ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 444

“ท่านอาวุโสรอง!”

แม้แต่ถังปิงอวิ๋นยังต้องทำความเคารพ เรียกเขาว่า“ท่านอาวุโสรอง”

ถังเหมินรับผิดชอบโดยท่านอาวุโส ถ้าหากหัวหน้าไม่อยู่ การตัดสินใจในทุกๆเรื่องก็จะขึ้นอยู่กับเหล่าบรรดาท่านอาวุโส ตำแหน่งของท่านอาวุโสรองนั้นไม่ได้เป็นแค่ท่านอาวุโสเฉยๆ แต่อำนาจยังใหญ่โตอีกด้วย

ท่านอาวุโสรองเหลือบตามามองเทพหุ่นเชิด แล้วพูด:“เทพหุ่นเชิด? ของเช่นนี้ไม่ได้ปรากฏขึ้นมาบนโลกนานแล้ว”

หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่อู๋เป่ย ยิ้มแล้วพูด:“มิน่าล่ะ หัวหน้าถึงให้ความสำคัญกับนายขนาดนี้ นายสุดยอดตามที่เขาว่าจริงๆ จริงสิ ฉันไม่ใช่ศัตรู นายเก็บเทพหุ่นเชิดของนายไปได้นะ”

อู๋เป่ยโบกมือ แล้วเก็บเทพหุ่นเชิดเข้าไปในป้ายหุ่นเชิด พร้อมทำความเคารพ:“คารวะท่านอาวุโสรอง”

ท่านอาวุโสรองยิ้ม:“ปิงอวิ๋นวาสนาดีจริงๆ”

ถังปิงอวิ๋น:“ท่านอาวุโสรอง ท่านมาทำอะไรคะ?”

ท่านอาวุโสรองถอนหายใจเบาๆ แล้วพูด:“เรื่องของเฟ่ยเหลียน พวกเธอก็ได้ยินแล้ว ปิงอวิ๋น ตามกฎ ตำแหน่งผู้สั่งการนี้เธอต้องละทิ้งชั่วคราว รอให้ตรวจสอบแน่ชัดก่อน พวกเราจะแจ้งให้เธอทราบอีกที”

ถังปิงอวิ๋นยิ้มเยาะ:“ท่านอาวุโสรอง ท่านหมายความว่า ต่อไปถ้าเกิดเรื่องแบบนี้อีก ไม่ว่าจะยืนยันความบริสุทธิ์ได้หรือไม่ บุคคลที่เกี่ยวข้องต้องละทิ้งหน้าที่นั้นไป แบบนี้เหรอคะ?”

ท่านอาวุโสรองขมวดคิ้วเล็กน้อย:“ปิงอวิ๋น กฎก็ต้องเป็นกฎ ไม่อนุญาตให้สงสัย”

ถังปิงอวิ๋นพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก:“ตำแหน่งผู้สั่งการ ปู่เป็นคนให้ฉันขึ้นรับ คนที่จะให้ฉันละทิ้งตำแหน่งนี้ได้ มีแค่ปู่เท่านั้น!”

สีหน้าของท่านอาวุโสรองลำบากใจอย่างมาก:“ปิงอวิ๋น นี่เธอต้องการจะเป็นปฏิปักษ์กับทั้งถังเหมินหรือไง?”

ถังปิงอวิ๋นยิ้มเยาะ:“ท่านอาวุโสรอง ท่านคนเดียวไม่สามารถแทนคนทั้งถังเหมินได้หรอก! ตำแหน่งที่ใหญ่กว่าท่าน ยังมีท่านอาวุโสใหญ่อีกนะ!”

สีหน้าของท่านอาวุโสรองเริ่มโมโหเล็กน้อย:“เธอคงไม่คิดว่า จะอาศัยแค่เทพหุ่นเชิดมาท้าทายอำนาจฉันหรอกใช่ไหม?”

ถังปิงอวิ๋นหยิบป้ายคำสั่งออกมาจากเอว แล้วพูด:“ป้ายคำสั่งหัวหน้าอยู่นี่! ในเมื่อท่านอาวุโสรองพูดเรื่องกฎกับฉัน งั้นฉันก็จะยึดตามกฎ กฎของถังเหมิน ป้ายคำสั่งของหัวหน้าก็คือปณิธานของหัวหน้า!”

