ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 535

ถังจื่อยี่"ใช่น่ะสิ คราบมังกรนี้เป็นของหายาก ยิ่งซื้อมากของก็จะยิ่งเหลือน้อยและราคาก็จะสูงขึ้นตาม ถ้าคุณซื้อสองอัน มันก็จะเหลืออีกแค่สามชิ้นเท่านั้น เมื่อถึงตอนนั้นเราก็มี ขายได้ในราคายันต์อย่างน้อยหนึ่งร้อยห้าสิบ"

ลาสีดำเอียงศีรษะและคิดว่าตรรกะของเธอดูสมเหตุสมผล เขาพูดว่า "ถ้าอย่างนั้นฉันซื้อแค่อันเดียวดีกว่า"

จู่ ๆ ก็มีถุงเงินใบหนึ่งลอยมาจากที่ไกล ๆ อู๋เป่ยหยิบมันมาไว้ในมือของเขาและเห็นว่ามันมีเหรียญยันต์อยู่หนึ่งร้อยเหรียญ

ดังนั้นเขาจึงหยิบคราบมังกรชิ้นหนึ่งมอบให้ลาสีดำแล้วพูดว่า "ขอบคุณที่มาอุดหนุน"

ลาสีดำหันกลับมาและจากไปพร้อมกับเสียง "กุบ กับ"

หลังจากที่ลาสีดำจากไปก็มีเด็กอายุเจ็ดขวบผมเปียหงายใบหน้าแดงระเรื่อและดวงตากลมโตที่มีชีวิตชีวา เท้าของเขาไม่ได้ใส่รองเท้า เขาถามว่า"เถ้าแก่ ลาดำตัวนั้นเพิ่งซื้ออะไรไปเหรอ"

เมื่อเห็นเด็กคนนี้อู๋เป่ยก็ตกใจเพราะเขาเห็นว่ามีวิญญาณอันบริสุทธิ์ที่ทรงพลังมากอยู่ในร่างกายของเด็กคนนี้ และระดับพลังยุทธ์ของเขาอยู่ระดับตี้เซียนอย่างแน่นอน!

เขายิ้มแล้วพูดว่า "ลาตัวนั้นซื้อคราบมังกรไป"

เด็กน้อยคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “คราบมังกรชิ้นหนึ่งราคาเท่าไหร่?”

ถังจื่อยี่รีบพูดว่า "เงินยันต์หนึ่งร้อยยี่สิบ"

อู๋เป่ยพยักหน้า "ใช่ หนึ่งร้อยยี่สิบ"

เด็กน้อยมีสีหน้าเจ็บปวด เขาถอนหายใจ โยนถุงเงินไปให้อู๋เป่ย แล้วพูดว่า "ฉันจะซื้อ"

เขาหยิบคราบมังกรขึ้นมาแล้วเดินตามลาตัวนั้นไปอย่างรวดเร็ว

ถังจื่อยี่ยิ้ม "ฮิฮิ" "ถ้าใครมาซื้อ ไว้เราขายในราคาหนึ่งร้อยห้าสิบเถอะ"

อู๋เป่ยก็มีความสุขมากเช่นกันและพูดว่า "ได้ ฉันจะขายมันในราคาหนึ่งร้อยห้าสิบ"

จากนั้น เขาก็หยิบผ้าสีดำผืนใหญ่ออกมาจากแหวนเก็บของ เขาเจอท่อนไม้ท่อนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆแถวนั้น จากนั้นเขาก็ทำมันให้เป็นที่กระโจมติดกับกำแพงหิน

เขาปล่อยให้ถังจื่อยี่เฝ้าให้ ส่วนเขาก็เข้าไปตรงผ้าสีดำ หยิบหินออกมาสองสามก้อนและเตรียมที่จะใช้ดาบมังกรดำเพื่อทำลายก้อนหิน

เขาได้เห็นหินทั้งห้าก้อนแล้ว ข้างในมีศีรษะมนุษย์ ตะปูทองแดงขนาดใหญ่สามตัว เศษผ้า ฆ้องเล็ก ๆ และดินเหนียวนุ่มชิ้นหนึ่ง

