ถังจื่อยี่"ใช่น่ะสิ คราบมังกรนี้เป็นของหายาก ยิ่งซื้อมากของก็จะยิ่งเหลือน้อยและราคาก็จะสูงขึ้นตาม ถ้าคุณซื้อสองอัน มันก็จะเหลืออีกแค่สามชิ้นเท่านั้น เมื่อถึงตอนนั้นเราก็มี ขายได้ในราคายันต์อย่างน้อยหนึ่งร้อยห้าสิบ"
ลาสีดำเอียงศีรษะและคิดว่าตรรกะของเธอดูสมเหตุสมผล เขาพูดว่า "ถ้าอย่างนั้นฉันซื้อแค่อันเดียวดีกว่า"
จู่ ๆ ก็มีถุงเงินใบหนึ่งลอยมาจากที่ไกล ๆ อู๋เป่ยหยิบมันมาไว้ในมือของเขาและเห็นว่ามันมีเหรียญยันต์อยู่หนึ่งร้อยเหรียญ
ดังนั้นเขาจึงหยิบคราบมังกรชิ้นหนึ่งมอบให้ลาสีดำแล้วพูดว่า "ขอบคุณที่มาอุดหนุน"
ลาสีดำหันกลับมาและจากไปพร้อมกับเสียง "กุบ กับ"
หลังจากที่ลาสีดำจากไปก็มีเด็กอายุเจ็ดขวบผมเปียหงายใบหน้าแดงระเรื่อและดวงตากลมโตที่มีชีวิตชีวา เท้าของเขาไม่ได้ใส่รองเท้า เขาถามว่า"เถ้าแก่ ลาดำตัวนั้นเพิ่งซื้ออะไรไปเหรอ"
เมื่อเห็นเด็กคนนี้อู๋เป่ยก็ตกใจเพราะเขาเห็นว่ามีวิญญาณอันบริสุทธิ์ที่ทรงพลังมากอยู่ในร่างกายของเด็กคนนี้ และระดับพลังยุทธ์ของเขาอยู่ระดับตี้เซียนอย่างแน่นอน!
เขายิ้มแล้วพูดว่า "ลาตัวนั้นซื้อคราบมังกรไป"
เด็กน้อยคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “คราบมังกรชิ้นหนึ่งราคาเท่าไหร่?”
ถังจื่อยี่รีบพูดว่า "เงินยันต์หนึ่งร้อยยี่สิบ"
อู๋เป่ยพยักหน้า "ใช่ หนึ่งร้อยยี่สิบ"
เด็กน้อยมีสีหน้าเจ็บปวด เขาถอนหายใจ โยนถุงเงินไปให้อู๋เป่ย แล้วพูดว่า "ฉันจะซื้อ"
เขาหยิบคราบมังกรขึ้นมาแล้วเดินตามลาตัวนั้นไปอย่างรวดเร็ว
ถังจื่อยี่ยิ้ม "ฮิฮิ" "ถ้าใครมาซื้อ ไว้เราขายในราคาหนึ่งร้อยห้าสิบเถอะ"
อู๋เป่ยก็มีความสุขมากเช่นกันและพูดว่า "ได้ ฉันจะขายมันในราคาหนึ่งร้อยห้าสิบ"
จากนั้น เขาก็หยิบผ้าสีดำผืนใหญ่ออกมาจากแหวนเก็บของ เขาเจอท่อนไม้ท่อนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆแถวนั้น จากนั้นเขาก็ทำมันให้เป็นที่กระโจมติดกับกำแพงหิน
เขาปล่อยให้ถังจื่อยี่เฝ้าให้ ส่วนเขาก็เข้าไปตรงผ้าสีดำ หยิบหินออกมาสองสามก้อนและเตรียมที่จะใช้ดาบมังกรดำเพื่อทำลายก้อนหิน
เขาได้เห็นหินทั้งห้าก้อนแล้ว ข้างในมีศีรษะมนุษย์ ตะปูทองแดงขนาดใหญ่สามตัว เศษผ้า ฆ้องเล็ก ๆ และดินเหนียวนุ่มชิ้นหนึ่ง