สีหน้าของท่านอาวุโสรองเปลี่ยนไป เห็นได้ชัดถึงความตกใจ:“หัวหน้าให้ป้ายคำสั่งเธอแล้ว?”

ถังปิงอวิ๋น:“ถูกต้อง! ตอนนี้ฉันขอสั่งให้ท่านอาวุโสรองกลับถังเหมินทันที ห้ามเข้ามายุ่งเรื่องที่เมืองกั่งอีก!”

ท่านอาวุโสรองถอนหายใจยาว แล้วพูด:“ปิงอวิ๋น เธอก็ยังไม่เข้าใจสถานการณ์อยู่ดี ถ้าเธอใช้โอกาสตอนนี้ทิ้งตำแหน่ง ยังสามารถรักษาตำแหน่งได้ชั่วคราว ไม่เช่นนั้นจะสายเกินไป นึกเสียใจก็คงไม่ทันการ”

ถังปิงอวิ๋น:“นั่นเป็นเรื่องของฉัน ท่านผู้อาวุโสรองไม่จำเป็นต้องกังวล!”

ท่านผู้อาวุโสรองเหลือบมองอู๋เป่ย:“ผู้ดีย่อมไม่ยุ่งเกี่ยวกับสถานการณ์อันตราย พวกนายก็ระวังตัวกันให้ดีเถอะ!” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป คนรอบข้างเขาก็เดินตามเขาออกไปเช่นกัน

ทุกคนต่างก็นิ่งอึ้ง พวกเขาคิดไม่ถึงว่าสถานการณ์จะเกิดการเปลี่ยนแปลงต่อติดกัน

ถังปิงอวิ๋นตะโกนขึ้นมา:“ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป อู๋เป่ยคือซือมิ่ง พวกนายทุกคนต้องฟังคำสั่งของเขา!”

“รับทราบครับ!” ทุกคนพูดพร้อมกันเป็นเสียงเดียวกัน รวมถึงเฟ่ยเหลียนด้วย

เวลานี้ ถังปิงอวิ๋นหันไปมองชายที่ใส่แว่น:“หานฉี ถังหรงตายแล้ว ฉันให้เวลานายหนึ่งวัน ส่งเงินทุนของตระกูลหานมาให้หมด ถ้าขาดแม้แต่นิดเดียวล่ะก็ ชีวิตคงยากที่จะรักษา!”

“ครับ ผมจะให้ความร่วมมืออย่างแน่นอน” หานฉีคนนี้ปาดเหงื่อไปด้วย พยักหน้าราวกับไก่กำลังจิกเม็ดข้าวไปด้วย

ถังปิงอวิ๋น:“หัวหน้าฝ่ายบริหาร นายพาคนไปกับหานฉีด้วย รีบจัดการเรื่องนี้ซะ”

“ครับ!” หัวหน้าฝ่ายบริหารลุกขึ้นยืน น้อมรับคำสั่ง

หลังจากที่หานฉีเดินไปแล้ว สมาชิกเทียนซาของเมืองกั่งที่เหลือก็ทยอยกันมาถึง อู๋เป่ยในฐานะซือมิ่งต้องการเข้าใจสถานการณ์ของทุกฝ่าย

เขามาที่ห้องทำงาน แล้วเรียกทุกคนตามสมุดรายชื่อเข้าไปตามลำดับ คนที่อยู่ตำแหน่งสูง เขาก็จะถามเยอะหน่อย ส่วนคนที่ตำแหน่งต่ำ ก็จะถามแค่คำถามพื้นฐานทั่วไป

สองร้อยสี่สิบคน เข้าไปคุยกับเขาตามลำดับ ทุกคนใช้เวลาสามถึงห้านาที หลังจากที่เขาได้พูดคุยกับทุกคนครบแล้ว ก็ปาไปมืดค่ำ

