ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 582

อู๋เป่ยยิ้มและพูดว่า "ที่ตั้งของทั้งสองกลุ่มนี้อยู่ที่ไหน?"

ลั่วฉังเซิง"พรรคหยวนคงคุมเมืองสองเมืองอยู่ ส่วนสำนักเชียนเฮ่อคุมเมืองสามเมืองอยู่ญี่ปุ่นนั้นแตกต่างจากประเทศเหยียนหลง ดินแดนระหว่างกองกำลังต่าง ๆ ถูกแบ่งแยกออกอย่างชัดเจน วันนี้ฉันกำจัดพรรคหยวนคง ดังนั้นที่ของพรรคหยวนคงก็เป็นของผม”

อู๋เป่ย "ถ้างั้นทำไมไม่ทำลายสำนักเชียนเฮ่อ จะได้เมืองสามเมือง"

ลั่วฉังเซิงส่ายหัว "วันนี้พวกเขามาบุกโจมตี ดังนั้นก็เป็นเรื่องธรรมชาติที่ฉันจะทำลายพวกเขา แต่ถ้าผมไปบุกโจมตีพวกเขา ฉันอาจจะไปปลุกสัตว์ประหลาดบางตัวขึ้นมาได้และนั่นอาจจะทำให้เป็นเรื่องที่ยุ่งยาก "

อู๋เป่ย "ตระกูลของคุณก็คุมเมืองหลายเมืองใช่ไหม?"

ลั่วฉังเซิงพูดว่า "ใช่ครับนายท่าน ลูก ๆ หลาน ๆ ของผมคุมสองเมือง แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเขาหันมาทำธุรกิจกัน"

ฮานามิ มิกิ "ทั้งสองเมืองอยู่ภาคเดียวกันและนี่คือฐานทัพของเรา พรรคหยวนคงอยู่ในคันโต ที่เป็นเมืองเกียวโตที่มีประชากรหนาแน่นและมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจ เอาเมืองไซตามะและกุมมะมาเป็นอาณาเขตของเราก็จะสามารถเพิ่มขนาดเป็นสองเท่าได้ ”

เมื่อได้ยินที่เธอพูดอู๋เป่ยก็พูดว่า "เหล่าลั่ว ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าต้องการโอนทรัพย์สินไปที่เหยียนหลง ฉันคิดว่าคุณไว้สักพักก่อนดีกว่า"

ลั่วฉังเซิง "นานท่านตั้งใจจะขยายอาณาเขตในญี่ปุ่นเหรอ?"

อู๋เป่ยพยักหน้า "รากฐานของคุณอยู่ที่นี่ ถ้าไม่พัฒนาให้มันดี ๆ มันจะเสียเปล่า ส่วนทางด้านเหยียนหลงก็ย้ายแค่อุตสาหกรรมรถยนต์ไปที่นั่น ส่วนที่เหลือก็เอาไว้ที่ญี่ปุ่น"

ลั่วฉังเซิงพยักหน้า “ ถ้างั้นก็ตกลงตามนี้"

เขาพูดกับฮานามิ มิกิ "มิกิ เอาแผนที่มาหน่อย"

ฮานามิ มิกิกลับมาห้องหนังสือเธอกลับมาพร้อมกับนำแผนที่มาด้วย แผนที่นี้วาดด้วยมือและแสดงถึงพื้นที่การเพาะปลูกต่างๆ ในญี่ปุ่น

จะเห็นได้ว่าสี่สิบเจ็ดเมืองในญี่ปุ่นถูกครอบครองโดยกองกำลังใหญ่เล็กมากกว่าร้อยกองกำลัง กองกำลังขนาดเล็กจะครอบครองหมู่บ้านไม่กี่บ้านในเมืองหรือบางกองกำลังก็ปกครองแค่หมู่บ้านหรือไม่ก็เมืองแค่เมืองเดียวเท่านั้น

กองกำลังขนาดใหญ่จะเข้ายึดครองเขตหลายเขตหรือไม่ก็เมืองหลายเมือง ลั่วฉังเซิงครอบครองเมืองหลายเมือง ถือเป็นกองกำลังที่ค่อนข้างทรงพลังอยู่แล้ว

ลั่วฉังเซิงชี้ไปที่แผนที่แล้วพูดว่า "นายท่าน ปัจจุบันทั้งสองเมืองนี้เป็นขอบเขตอิทธิพลของเรา มีประชากรประมาณสามล้านคนและเป็นเมืองที่อุตสาหกรรมพัฒนาแล้ว"

อู๋เป่ยเห็นว่าทั้งสองเมืองที่ลั่วฉังเซิงยึดครองคือจังหวัดยามานาชิและจังหวัดนากาโน่ ที่หนึ่งมีประชากรน้อยกว่าหนึ่งล้านคน ส่วนอีกที่หนึ่งมีประชากรมากกว่าสองล้านคน