เขายังไม่จับหินที่มีหัวของมนุษย์ แต่อลือกที่จะหยิบหินที่มีตะปูทองแดงขนาดใหญ่สามตัวออกมาก่อน เมื่อตะปูถูกถอดออก มีตะปูสองอันที่ยาวและหนาเหมือนนิ้ว อีกทั้งยังมีรูปเซียนสลักอยู่บนนั้น
เขาเชื่อว่าตะปูขนาดใหญ่นี้เป็นอาวุธวิเศษที่ใช้ทำลายสิ่งชั่วร้าย หากพบวัตถุชั่วร้ายที่ทรงพลังมากก็สามารถใช้มันมากำจัดได้และผลลัพธ์ก็คงจะไปในทางที่ดี
หินก้อนที่สอง เศษผ้าถูกดึงออกมา เศษผ้าเน่าเปื่อยตามขอบและใหญ่พอๆ กับฐานนั่งเก้าอี้ มันมีสีเหลืองอ่อนและมีเลือดเปราะนิดหน่อย
ตัวผ้านั้นดูไม่มีอะไรเลย แต่คราบเลือดนั้นมีความพิเศษมาก เปล่งรัศมีอันศักดิ์สิทธิ์และน่าเกรงขาม
หินก้อนที่สามเป็นฆ้องเล็กๆ ไม่รู้ว่าทำมาจากอะไร พอใช้นิ้วดีดก็เกิดเสียงอันไพเราะ เสียงนั่นทำให้เขารู้สึกมึนงง เหมือนว่ามันมีผลต่อจิตใจของผู้คน
หินก้อนสุดท้ายเป็นโคลนเนื้อนุ่ม โคลนมีสีดำ นุ่มมากและมีกลิ่นหอม เขาหยิบข้อมูลเกี่ยวกับอิฐหยกขึ้นมาอ่านและทันใดนั้นเขาก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่าง
“หรือว่าเป็นโคลนปะชุนฟ้า?” เขาสะดุ้ง และมือของเขาสั่น
ไม่ทันที่เขาจะคิดอะไรมากไปกว่านั้นก็มีลูกค้ามาที่แผงขายเขาที่อยู่ข้างวงนอก เขาจึงรีบเก็บข้าวของ
“ดาบนี้ขายยังไง” เขาถาม
อู๋เป่ยโผล่ออกมาจากกระโจมและตอบด้วยรอยยิ้ม "เหรียญยันต์สิบเหรียญ"
ลูกค้าคนนั้นสวมหน้ากาก เขาหยิบดาบปีศาจขึ้นมาแล้วโบกเบา ๆ ก็สามารถผ่าหินก้อนใหญ่ที่อยู่ข้างๆ ออกเป็นสองส่วนได้ นั่นแสดงให้เห็นว่าดาบนั้นคมมากจริงๆ!
เขาพอใจมากและพยักหน้า "ฉันต้องการดาบเล่มนี้"
หลังจากจ่ายเงินแล้วชายคนนั้นก็จากไปอย่างรวดเร็ว
อู๋เป่ยหยิบเศษผ้าออกมาอีกครั้ง เมื่อเห็นเศษผ้าถังจื่อยี่จึงถามด้วยความประหลาดใจ "เศษผ้านี่คือ?"
อู๋เป่ย "นี่ไม่ใช่เศษผ้าธรรมดา แต่มันเปื้อนเลือดเซียน"
ทันทีที่ผ้าถูกดึงออก ออร่าลึกลับก็แผ่ออกไปโดยรอบ ในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที ก็มีคนสามคนวิ่งมาจากคนละทิศทาง
ทั้งสามคนล้วนไม่ได้ใส่หน้ากาก พวกเขาทั้งหมดจ้องไปที่เศษผ้า
ชายหนุ่มหน้าดำเหมือนหม้อถามว่า “หนุ่มน้อย ไปเอาผ้านี้มาจากไหนน่ะ”
เมื่อได้ยินเขาพูดอู๋เป่ยก็รู้ได้ทันทีว่าชายคนนี้ต้องการขโมยมัน เขาหยิบป้ายไม้มะเกลือออกมาจากกระเป๋าแล้ววางลงบนหิน
เมื่อเห็นป้ายไม้มะเกลือนี้ ชายหน้าดำก็ตกใจและพูดว่า "คุณเป็นรุ่นน้องของแม่มดเหรอ?"
