ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 261

ในเวลานี้ แถวของรูปปั้นหินก็ปรากฏขึ้นรอบตัวเขา รูปปั้นเหล่านี้มีมากกว่าร้อย และเขายังค้นพบว่าวิญญาณชั่วร้ายที่แข็งแกร่งเหล่านนี้นั้นถูกปลดปล่อยโดยรูปปั้นเหล่านี้!

เขามองเข้าไปในรูปปั้นและพบว่ารูปปั้นแต่ละตัวมีหัวมนุษย์อยู่ในท้องของมัน! หัวของคนเหล่านี้ไม่เน่าเปื่อย และดวงตาของพวกเขาเบิกกว้าง แสดงถึงแววตาที่ดุร้ายอย่างยิ่งออกมา พร้อมกับบนหัวมนุษย์มีการวาดลวดลายสีดำซึ่งแปลกมากปรากฏอยู่

เมื่อเห็นหัวมนุษย์เหล่านี้ หัวใจของเขาก็สั่นไหวทันที ก่อนเขาจะเร่งความเร็วและเดินผ่านรูปปั้นไปอย่างรวดเร็ว ใต้เท้าของเขาเป็นพื้นโลหะที่ไม่สม่ำเสมอกันที่ปกคลุมด้วยกับดักอย่างหนาแน่น เขาจึงต้องกระโดดไปรอบๆ เพื่อหลีกเลี่ยงกับดักเหล่านั้น

หลังจากผ่านฝูงรูปปั้ไปในที่สุด ประตูสามบานก็ปรากฏต่อหน้าเขา ประตูทั้งสามนี้สูงกว่าสามเมตรและกว้างกว่าสองเมตร ประตูเหล่านี้ทำจากโลหะเงินสีม่วงที่แข็งแรงมาก

เขาสังเกตดู ก่อนจะพบว่ามีทางเดินหลังประตู ส่วนประตูด้านซ้ายและขวาซ่อนจิตวิญญาณแห่งการฆ่าเอาไว้ หลังจากครุ่นคิดเรื่องนี้เสร็จแล้ง เขาก็ยื่นมือออกไปก่อนที่จะกดไปที่ประตูตรงกลางร่างกายของเขาถูกกระตุ้นก่อนที่จะสั่นสะเทือนหลายร้อยครั้งติดต่อกันอย่างรวดเร็ว

เมื่อได้ยินเสียง "กึก" กลไกภายในประตูก็แผ่ออก เขาผลักมันอย่างแรง และประตูก็เปิดออกทันที

ในเวลานี้ เขามองย้อนกลับไป จากนั้นก็ใช้สายตาของเขาเพื่อสัมผัสกับกลไกที่อยู่ใต้แผ่นโลหะนี้ แล้วจู่ๆ แผ่นโลหะหลายแผ่นก็ตกลงมา ก่อนที่หลุมดำจะปรากฏขึ้น

เขาเปล่งเสียงกรีดออกมาร้องทันที เสียงร้องนั้นดังไกลออกไป และหายไปในที่สุด

เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องนี้ ใบหน้าของผู้คนภายนอกก็เปลี่ยนไปอย่างมาก จังซีหลิงกระทืบเท้าด้วยความโกรธและพูดว่า "แย่แล้ว!"

แม้ว่ามันจะอยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร แต่สมแล้วที่คนอย่างจ้าวเฟยกงจากพรรคทมิฬนั้นเมื่อได้ยินเสียงนั้น เขาถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า "มันเป็นกลไกกับดัก เขาอาจจะไม่รอด"

จังซีหลิงเปิดใช้งานสัมผัสแห่งเซียนเทียนของเขา เนื่องจากต้องการตรวจสอบสถานการณ์ภายใน แต่สัมผัสแห่งเซียนเทียนของเขาขาดอากาศหายใจและขยายออกไปได้เพียงสิบเมตรเท่านั้น เขาจึงไม่สามารถเข้าถึงสถานที่อื่นได้อีก