เวลานี้ ทุกคนต่างก็นั่งอยู่ในโถงใหญ่อย่างเงียบๆ ไม่ได้ออกไปไหน

ในที่สุดหัวหน้าฝ่ายบริหารก็กลับมา แล้วพูด:“ซือมิ่ง ตระกูลหานส่งมอบเงินทุนออกมาครบแล้วครับ ผมให้สองสามคนรั้งอยู่ที่นั่น ถ้าจะทำให้ครบขั้นตอนคงต้องใช้เวลาสองถึงสามวัน”

อู๋เป่ยพยักหน้า:“หัวหน้าฝ่ายบริหาร นายไปจองโรงแรมแถวนี้ให้จัดงานเลี้ยงยี่สิบโต๊ะ”

พอทุกคนนั่งกันครบแล้ว อู๋เป่ยก็ยกแก้วขึ้นมา ยิ้มแล้วพูด:“พี่น้องทุกคน ฉันอู๋เป่ยดื่มให้ทุกคนสามแก้ว!”

ทุกคนต่างก็ทยอยลุกขึ้น ยกแก้วเหล้าขึ้น กระดกหมดภายในอึกเดียว

อู๋เป่ยดื่มสามแก้ว ทุกคนก็ดื่มสามแก้วเช่นกัน พอดื่มเสร็จ บนโต๊ะก็มีคนทยอยลุกขึ้นมาดื่มให้อู๋เป่ย

อู๋เป่ยก็ไม่ปฏิเสธคนที่มา ไม่นาน เหล้าขาวหนึ่งชั่งครึ่งถูกเขาดื่มจนหมด

พอพูดคุยกับคนบนโต๊ะแล้ว เขาก็ลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะรอบๆ ยิ้มแล้วพูด:“พี่น้องทุกคน ฉันดื่มให้พวกนายสามแก้ว!”

บนโต๊ะนี้ มีชายคนหนึ่งหนวดเครายาว อายุประมาณสามสี่สิบปี คนอื่นใช้สองสามแก้วดื่มให้เขา แต่เขากลับใช้ขวดครึ่งชั่งดื่ม อู๋เป่ยเดินเข้ามาดื่มให้เขา เขาก็ดื่มเกลี้ยงภายในอึกเดียว

อู๋เป่ยอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ ยิ้มแล้วพูด:“หลี่อาซื่อ คอแข็งเหมือนกันนะเนี่ย!”

ชายหนวดเครายาวคนนี้ชื่อว่าหลี่อาซื่อพอดี เขารีบยืนขึ้น พูดด้วยความประหลาดใจ:“ซือมิ่ง ท่านจำชื่อผมได้?”

อู๋เป่ยยิ้ม:“จำได้สิ แต่ว่าตอนที่นายแนะนำตัวกับฉัน ทำไมถึงไม่บอกว่าคอแข็งล่ะ?”

หลี่อาซื่อเขินอาย เขาเกาศีรษะแล้วพูด:“คอแข็งก็ไม่นับว่าเป็นความสามารถอะไรสักหน่อยนี่ครับ”

อู๋เป่ยหัวเราะแล้วถามเขา:“หลี่อาซื่อ นายดื่มได้แค่ไหน?”

หลี่อาซื่อส่ายหน้า:“ผมก็ไม่รู้ครับ ผมไม่เคยดื่มจนเมา”

อู๋เป่ยหัวเราะชอบใจ:“นายแน่มาก! ดีเลย ฉันก็ไม่เคยดื่มจนเมา งั้นเรามาแข่งกันหน่อยเป็นไง?”

หลี่อาซื่อนิ่งอึ้งไป เขารีบปัดป่ายมือ:“ซือมิ่ง ท่านสู้ผมไม่ได้หรอก อย่าดื่มเลยดีกว่า”

พอพูดประโยคนี้ออกไป บรรยากาศก็ตกอยู่ในความเงียบ หลี่อาซื่อพึ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองพูดอะไรผิด เขาเลยรีบพูดออกมา:“ขออภัย ซือมิ่ง ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ผม......”

ใบหน้าอู๋เป่ยเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม แล้วพูด:“หลี่อาซื่อ ดูถูกฉันเหรอ? งั้นดี พวกเราต่างคนต่างดื่มเหล้าให้หมดหนึ่งลังก่อน นายกล้าไหม?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