เขาเก็บยามังกรคะนองน้ำมา แล้วพูด:“ด้านในมีกล่องทองแดงอยู่กล่องหนึ่ง ในกล่องมีหินเซียนเจ็ดชิ้น ขวดยาสองขวด ขวดยานั้นมียาอายุวัฒนะจื่อเวยกับยาเทพไท่อี่”
ติงม่อพยักหน้า:“ดูเหมือนว่าการคาดการณ์ของฉันถูก จวนเซียนนี้น่าจะเป็นจุดรวมอิทธิพลของผู้บำเพ็ญตน”
หลังจากนั้นก็ประสานมือไหว้ไปทางอู๋เป่ย:“ขอบคุณนายมาก!”
อู๋เป่ย:“พรุ่งนี้ ฉันจะไปที่ประเทศพม่า ถ้านายอยากไปล่ะก็ สามารถเดินทางไปพร้อมกันได้”
ติงม่อสายตาเป็นประกาย:“นายก็อยากไปดูสถานที่จริงงั้นเหรอ?”
อู๋เป่ย:“บางทีฉันอาจจะพบของที่นายมองข้าม”
ติงม่อพยักหน้า:“ก็จริง งั้นพวกเราก็ไปด้วยกันเถอะ”
อู๋เป่ย:“การเดินทางของฉันครั้งนี้ เพราะต้องการจะซื้อหินอัญมณีบางส่วน เลยถือโอกาสไปดูสถานที่ที่นายว่าสักหน่อย”
ติงม่อยิ้ม:“ที่นั่นเดิมทีก็เป็นแหล่งผลิตหยก เพียงแต่หลายสิบปีก่อนถูกคนขุดจนไม่เหลืออะไรแล้ว ตอนนี้เป็นที่ดินว่างเปล่า รกร้าง คิดว่าน่าจะห่างจากสถานที่ที่นายไปไม่ไกลนัก”
อู๋เป่ยพยักหน้าเล็กน้อย:“อืม งั้นพวกเราก็ไปพร้อมกัน”
พูดจบ เขานึกขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง เลยถาม:“นายเป็นนักพรตเต๋า ตั้งใจตามหาจวนเซียนโดยเฉพาะ คิดว่าคงจะได้เก็บเกี่ยวอะไรไปเยอะล่ะสิ?”
ติงม่อทำหน้าตาภูมิใจ:“แน่นอน นักพรตเต๋าอย่างพวกเราถูกปุถุชนตั้งฉายาว่าผู้ให้แสงสว่าง ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเรา พัฒนาการของมนุษย์บางทีคงช้าไปไม่รู้กี่ปี”
อู๋เป่ยหัวเราะ:“งั้นเหรอ? งั้นนายก็คงเข้าใจยุคก่อนประวัติศาสตร์อย่างถ่องแท้ล่ะสิ?”
สีหน้าติงม่อเคร่งขรึม แล้วพูด:“นายพูดถึง‘ยุคก่อนประวัติศาสตร์’ เห็นได้ชัดว่านายก็เป็นผู้เชี่ยวชาญเหมือนกัน ถูกต้อง การฝึกยุทธ์ของคนยุคปัจจุบัน ส่วนหนึ่งก็มาจากยุคก่อนประวัติศาสตร์”
อู๋เป่ยรีบถาม:“ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ห่างกับยุคปัจจุบันมากเลยหรอ?”
ติงม่อส่ายหน้า:“ตามที่ฉันศึกษา ช่วงใกล้เคียงกับยุคก่อนประวัติศาสตร์ คือช่วงยุคธารน้ำแข็ง ช่วงเวลาประมาณหนึ่งหมื่นสองพันปีก่อน แน่นอนว่า ก่อนหน้านี้ ยังมียุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า”
อู๋เป่ย:“ยุคก่อนประวัติศาสตร์ของช่วงยุคธารน้ำแข็ง เจริญกว่าตอนนี้หรือเปล่า?”
ติงม่อคิดสักพักแล้วพูด:“ในช่วงยุคนั้น ใครๆก็เรียกว่ายุคก่อนน้ำแข็งกันทั้งนั้น ตามข้อมูลและหลักฐานที่ฉันรวบรวมได้ ยุคก่อนน้ำแข็งเป็นยุคยุคหนึ่งที่ใช้บำเพ็ญตน มนุษย์ในยุคนั้น เทคโนโลยีไม่ค่อยจะพัฒนาเท่าไหร่ แต่กำลังทหารส่วนตัวนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก”
หยุดไปสักพัก แล้วเขาพูด:“ก็ตามนี้แหละ ถ้าให้ตัดสินการต่อสู้ชี้ขาดของคนยุคปัจจุบันกับยุคก่อนน้ำแข็งล่ะก็ คนยุคปัจจุบันไม่ใช่คู่ต่อสู้เลยแม้แต่นิด ยุคก่อนน้ำแข็งสามารถทำลายล้างพวกเราได้ภายในวันเดียว”
อู๋เป่ยตกใจ:“แข็งแกร่งขนาดนั้นเลย?”
ติงม่อพยักหน้า:“แข็งแกร่งมาก เพราะว่ายุคนั้น มีเซียนสวรรค์อยู่ด้วย!”
ในใจอู๋เป่ยสั่นไหว:“เซียนสวรรค์เหรอ?”
