สายตาของชายผมลานบินมีเลศนัย:“ซือมิ่งอู๋ ไม่มีใครบงการผม ผมอยากพูดเองครับ”
“ทำไม คนชั้นล่างไม่มีสิทธิ์พูดหรือไง?” จู่ๆก็มีเสียงดังมาจากประตูใหญ่
ทุกคนหันไปดู ก็เห็นคนหน้าตาแปลกประหลาดเดินเข้ามา ศีรษะบนซ้ายของคนคนนี้มีรอยเว้าลงไปเป็นรูปฝ่ามือ ราวกับถูกของหนักฟาดจนบาดเจ็บเป็นรอย
พอคนคนนี้ปรากฏ อู๋เป่ยก็รับรู้ได้ถึงลมหายใจของทุกคนที่หยุดนิ่งไป มีคนจำนวนไม่น้อยถึงกับก้มหน้า ไม่กล้าสบตากับคนคนนี้
คนที่มาอายุน่าจะประมาณสี่สิบปี ข้างซ้ายของใบหน้าเขาบิดเบี้ยว ราวกับหุ่นขี้ผึ้งที่ละลายลง มือทั้งสองของเขาผอมซูบ นอกนั้นผิวหนังก็มีแต่กระดูก ไม่มีกล้ามเนื้อสักนิด อย่างกับศพเดินได้
ตาด้านซ้ายของเขาบอด มองเห็นเป็นสีเทา สวมชุดสูทสีเทา เวลาเดินก็ขาเป๋ สีหน้าของใบหน้าด้านขวาเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม จะว่าแปลกก็แปลกอย่างมาก!
ชายตาข้างเดียวเดินมาตรงหน้าถังปิงอวิ๋น แล้วโค้งคำนับเล็กน้อย:“คารวะท่านผู้สั่งการ”
ถังปิงอวิ๋น:“เฟ่ยเหลียน นายยังมีชีวิตอยู่?”
ชายตาข้างเดียวชื่อเฟ่ยเหลียน เขาหัวเราะแล้วพูด:“อยากจะให้เฟ่ยเหลียนอย่างผมตายมันไม่ง่ายหรอก!”
หลังจากนั้นเขาก็โค้งคำนับให้อู๋เป่ยเล็กน้อย:“เฟ่ยเหลียน คารวะซือมิ่ง”
อู๋เป่ยสังเกตเฟ่ยเหลียน พลังยุทธ์ของคนคนนี้คือคนเซียนระดับสอง ในร่างกายของเขามีพลังแปลกประหลาดกำลังหมุนเวียนอยู่
“เฟ่ยเหลียน มือสังหารเบอร์สามของเทียนจื้อ!” อู๋เป่ย “วันนั้นสำนักงานใหญ่ถูกยึด เหมือนว่านายจะอยู่ในเหตุการณ์นะ นายรอดชีวิตมาได้จะต้องรู้อะไรมาแน่”
สายตาข้างเดียวของเฟ่ยเหลียนหันไปมอง แล้วพูด:“ใช่ ฉันรู้บางอย่างมา แต่ฉันพูดไม่ได้!”
อู๋เป่ยขมวดคิ้ว:“ผู้สั่งการกับฉันอยู่ที่นี่ ไม่มีอะไรที่พูดไม่ได้”
เฟ่ยเหลียนหัวเราะ แล้วพูด:“ไม่รีบ รอให้มาถึงกันก่อน ฉันค่อยพูดก็ไม่สาย”
ถังปิงอวิ๋น:“เฟ่ยเหลียน ยังมีคนมาอีก?”
“แน่นอนว่าเป็นฉันเอง” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังมาจากประตูทางเข้า
ถังปิงอวิ๋นไม่ต้องหันหน้าไปก็รู้ ว่าคนที่มาคือถังหรง ในใจเธอสั่นไหว มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น
หญิงสาวอายุไม่มาก หน้าตาไม่นับว่าสวย แต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เดินเข้ามาทีละก้าว ข้างๆเธอมีชายหนุ่มเดินตามมา สวมแว่นและชุดสูทสีดำ สีหน้าไร้อารมณ์
ถังปิงอวิ๋นขมวดคิ้ว แล้วถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“ถังหรง เธอมาทำไม?”
ถังหรงยิ้มแล้วตอบ:“เบื้องบนมีคำสั่งให้ฉันสร้างสำนักงานใหญ่ที่เมืองกั่งขึ้นมาใหม่ แน่นอนว่าฉันก็ต้องมาสิ แต่เธอ ไม่มีคำสั่งจากเบื้องบน ใครใช้ให้เธอมา?”
ถังปิงอวิ๋นพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“ในฐานะผู้สั่งการของเทียนซา เรื่องของเมืองกั่งเป็นเรื่องภายในที่ฉันต้องจัดการ!”
“ผู้สั่งการ?” ถังหรงยิ้มเยาะ “อีกเดี๋ยวเธอก็ไม่ได้เป็นแล้ว”
เธอยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา:“อีกไม่กี่นาที เบื้องบนก็จะมีคำสั่งใหม่ลงมา”
ในใจถังปิงอวิ๋นสั่นไหว:“เธอหมายความว่ายังไง?”
