้งคู่แยกจากกันเป็นเวลาไม่นาน ติงม่อได้ค้นพบภูเขาสุสานเซียน หลังจากที่เขาเข้าไปในสุสานเซียน โดยภายในถูกกระตุ้นให้ส่งไปยังสถานที่หนึ่งที่ไม่คุ้นเคย
อยู่ที่นั่น โดยตัวเขาเองที่เคยมีประสบการณ์ก็กลับฝึกฝนได้อย่างก้าวกระโดด ตอนนี้เป็นถึงตี้เซียนอมตะ ต่อมา ทุกๆพื้นที่ก็พับและเเบ่งแยกออกเขาถึงสามารถออกมาจากที่นั่นได้
และเมื่อเร็วนี้ๆ เป็นเพราะว่าเขาสามารถเปิดภูเขาสุสานเซียนได้ติดๆกันหลายๆสุสานทำให้เป็นที่ดึงดูดความสนใจของแคว้นหลงกั๋ว แคว้นหลงกั๋วถึงขั้นเรียนเชิญให้เขาเข้าวังเพื่อเข้าเฝ้าจักรพรรด
อู๋เป่ยหัวเราะแล้วพูดว่า “ดูท่าพี่สองคงได้สิ่งตอบแทนมาไม่น้อยเลย”
ติงม่อหัวเราะฮิฮิ “ก็ธรรมดาๆนี่แหล่ะ แน่นอนว่าคงไม่ได้เท่าน้องสาม ที่ฉันกลับมาก็เพราะได้ยินเรื่องของแกมาว่าเป็นถึงอัจฉริยะของสถาบันศิลปะการต่อสู้”
อู๋เป่ย “ตอนนี้ผมกำลังเตรียมตัวเข้าร่วมการสอบของสถาบันศิลปะการต่อสู้ เพื่อพิสูจน์และยืนยันราชาเเห่งศิลปะการต่อสู้ในตำนาน ถ้าเป็นแบบนั้นก็จะสามารถหาเงินได้ก้อนใหญ่เลยล่ะ”
หลังได้ฟังประโยคนี้ คนที่อยู่ข้างๆก็หัวเราะเย็นแล้วพูดว่า “ราชาแห่งราชาแห่งศิลปะการต่อสู้ในตำนาน? นายรู้ไหมว่าราชาแห่งราชาแห่งศิลปะการต่อสู้ในตำนานหมายถึงอะไร?”
อู๋เป่ยมองไปยังคนที่เพิ่งพูดประโยคเมื่อครู่ด้วยแววตาที่แปลกใจ จากนั้นเขาจึงเอ่ยถาม “คุณเป็นใคร?”
คนที่พูดคือชายหนุ่มที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับเขามาก เขาพูดด้วยท่าทางทนงตนว่า “สถาบันศิลปะการต่อสู้สามดาว กัวเฟิ่งหมิง!”
อู๋เป่ย “ราชาแห่งศิลปะการต่อสู้ในตำนานไม่ใช่ว่าจะเป็นกันได้ง่ายๆ แต่สำหรับฉันแล้วมันง่ายเหมือนการพลิกฝ่ามือ”
กัวเฟิ่งหมิงหัวเราะเย็นพร้อมกับกล่าว “จะโม้อะไรก็ไม่ดูสถานที่เอาซะเลย สถาบันศิลปะการต่อสู้อยู่ตรงหน้า มีเพียงเเค่คนเดียวเท่านั้นที่จะเป็นราชาศิลปพแห่งการต่อสู้ในตำนาน อีกทั้งไม่ได้พึ่งยาที่ทำให้พลังแข็งแกร่งเพื่อทำให้บรรลุเป้าหมาย”
อู๋เป่ย “อีกหน่อยฉันก็จะเข้าร่วมการทดสอบราชาแห่งศิลปะการต่อสู้ในอีกไม่นาน หากว่านายพอจะมีเวลามากพอที่จะไปชมเพื่อให้เป็นความรู้”
กัวเฟิ่งหมิงทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ และไม่อยากสนทนากับเขาต่อไป
ติงม่อเองก็รู้สึกตกใจ “น้องสาม พลังยุทธ์ของแกตอนนี้สามารถถึงระดับราชาแห่งศิลปะการต่อสู้ในตำนานไหม?”
อู๋เป่ย “ไม่มีแปลกหนิ”
ทั้งสองสนทนากันต่อสักพัก อู๋เป่ยถามจัวกงกง “จัวกงกง ต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน?”
จัวกงกงยิ้มพร้อมกับพูดว่า “คนพวกนี้กำลังเข้าแถวเพื่อที่จะรอพบฝ่าบาท เกรงว่าอาจจะต้องรอถึงเย็น”
และเเน่นอนว่าอู๋เป่ยไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไปจึงพูดว่า “จัวกงกง สามารถช่วยชืนอยู่ตรงนี้แทนได้ไหม ฉันจะออกไปด้านนอกสักหน่อย”
จัวกงกงทำสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย ภายในใจก็ได้แต่คิดว่าจะมีอะไรสำคัญได้เท่าการเข้าเฝ้าฝ่าบาทอีก? เขาจึงเอ่ยถามพร้อมกับหัวเราะเบาๆ “อุปราชอู๋จะไปไหนเหรอ?”
อู๋เป่ย “ฉันจะไปสถาบันศิลปะการต่อสู้สักหน่อยน่ะ เพื่อเอาบัตรราชาแห่งศิลปะการต่อสู้ในตำนาน แบบนี้ฝ่าบาทก็จะมองเห็นความสำคัญของฉัน”
จัวกงกงถึงกับตะลึง “อะไรนะ คุณจะไปขอบัตรประราชาแห่งศิลปะการต่อสู้ในตำนานงั้นเหรอ?”
อู๋เป่ย “ถูกต้อง”
จัวกงกงรีบพูด “โอเคๆ รีบไปรีบมานะอุปราชอู๋ พวกผมจะรอฟังข่าวดี!”
อู๋เป่ยพยักหน้าแล้วพูดกับติงม่อว่า “พี่สอง ผมไปแป๊ปเดียวเดี๋ยวกลับนะพี่!”
เมื่อออกจากตำหนัก อู๋เป่ยก็มุ่งตรงไปยังหอคอยเซียนหวู่ของสถาบันศิลปะการต่อสู้ ผู้คุมหอคอยเซียนหวู่จำเขาได้ เเละเมื่อเห็นเขามาเยือนก็รีบเอ่ยถามในทันที “อาจารย์อู๋ ท่านต้องการทดสอบอีกเหรอครับ?”
อู๋เป่ย “อืม ฉันจะทดสอบราชาศิลปะการต่อสู้ในตำนาน”
ชายผู้นั้นไม่กล้าที่จะห้ามเขาไว้ “เชิญด้านในครับ!”
อู๋เป่ยเข้าไปในหอคอย ชายคนนั้นก็ปรากฏตัวขึ้น “เชิญที่ชั้นแปด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...
619 หายไปตอนนึงนะ...