เขามองไปที่เม็ดยาประเภทที่สองอีกครั้ง แม้ว่าจะดูไม่ค่อยได้แต่ภายในกลับมีสรรพคุณเด่นอยู่ เห็นได้ชัดว่าหนุ่มน้อยผู้นี้เพียงแค่ขาดอาจารย์ผู้ชี้แนะเท่านั้น
เขาเผยยิ้ม : “ไม่เลว ถ้านายอยากที่เรียนหลอมยาจริงๆ มีเวลาว่างเมื่อไหร่ก็มาเป็นลูกมือช่วยฉันหลอมยาเถอะ ถ้าหากว่านายมีคุณสมบัติในการเป็นนักปรุงโอสถจริงๆ ในอนาคตฉันอาจรับนายเป็นศิษย์”
หยวนหยงฮุยยินดีเป็นอย่างยิ่ง : “ยอดไปเลย! ขอบคุณท่านอาจารย์หลี่ครับ!”
หยวนติงโจวก็ดีใจเป็นอย่างมาก อู๋เป่ยเป็นถึงนักหลอมโอสถระดับหกคนเช่นนี้เพียงแค่เขาให้คำแนะนำแก่ลูกชายนิดๆ หน่อยๆ ก็ถือว่าได้ประโยชน์มากมายแล้ว!
เมื่อออกจากโรงประมูลหยงฮุย อู๋เป่ยก็เดินกลับไปยังเส้นทางเดิมในตอนที่เขาเดินผ่านโรงประมูลเหม่าเซิง เสี่ยวเออร์ของโรงประมูลยืนอยู่หน้าประตูเมื่อเห็นว่าอู๋เป่ยเดินออกมาจากโรงประมูลฝั่งตรงข้ามก็เผยยิ้มเย็นออกมาพร้อมตะโกนเสียงดังว่า : “คุณชายท่านนี้ไม่ใช่ว่าไปทำการค้ากับทางโรงประมูลหยงฮุยแล้วหรอกนะ?”
ได้ยินอีกฝ่ายเรียกทางอู๋เป่ยก็หยุดเดินแล้วเอ่ยว่า : “ใช่แล้ว ฉันตัดสินใจร่วมทำการค้าระยะยาวกับพวกเขาแล้ว”
เสี่ยวเออร์ส่ายศีรษะไปมาพลางกล่าว : “คิดว่าการค้าของคุณคงแค่การค้าขายเล็กๆ แต่ต่อให้จะเป็นการค้าเล็กๆ ก็ต้องหาโรงประมูลที่ดีๆ หน่อย ไม่เช่นนั้นหวังเพียงประโยชน์เล็กน้อยแต่อาจขาดทุนจนย่อยยับ”
อู๋เป่ย : “โอ้ ฉันจะขาดทุนยังไงกันหรอ?”
เสี่ยวเออร์ : “คุณทำการค้ากับอีกฝ่ายเกรงว่าเป็นเพราะอีกฝ่ายเรียกเก็บค่าธรรมเนียมค่อนข้างต่ำใช่ไหมล่ะ? แต่เคยคิดบ้างรึเปล่าว่าโรงประมูลอื่นๆ ประมูลสิ่งของที่เหมือนกัน พวกเราสามารถเพิ่มมูลค่าของสินค้าได้สูงถึงหนึ่งพันแต่อีกฝ่ายทำได้สูงสุดแค่แปดร้อยเท่านั้น! ในจุดนี้คุณเคยคิดถึงมันรึเปล่า?”
อู๋เป่ย : “ขอบคุณที่เป็นห่วงแต่ฉันไม่ได้กังวลใจกับเรื่องพวกนี้ สุราดีย่อมไม่กลัวตรอกลึก ยาของฉันมีแต่คนคิดอยากจะแย่งชิงไม่ว่าจะอยู่ในโรงประมูลไหนราคาของมันไม่มีทางตก”
เสี่ยวเออร์คนนั้นเผยรอยยิ้มเย็นออกมา เห็นได้ชัดว่าเขากำลังคิดว่าอู๋เป่ยกำลังโอ้อวดอยู่ : “งั้นหรือ ไม่ทราบว่าคุณชายประมูลยาแบบใดกันเล่า?”