ผู้นำพรรคฟ้าททิฬกล่าวว่า: "จ้าวเฟยกง คุณเชี่ยวชาญกลไกนี้เป็นอย่างดี ที่เหลือขึ้นอยู่กับคุณแล้วล่ะ"

จ้าวเฟยกงพยักหน้า: "ใช่ แต่เงิน... "

จังซีหลิงขมวดคิ้วและพูดว่า "ตราบใดที่คุณพาเราเข้าไปได้อย่างปลอดภัย เรื่องเงินไม่ถือว่าเป็นปัญหา"

จ้าวเฟยกงยิ้มและพูดว่า "มาต่อรองราคากันก่อน"

จังซีหลิงมองเขา: "คุณต้องการเท่าไหร่"

จ้าวเฟยกงยิ้ม "หึหึ" ก่อนจะพูดว่า "สองพันล้าน"

จังซีหลิงหรี่ตาเล็กน้อย: "สองพันล้าน?"

จ้าวเฟยกง: "การจ่ายเงินจำนวนสองพันล้านเพื่อเปิดประตูแห่งสุสานเซียนนี้ถือว่าคุ้มค่านะคุณ!"

ผู้นำแห่งพรรคฟ้าทมิฬกล่าว: "โอเค สองพันล้านก้สองพันล้าน"

จ้าวเฟยกงพูดขึ้นทันที: "รอสักครู่ ฉันจะตรวจสอบสถานการณ์ก่อน" เขาก็เดินเข้าไปทันทีหลังจากพูดจบ

“ไปดีไหมนะ” เขาถามตัวเอง

วินาทีต่อมา เขากัดฟันและพูดว่า "ความมั่งคั่งและเงินของเราอยู่บนเส้นด้าย เราจะต่อสู้เพื่อมัน!"

หลังจากพูดจบ เขายื่นมือไปลูบโลงศพ ก่อนที่เขาผลักจะกระดานโลงออกไป แล้วเผยให้เห็นโลงศพที่อยู่ข้างใน เขาตบฝ่ามือของเขาอีกครั้ง และตะปูโลงศพทั้งสิบสองอันด้านบนถูกยกออกจากกัน จากนั้นเขาก็ยกฝาขึ้น พร้อมกับกลิ่นของซากศพก็โชยออกมา

โชคดีที่กลิ่นศพถูกลูกปัดรอบคอของเขาสกัดไว้ทัน ไม่อย่างนั้นเขาคงล้มลงกับพื้นด้วยกลิ่นเหม็นนี้

ซากศพแห่งเทพนี้ดูน่าขยะแขยงจริงๆ เพราะมันมีเมือกไหลออกมาจากผิว และผิวหนังข้างใต้ก็เหมือนกับหนังกบเลย

เขาพยายามระงับอาการคลื่นไส้ ก่อนจะดึงร่างขึ้นมาปล่อยให้มันนั่ง ในระหว่างขั้นตอนนี้ เขาเองก็ระมัดระวังเพราะกลัวว่าจะสัมผัสยันต์ปราบศพที่หน้าผากของศพ

ศพลุกขึ้นนั่ง และอู๋เป่ยกระทืบบริเวณที่หลังของเขานอนอยู่ จากนั้นก็ได้ยินเสียง "กึก" ออกมา จากนั้นเขาก็เหยียบแผ่นหินชั้นหนึ่ง ก่อนจะเผยให้เห็นช่องสี่เหลี่ยมที่ทอดตรงไปยังหลุมฝังศพด้านล่าง

จากนั้นเขาก็ปลดเข็มขัดและกระโดดลงมา ทันใดนั้น ร่างนั้นก็กลับเข้าที่เดิมในทันใด

หลังจากลงไปมากกว่าสิบเมตร เท้าของเขาก็เหยียบโลงอีกศพหนึ่ง ความแตกต่างจากโลงศพด้านบนคือโลงศพนี้ทำจากไม้และมีการแกะสลักจำนวนมากบนพื้นผิวของมัน

เขาได้อ่านเรื่องของอิฐหยกและจี้หยก และเหล่านี้ได้ อีกทั้งเขายังเริ่มศึกษาอย่างจริงจังอกีด้วย