ติงม่อ:“ถูกต้อง มีเซียนสวรรค์ ตามบันทึกตำรากล่าวว่า คำพูดของเซียนสวรรค์ถือว่าเป็นปณิธานของพระผู้เป็นเจ้า คำพูดของพวกเขาคือการทำนาย คำพูดศักดิ์สิทธิ์ สามารถนำพามนุษย์ไปยังจุดสูงสุดได้”
อู๋เป่ย:“ในเมื่อมีเซียนสวรรค์ แล้วทำไมยุคก่อนน้ำแข็งถึงตกต่ำล่ะ?”
ติงม่อ:“นี่เป็นสิ่งที่ฉันกำลังศึกษาอยู่พอดี ตอนนี้มีเรื่องสมมุติอยู่หลายเรื่อง แต่ฉันคิดว่าไม่น่าเชื่อถือ”
อู๋เป่ย:“ถ้าเป็นอย่างที่นายว่า ช่วงก่อนยุคก่อนน้ำแข็ง ยังมียุคอื่นอีกไหม?”
ติงม่อพยักหน้า:“ใช่แล้ว ก็เหมือนยุคปัจจุบันของพวกเรา ที่มีสิ่งสืบทอดส่วนหนึ่งมาจากยุคก่อนน้ำแข็ง แบบเดียวกัน ยุคก่อนน้ำแข็งก็ได้รับสิ่งสืบทอดส่วนหนึ่งมาจากยุคก่อนหน้าอีกที สำหรับยุคก่อนหน้าของยุคก่อนน้ำแข็งนั้น พวกเราเรียกมันว่ายุคโบราณกาล แม้จะมีคนกำลังศึกษา แต่ผลสรุปที่ออกมากลับมีความแตกต่างกันอย่างมาก”
อู๋เป่ย:“พูดเช่นนี้แสดงว่า ยุคโบราณกาลคงจะเจริญรุ่งเรือง โอ่อ่ากว่ายุคก่อนน้ำแข็งสินะ”
ติงม่อ:“คงจะอย่างนั้น นี่เป็นสิ่งที่ฉันกำลังค้นหา ที่ฉันตามหาจวนเซียนไม่หยุดหย่อน ก็เพราะอยากหาคำตอบให้เจอ”
อู๋เป่ย:“เช่นนี้ก็แสดงว่า ความจริงแล้วนายคือนักวิจัยโบราณคดี”
ติงม่อหัวเราะขึ้นมา:“นายพูดแบบนี้ก็ใช่ว่าจะผิด อีกฐานะของฉันคือรองผู้อำนวยการคณะโบราณคดีมหาวิทยาลัยเทียนจิง”
อู๋เป่ยยกนิ้วโป้งขึ้น:“สุดยอด”
โจมตีจนถึงสามสิบครั้ง ก็มีเสียงร้องประหลาดออกมาจากติงม่อ เอวด้านหลังถูกอู๋เป่ยต่อยเข้า นี่ถ้าไม่ใช่เพราะเก็บแรงไว้ล่ะก็ คงจะทำให้เอวของเขาหักไปแล้ว
ติงม่อถอนหายใจยาว แล้วพูด:“ไม่ต่อแล้ว น่าเบื่อ”
เขาเป็นถึงผู้มีฝีมือขั้นเทพ แต่ถูกปรมาจารย์ชั้นพรสวรรค์ได้เปรียบ ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว
อู๋เป่ยยิ้ม:“เหล่าติง ลำบากนายแล้ว”
หลังจากที่ฝึกกระบวนท่าไป ทำให้สามารถเห็นนิสัยของอีกฝ่ายได้ง่ายมากว่าเป็นคนยังไง การฝึกสามสิบครั้งนี้ อู๋เป่ยสามารถชี้ขาดได้ว่า ติงม่อคนนี้เป็นคนที่สามารถคบค้าสมาคมได้
ติงม่อมองบน:“ฉันยอมรับฉันสู้นายไม่ได้ แต่นายอย่าได้ใจไป ถ้าตอนแรกเริ่มฉันใช้แรงที่มีทั้งหมดล่ะก็ นายคงล้มไปนอนนานแล้ว”
อู๋เป่ย:“ขอโทษที ฉันก็มีกระบวนท่าพิฆาต แต่ก็ไม่ได้เอาออกมาใช้ ไม่เช่นนั้นนายก็คงล้มไปนอนนานแล้วเหมือนกัน”
ทั้งสองจ้องตากัน แล้วหัวเราะกันยกใหญ่
หลังจากที่ผ่านการต่อสู้ อู๋เป่ยได้เก็บเกี่ยวมาไม่น้อย หมัดปรารถนาของเขาแข็งแรงมั่นคงแล้ว อีกทั้งกำลังพัฒนามันให้ดีขึ้น
เวลานี้ ฟ้าก็ค่อยๆสว่างขึ้น อู๋เป่ยให้คนเอาชา ผลไม้มาส่ง แล้วกินพร้อมกันกับติงม่อ
เวลานี้ เซียไท่หู่ราวกับได้ยินเสียงเคลื่อนไหว เลยขอเข้ามาดู พอเข้ามาในห้อง เขาก็เห็นติงม่อ เลยถาม:“ท่านอู๋ ท่านนี้คือ?”
อู๋เป่ย:“ท่านนี้คือท่านติง เพื่อนฉันเอง ผู้มีฝีมือชั้นเทพน่ะ”
เซียไท่หู่ตกใจ แล้วรีบทำความเคารพ:“คารวะท่านปรมาจารย์ใหญ่”
ติงม่อพูดด้วยเสียงเรียบเฉย:“นายกำลังดูถูกฉัน?”
เซียไท่หู่สะดุ้งตกใจ แล้วรีบพูด:“ผมเปล่านะครับ…...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...
619 หายไปตอนนึงนะ...