อู๋เป่ย : “โอสถอันดับยาวิญญาณ” พูดจบเขาก็หันกายเดินจากไป
เสี่ยวเออร์ยืนงงอยู่ที่เดิม โอสถอันดับยาวิญญาณ? โอสถอันดับยาวิญญาณคืออะไรกัน? ขาเป็นเพียงเสี่ยวเออร์ในร้านเท่านั้นไม่ได้มีความรู้มากนัก
เวลานี้เอง เถ้าแก่ที่เดินมาส่งแขกหันมาเห็นเสี่ยวเออร์ที่กำลังยืนพึมพำบางอย่างอยู่จึงเอ่ยถามว่า : “ทำไมไม่อยู่ต้อนรับแขกด้านใน มายืนบื้ออยู่ตรงนี้ทำไม?”
เสี่ยวเออร์รีบเอ่ย : “เถ้าแก่ครับเมื่อครู่มีคนไม่มาเอาของประมูลกับเราแต่กลับไปลงประมูลกับโรงประมูลฝั่งตรงข้าม ผมบอกไปว่าเขาอาจขาดทุนได้แต่อีกฝ่ายกลับคุยโวว่าโอสถของเขาล้วนแต่เป็นโอสถอันดับยาวิญญาณอะไรสักอย่าง เหอะ คนแบบนี้ช่างน่าหัวเราะเยาะเสียจริง”
“อันดับยาวิญญาณ!” เถ้าแก่คว้าคอเสื้อเขาไว้ถามเสียงต่ำว่า “คนล่ะ อยู่ไหน?”
เสี่ยวเออร์ตกใจรีบเอ่ยบอก : “เขาไปแล้วครับเถ้าแก่”
ทางด้านเถ้าแก่ตบหน้าอีกฝ่ายเอ่ยด้วยโทสะว่า : “ทำไมถึงให้เขาไปโรงประมูลฝั่งตรงข้ามกัน เสี่ยวเออร์อย่างนายมัวไปทำอะไรอยู่?”
เสี่ยวเออร์กุมปากของตนตระหนักได้ถึงบางอย่างว่าไม่ดีแล้ว เขาเอ่ยด้วยใบหน้าอาบน้ำตาว่า : “ตอนนั้นเถ้าแก่กำลังต้อนรับแขกสูงศักดิ์ท่านหนึ่งอยู่ ผมเลยไม่กล้าไปรบกวน อีกอย่างเห็นว่าอีกฝ่ายมาแค่คนเดียวทั้งยังดูเหมือนคนธรรมดาคิดว่าคงไม่ใช่ลูกค้าสำคัญอะไรนักก็เลยให้เขารออยู่ด้านนอกแค่สามสิบนาทีอีกฝ่ายก็ทนไม่ไหวเอ่ยถามเพียงประโยคเดียวก็ไปโรงประมูลฝั่งตรงข้ามแล้ว”
เถ้าแก่ยกเท้าขึ้นถีบ : “ถ้าหากอีกฝ่ายเอาโอสถอันดับยาวิญญาณมาประมูลจริงๆ พวกเราขาดทุนย่อยยับแน่”
จิตใจเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทั้งยังไม่มีอารมณ์จะต้อนรับแขกอีกต่อไปจึงได้ทำหน้าหนาเดินไปที่โรงประมูลหยงฮุย
แม้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองโรงประมูลจะเป็นคู่แข่งแต่เมื่อพบกันต่างก็แสดงถึงความเกรงอกเกรงใจต่อกัน
“เถ้าแก่หนิว มีเวลาว่างมายังโรงประมูลเล็กๆ ของเราได้อย่างไรกันนี่?” เมื่อเห็นเถ้าแก่โรงประมูลร้านฝั่งตรงข้ามมาเยือนหยวนติงโจวก็รู้ได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายมาทำไมดังนั้นจึงออกมาต้อนรับอย่างอารมณ์ดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...