“ฉันหมายความว่ายังไง เดี๋ยวเธอก็รู้เอง” ขณะที่พูดเธอก็มองไปทางอู๋เป่ย “ส่วนคนนอกคนนี้ ฉันแนะนำให้ออกไปจากที่นี่ภายในหนึ่งนาทีซะ ไม่งั้นก็รับผิดชอบกับผลลัพธ์ที่ตามมาเอง!”
ถังปิงอวิ๋นโมโห:“ถังหรง ฉันต่างหากที่เป็นผู้สั่งการของเทียนซา ที่นี่เธอไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่ง! คนที่ควรออกไปคือเธอ!”
ถังหรงฉีกยิ้มมุมปาก พูดเสียงเย็นชา:“เฟ่ยเหลียน!”
เฟ่ยเหลียนรีบลุกขึ้นยืน พูดด้วยความเคารพ:“ครับ คุณหนู!”
ถังหรง:“ฉันขอสั่งให้นาย ฆ่าคนคนนี้ซะ!”
สีหน้าของถังหรงไร้ความรู้สึก:“รับทราบครับ!”
เขาเงยหน้าขึ้น ตาข้างเดียวของเขาจ้องไปที่อู๋เป่ย ไอพิฆาตแผ่ซ่านออกมา ล็อคเป้าไปที่อู๋เป่ย
ถังปิงอวิ๋นตกใจ ตะโกนเสียงดังออกมา:“เฟ่ยเหลียน นายกล้าเหรอ! ตอนนี้ฉันยังเป็นผู้สั่งการอยู่นะ!”
สายตาของเฟ่ยเหลียนสั่นไหว แล้วพูด:“ถ้าฉันพูดออกไป นายจะฆ่าฉัน”
อู๋เป่ยขมวดคิ้ว แล้วพูด:“ถ้านายไม่พูด ฉันจะฆ่านายตั้งแต่ตอนนี้!”
เฟ่ยเหลียนสูดหายใจเข้าลึกๆ:“วันนั้น นายกับถังปิงอวิ๋นนำผู้มีฝีมือมากลุ่มหนึ่ง ฆ่าคนของสำนักงานใหญ่ แถมยังพาซือมิ่งไปอีก”
อู๋เป่ยนิ่งอึ้งไป แล้วพูดออกมาด้วยความโมโห:“เหลวไหล! ก่อนที่จะมาที่นี่ ฉันยังไม่เคยมาที่เมืองกั่งสักครั้ง!”
เฟ่ยเหลียนเถียงกลับ:“ฉันแค่พูดในสิ่งที่ฉันเห็น ถ้าประโยคไหนโกหก นายก็ฆ่าฉันได้เลย!”
อู๋เป่ยตกอยู่ในความคิด หรือว่ามีคนปลอมตัวเป็นตัวเขาเอง?
ถังปิงอวิ๋นก็ตกใจเช่นกัน:“นายบอกว่าวันนั้นนายเห็นพวกฉัน?”
เฟ่ยเหลียนก้มหน้า:“ครับ! ท่านผู้สั่งการกับซือมิ่ง แถมยังมีผู้มีฝีมืออีกกลุ่มด้วย ลงมือฆ่าพวกเราจนหนีกันไม่ทัน ถ้าไม่ใช่เพราะผมอยู่ใกล้หน้าต่าง เกรงว่าคงถูกพวกท่านฆ่าไปแล้ว”
ถังปิงอวิ๋นทั้งตกใจทั้งโมโห พูดด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น:“มีคนแอบอ้างเป็นพวกฉัน!”
อู๋เป่ยถาม:“เรื่องเกิดขึ้นเวลาไหน นายจำได้ไหม?”
“จำได้ วันนั้นเป็นวันพุธ เวลาประมาณบ่ายสามครึ่ง” เฟ่ยเหลียนตอบ
อู๋เป่ยครุ่นคิดสักพัก แล้วพูด:“วันนั้น ปิงอวิ๋นกับฉันไม่ได้อยู่ที่เมืองกั่ง มีคนจำนวนมากที่สามารถเป็นพยานให้พวกฉันได้”
เฟ่ยเหลียนพูดด้วยเสียงเรียบเฉย:“ฉันแค่พูดในสิ่งที่ฉันเห็น ส่วนเรื่องมันเป็นยังไงนั้น คนเบื้องบนจะเป็นคนตัดสินเอง”
ถังปิงอวิ๋นถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดกับอู๋เป่ย:“ต่อให้พวกเรามีหลักฐานว่าไม่ได้อยู่ที่เกิดเหตุ พวกเขาก็บรรลุจุดประสงค์ไปแล้ว ตามกฎของถังเหมิน ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ ฉันต้องหลีกเลี่ยงการเป็นผู้ต้องสงสัย ตำแหน่งผู้สั่งการเทียนซาฉันคงไม่ได้เป็นอีกแล้ว”
อู๋เป่ยกลับไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ เขาพูด:“ไม่เป็นไรหรอก ที่สูงมันหนาว ต่อไปจะได้เป็นอิสระไง”
เวลานี้ ประตูทางเข้าก็มีคนเข้ามาสองสามคน คนที่เดินนำหน้าคือผู้อาวุโสคนหนึ่ง เขาสวมชุดราชวงศ์ถังสีเงิน หนวดเคราสีขาวปลิวไสว รับรู้ได้ว่าเขาเป็นเซียน พอเขาเดินมา นอกจากถังปิงอวิ๋นและอู๋เป่ยแล้ว ทุกคนต่างก็คุกเข่าลงกับพื้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...
619 หายไปตอนนึงนะ...