เขายังไม่จับหินที่มีหัวของมนุษย์ แต่อลือกที่จะหยิบหินที่มีตะปูทองแดงขนาดใหญ่สามตัวออกมาก่อน เมื่อตะปูถูกถอดออก มีตะปูสองอันที่ยาวและหนาเหมือนนิ้ว อีกทั้งยังมีรูปเซียนสลักอยู่บนนั้น

เขาเชื่อว่าตะปูขนาดใหญ่นี้เป็นอาวุธวิเศษที่ใช้ทำลายสิ่งชั่วร้าย หากพบวัตถุชั่วร้ายที่ทรงพลังมากก็สามารถใช้มันมากำจัดได้และผลลัพธ์ก็คงจะไปในทางที่ดี

หินก้อนที่สอง เศษผ้าถูกดึงออกมา เศษผ้าเน่าเปื่อยตามขอบและใหญ่พอๆ กับฐานนั่งเก้าอี้ มันมีสีเหลืองอ่อนและมีเลือดเปราะนิดหน่อย

ตัวผ้านั้นดูไม่มีอะไรเลย แต่คราบเลือดนั้นมีความพิเศษมาก เปล่งรัศมีอันศักดิ์สิทธิ์และน่าเกรงขาม

หินก้อนที่สามเป็นฆ้องเล็กๆ ไม่รู้ว่าทำมาจากอะไร พอใช้นิ้วดีดก็เกิดเสียงอันไพเราะ เสียงนั่นทำให้เขารู้สึกมึนงง เหมือนว่ามันมีผลต่อจิตใจของผู้คน

หินก้อนสุดท้ายเป็นโคลนเนื้อนุ่ม โคลนมีสีดำ นุ่มมากและมีกลิ่นหอม เขาหยิบข้อมูลเกี่ยวกับอิฐหยกขึ้นมาอ่านและทันใดนั้นเขาก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่าง

“หรือว่าเป็นโคลนปะชุนฟ้า?” เขาสะดุ้ง และมือของเขาสั่น

ไม่ทันที่เขาจะคิดอะไรมากไปกว่านั้นก็มีลูกค้ามาที่แผงขายเขาที่อยู่ข้างวงนอก เขาจึงรีบเก็บข้าวของ

“ดาบนี้ขายยังไง” เขาถาม

อู๋เป่ยโผล่ออกมาจากกระโจมและตอบด้วยรอยยิ้ม "เหรียญยันต์สิบเหรียญ"

ลูกค้าคนนั้นสวมหน้ากาก เขาหยิบดาบปีศาจขึ้นมาแล้วโบกเบา ๆ ก็สามารถผ่าหินก้อนใหญ่ที่อยู่ข้างๆ ออกเป็นสองส่วนได้ นั่นแสดงให้เห็นว่าดาบนั้นคมมากจริงๆ!

เขาพอใจมากและพยักหน้า "ฉันต้องการดาบเล่มนี้"

หลังจากจ่ายเงินแล้วชายคนนั้นก็จากไปอย่างรวดเร็ว

อู๋เป่ยหยิบเศษผ้าออกมาอีกครั้ง เมื่อเห็นเศษผ้าถังจื่อยี่จึงถามด้วยความประหลาดใจ "เศษผ้านี่คือ?"

อู๋เป่ย "นี่ไม่ใช่เศษผ้าธรรมดา แต่มันเปื้อนเลือดเซียน"

ทันทีที่ผ้าถูกดึงออก ออร่าลึกลับก็แผ่ออกไปโดยรอบ ในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที ก็มีคนสามคนวิ่งมาจากคนละทิศทาง

ทั้งสามคนล้วนไม่ได้ใส่หน้ากาก พวกเขาทั้งหมดจ้องไปที่เศษผ้า

ชายหนุ่มหน้าดำเหมือนหม้อถามว่า “หนุ่มน้อย ไปเอาผ้านี้มาจากไหนน่ะ”

เมื่อได้ยินเขาพูดอู๋เป่ยก็รู้ได้ทันทีว่าชายคนนี้ต้องการขโมยมัน เขาหยิบป้ายไม้มะเกลือออกมาจากกระเป๋าแล้ววางลงบนหิน

เมื่อเห็นป้ายไม้มะเกลือนี้ ชายหน้าดำก็ตกใจและพูดว่า "คุณเป็นรุ่นน้องของแม่มดเหรอ?"