อู๋เป่ยแค่เยาะเย้ยและไม่ตอบ
ใบหน้าของชายคนนั้นดูไม่พอใจ เขาพูดกับผู้หญิงว่า "งั้นเราซื้อของสิ่งนี้ด้วยกันแล้วใช้มันมาช่วยในการตรัสรู้ด้วยกัน ตกลงมั้ย?"
ผู้หญิงคนนั้นพูดว่า "ฉันไม่ไว้ใจคุณ"
อู๋เป่ยไม่ค่อยชอบผู้ชายคนนี้ เขาจึงพูดกับผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ "คนสวย งั้นผมขายให้คุณแล้วกัน เงินยันต์สองร้อยเหรียญ"
ผู้หญิงคนนั้นดีใจมาก เธอจ่ายทันทีแล้วถือผ้านั่นออกไป เธอมองไปที่อู๋เป่ยพลางยิ้มแล้วพูดว่า "สหาย ฉันชื่อหลัวฉือเม่ย ถ้าคุณมีปัญหาอะไรในอวิ๋นตงก็ใช้ชื่อฉันไปอ้างได้ ”
ผู้หญิงคนนั้นจากไปอย่างมีความสุข ในขณะที่ชายหน้าดำจ้องมองอู๋เป่ยอย่างเคียดแค้นแล้วเดินจากไป
ชายที่มีเคราแพะที่ไม่รู้อายุเท่าไหร่นั้นยังคงอยู่ที่แผงของอู๋เป่ย คเขาดูไม่สนใจเสษผ้านั้น แต่กลับจ้องมองสร้อยข้อมือหัวผีพลางยิ้มแล้วถามว่า "ขายยังไง?"
เมื่ออู๋เป่ยได้ยินน้ำเสียงอันสง่างามของเขา เขาก็รู้สึกดีและพูดว่า "ท่านผู้เฒ่า ผมขายมันในราคาเหรียญยันต์สิบสองเหรียญ"
เขาประเมินราคาไว้นานแล้ว เขาขายมันในราคาที่ไม่แพง แต่ก็ไม่ถูกเช่นกัน
ชายเคราแพะพยักหน้าแล้วพูดว่า "ราคานี้ยุติธรรมดี งั้นฉันเอา"
หลังจากขายสร้อยข้อมือหัวผีแล้ว อู๋เป่ยก็กลับไปที่กระโจม ใส่สิ่งของที่เหลือทั้งหมดลงในแหวนจัดเก็บ จากนั้นก็พาถังจื่อยี่ออกไป
ถังจื่อยี่ถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา "เราไม่ขายแล้วเหรอ?"
อู๋เป่ย "เมื่อกี้เราเปิดเผยสถานะเราเกินไปแล้ว ตอนนี้ไม่รู้ว่ามีคนคอยจับตาดูเราอยู่กี่คน แค่โชว์ไม้มะเกลือของแม่มดอาจจะไม่ได้ผล รีบออกไปกันดีกว่า จะได้ไม่ดึกมากด้วย"
พวกเขาออกเดินอย่างรวดเร็วและไม่นานก็มาถึงจุดสิ้นสุดของหุบเขา ข้างหน้าเป็นป่ารกร้างและมืดสนิท
อู๋เป่ยอุ้มถังจื่อยี่ไว้บนหลังอย่างไม่ลังเล เขากระโดดเหมือนบินและวิ่งไปยังส่วนลึกของป่าทึบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...
619 หายไปตอนนึงนะ...