ถัดจากสองเมืองนี้คือจังหวะไซตามะจังหวัดกุมมะ สาเหตุที่ทั้งสองฝ่ายขัดแย้งกันก็เพราะอยู่ใกล้กันเกินไปและมักจะมีความขัดแย้งกัน

อู๋เป่ยพูดว่า "ถ้าเรายึดกุมมะและไซตามะ เราจะอยู่ใกล้กับคานางาวะและโตเกียว ใครเป็นผู้ดูแลสองสถานที่นี้"

ลั่วฉังเซิงพูดว่า "ทั้งสองที่ถูกควบคุมโดยกองกำลังที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น นั่นคือสำนักโคกะและสำนักอิกะอันที่จริง เบื้องหลังของพรรคหยวนคงคือสำนักอิกะที่ควบคุมคานากาว่า"

อู๋เป่ยตอบ "ถ้าคุณต้องการคุมไซตามะและกุมมะ คุณต้องผ่านสำหนักอิกะไปก่อน"

ลั่วฉังเซิง"ใช่ สำนักอิกะเก่งมากเรื่องนินจา แต่มันก็ไม่สำคัญ เหตุผลที่พรรคหยวนคงยังสามารถคุมเมืองสองเมืองนั้นได้ก็เพราะเขาจ่ายเงินใต้โต๊ะให้สำนักอิกะ ตราบใดที่เราเต็มใจจ่ายมันสำนักอิกะไม่สนใจว่าจะมีใครมาคุมทั้งสองเมืองนี้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว”

อู๋เป่ย "ถ้าเป็นอย่างงั้นแล้วล่ะก็ สำนักอิกะจะต้องทำให้คุณตกที่นั่งลำบากแน่ ไม่อย่างนั้นมันจะทำให้ความยิ่งใหญ่ของเขาดูอ่อนลง"

ลั่วฉังเซิงหัวเราะเยาะ "ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่รังเกียจที่จะฆ่าคนเพิ่มอีกสองสามคน!"

อู๋เป่ยนึกถึงเรื่องที่ลั่วฉังเซิงถูกไล่ฆ่า เขาถามว่า "โอดะ ยูคาริอยู่ในกองกำลังไหน"

ฮานามิ มิกิแตกต่างออกไป เธอได้รับการเลี้ยงดูจากปู่ทวดของเธอตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก เธอพูดสำเนียงเหยียนหลงได้คล่องมากกว่าตงอิ๋ง เธอประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านการศึกษาภาษาจีน เธอเก่งในการเขียนและการวาดภาพ อีกทั้งเธอยังเก่งในเรื่องบทกวี

แนวคิดที่แตกต่างกันทำให้ฮานามิ มิกิทำงานร่วมกับฮานามิ ซาวาโกะได้ยาก ทั้งสองฝ่ายก็มีความขัดแย้งอยู่ตลอดเวลา

หลังจากเข้าใจสถานการณ์คร่าวๆ แล้ว อู๋เป่ยก็ถามว่า "เหลาลั่ว แล้วคุณจะทำยังไงต่อ?"

ลั่วฉังเซิง "ตอนนี้ ถึงเวลาแล้วที่มิกิจะต้องมาดูแลธุรกิจของตรกูล"

อู๋เป่ย "คุณต้องการจะปลดหัวหน้าตระกูลออก?"

ลั่วฉังเซิงพยักหน้า "ฉันจะให้เงินจำนวนหนึ่งกับพวกเขาไปเริ่มต้นชีวิตใหม่"

อู๋เป่ย "พวกเขาทั้งหมดเป็นลูกหลานของคุณ คุณทำแบบนี้ ไม่กลัวว่าพวกเขาจะเสียใจเหรอ?"

ลั่วฉังเซิงตะโกน "ตอนนี้ผมมีชีวิตใหม่แล้ว ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขา ยิ่งกว่านั้น ผมได้ให้สิ่งที่ควรให้ไปหมดแล้ว"

ฮานามิ มิกิ "ปู่ทวด หัวหน้าครอบครัวควบคุมธุรกิจอย่างเข้มงวดและใช้คนของเขาเท่านั้น การทำแบบนี้มันอาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้"

ลั่วฉังเซิงพูดว่า “อย่าไปกลัว แค่จัดการทรัพย์สินของครอบครัวให่ดี ขายสิ่งที่ควรขาย เก็บสิ่งที่สามารถเก็บ ต่อจากนี้เราจะเดินเปลี่ยนเส้นทางเดินแล้ว"

ฮานามิ มิกิ เข้าใจว่าปู่ทวดของเธอหมายถึงอะไร ธุรกิจของครอบครัวจะค่อยๆ สูญหายไปอย่างช้าๆ หรือจะให้พูดให้ชัดก็คือ จากนี้ตระกูลลั่วจะกลายเป็นตระกูลพลังยุทธ์