อู๋เป่ยแค่เยาะเย้ยและไม่ตอบ

ใบหน้าของชายคนนั้นดูไม่พอใจ เขาพูดกับผู้หญิงว่า "งั้นเราซื้อของสิ่งนี้ด้วยกันแล้วใช้มันมาช่วยในการตรัสรู้ด้วยกัน ตกลงมั้ย?"

ผู้หญิงคนนั้นพูดว่า "ฉันไม่ไว้ใจคุณ"

อู๋เป่ยไม่ค่อยชอบผู้ชายคนนี้ เขาจึงพูดกับผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ "คนสวย งั้นผมขายให้คุณแล้วกัน เงินยันต์สองร้อยเหรียญ"

ผู้หญิงคนนั้นดีใจมาก เธอจ่ายทันทีแล้วถือผ้านั่นออกไป เธอมองไปที่อู๋เป่ยพลางยิ้มแล้วพูดว่า "สหาย ฉันชื่อหลัวฉือเม่ย ถ้าคุณมีปัญหาอะไรในอวิ๋นตงก็ใช้ชื่อฉันไปอ้างได้ ”

ผู้หญิงคนนั้นจากไปอย่างมีความสุข ในขณะที่ชายหน้าดำจ้องมองอู๋เป่ยอย่างเคียดแค้นแล้วเดินจากไป

ชายที่มีเคราแพะที่ไม่รู้อายุเท่าไหร่นั้นยังคงอยู่ที่แผงของอู๋เป่ย คเขาดูไม่สนใจเสษผ้านั้น แต่กลับจ้องมองสร้อยข้อมือหัวผีพลางยิ้มแล้วถามว่า "ขายยังไง?"

เมื่ออู๋เป่ยได้ยินน้ำเสียงอันสง่างามของเขา เขาก็รู้สึกดีและพูดว่า "ท่านผู้เฒ่า ผมขายมันในราคาเหรียญยันต์สิบสองเหรียญ"

เขาประเมินราคาไว้นานแล้ว เขาขายมันในราคาที่ไม่แพง แต่ก็ไม่ถูกเช่นกัน

ชายเคราแพะพยักหน้าแล้วพูดว่า "ราคานี้ยุติธรรมดี งั้นฉันเอา"

หลังจากขายสร้อยข้อมือหัวผีแล้ว อู๋เป่ยก็กลับไปที่กระโจม ใส่สิ่งของที่เหลือทั้งหมดลงในแหวนจัดเก็บ จากนั้นก็พาถังจื่อยี่ออกไป

ถังจื่อยี่ถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา "เราไม่ขายแล้วเหรอ?"

อู๋เป่ย "เมื่อกี้เราเปิดเผยสถานะเราเกินไปแล้ว ตอนนี้ไม่รู้ว่ามีคนคอยจับตาดูเราอยู่กี่คน แค่โชว์ไม้มะเกลือของแม่มดอาจจะไม่ได้ผล รีบออกไปกันดีกว่า จะได้ไม่ดึกมากด้วย"

พวกเขาออกเดินอย่างรวดเร็วและไม่นานก็มาถึงจุดสิ้นสุดของหุบเขา ข้างหน้าเป็นป่ารกร้างและมืดสนิท

อู๋เป่ยอุ้มถังจื่อยี่ไว้บนหลังอย่างไม่ลังเล เขากระโดดเหมือนบินและวิ่งไปยังส่วนลึกของป่าทึบ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