ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 668

หูเจี้ยนกั๋วพูด “ฉันคือบรรพชนผู้บุกเบิกพรรคฉวียนเจิน”

หัวใจอู๋เป่ยสั่นสะท้าน “คุณคือบรรพชนหลูอย่างนั้นเหรอ”

บรรพชนหลู ก็คือหลูต้งปินหนึ่งในเซียนในตำนาน หรือที่รู้จักกันในชื่อชุนหยางซีและจักรพรรดิฟูโหยว เป็นบุคลากรราชวงศ์ถัง ปัจจุบันมีวัดที่สักการะเทพหลูโดยเฉพาะไม่น้อย

หูเจี้ยนกั๋ว “ถูกต้อง”

อู๋เป่ยคำนับเขา “ผู้น้อยคำนับบรรพชนหลู!”

หูเจี้ยนกั๋วโบกมือ “ไม่ต้องมากพิธี เรื่องที่ข้าสั่งให้เจ้าทำมันง่ายมาก เจ้าช่วยข้าตามหาคนคนหนึ่งก่อน หลังจากนั้นรับเขาเป็นลูกศิษย์ ถ่ายทอดวิชาเต๋าให้เขา”

อู๋เป่ยรีบถาม “บรรพชนหลู ใคร”

หูเจี้ยนกั๋วพูด “ต่อไปนายเรียกฉันว่าเหล่าหูกาอนพอ”

อู๋เป่ยพูด “ได้ เหล่าหู”

หูเจี้ยนกั๋ว “ฉันมีวันเดือนปีเกิดของคนคนนี้ และสถานที่เกิดโดยประมาณ นายไปหาเขา ช่วยฉันถ่ายทอดวิชาเต๋าให้เขา”

อู๋เป่ยกระพริบตาปริบๆ “เหล่าหู คุณให้ผมรับเขาเป็นลูกศิษย์ ผมจะเอาอะไรสอนเขา”

หูเจี้ยนกั๋ว “หาคนให้เจอก่อน ขอแค่นายหาคนเจอ ฉันจะถ่ายทอดให้นายเอง”

อู๋เป่ยพยักหน้า “ได้ งานนี้ผมช่วยคุณเอง”

สีหน้าของหูเจี้ยนกั๋วดูดีขึ้นเล็กน้อย เขาพูด “ฉันจะท่องเที่ยวในประเทศยามะสองสามวัน ไม่อย่ามารบกวนฉัน”

อู๋เป่ยรีบพูด “ได้ ผมจะไม่รบกวนอย่างแน่นอน”

หลังจากหูเจี้ยนกั๋วทิ้งช่องทางติดต่อไว้ ก็บอกลาทันที

อู๋เป่ยจัดคนขับรถคนหนึ่งให้เขา และเดินไปส่งเขาถึงหน้าประตู

หลังจากหูเจี้ยนกั๋วไป เขามาถึงห้องที่เถาหรูเสวี่ยพักผ่อน เถาหรูเสวี่ยกำลังเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง อู๋เป่ยเดินไปก่อนเขาจากด้านหลัง พลางถาม “กำลังดูอะไรอยู่”

เถาหรูเสวี่ย “เมื่อยาใหม่ของเราเปิดตัวในวันข้างหน้า มูลค่าทางตลาดต้องพุ่งสูงแน่นอน วันที่จะบรรลุล้านล้านใกล้จะมาถึงแล้ว”

เธอลุกขึ้นนั่งกะทันหัน “ที่รัก ถ้าคุณมีเงินสำรองในมือ สามารถซื้อหุ้นเหมียวเย่ากรุ๊ปในเชิงรุก”

อู๋เป่ยพูดด้วยรอยยิ้ม “เดี๋ยวผมจะให้คุณปู่ซื้อ นั่งรอราคาพุ่ง”

คนทั้งสองนัวเนียกันอยู่ครู่หนึ่ง เถาหรูเสวี่ยหาอะไรง่ายๆกิน หลังจากนั้นก็เดินทางไปยังหอยาของพรรคฟ้าทมิฬด้วยกัน

ฟ่างอึงเก๋อรออยู่ที่นี่นานแล้ว เขาต้องการเรียนวิธีปรุงยาจากอู๋เป่ยมาโดยตลอด แทบอยากวิ่งเข้าไปขอคำชี้แนะจากเขา

หอยาเป็นสถานที่ที่อู้ฟู่ที่สุดของพรรคฟ้าทมิฬ ได้รับความสำคัญจากหัวหน้าพรรคทุกรุ่น แต่ว่าอู๋เป่ยหมดคำพูดต่อประสิทธิภาพในการทำงานของหอยา ใช้เงินสองหมื่นล้านทุกปี แต่กลับสามารถผลิตยาที่มีมูลค่าเพียงสามหมื่นล้าน ล้วนแต่เป็นพวกไร้ประโยชน์ทั้งสิ้น!

ฟ่างอึงเก๋อเชิญอู๋เป่ยไปยังห้องปรุงยา เป็นพื้นที่ที่กว้างขวางมาก ที่นี่มี ‘ปรมาจารย์โอสถ’ นับร้อยกำลังปรุงยา

ถัดไปก็เป็นคลังยา ด้านในมีการเก็บวัตถุดิบล้ำค่าไว้มากมาย ในห้องปรุงยามีเครื่องมือปรุงยามืออาชีพหลากหลาย ล้วนแต่เป็นของที่ดีที่สุด ยิ่งกว่านั้น ปรมาจารย์โอสถของที่นี่ส่วนมากมีใบปริญญาเอกสาขาเภสัชศาสตร์ จบจากสถาบันการแพทย์ระดับชั้นนำทั่วโลก

แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น อู๋เป่ยก็ยังรู้สึกว่าคนพวกนี้ไร้ประโยชน์ เขาเดินดูอยู่หนึ่งรอบ จากนั้นสั่งให้ทุกคนหยุดทำงานก่อน แล้วถามฟ่างอึงเก๋อ

“เหล่าฟ่าง ปัจจุบันพวกเราผลิตยาตัวไหนมากที่สุด และลงทุนเยอะที่สุด” เขาถาม

ฟ่างอึงเก๋อ “หัวหน้าพรรค ผงอายุยืนยาว”

อู๋เป่ยพยักหน้าแล้วพูด “ครั้งก่อนมีหลายอย่างไม่เอื้ออำนวย ไม่สามารถดำเนินการการให้บริสุทธิ์ขั้นสูง ตอนนี้ ผมจะแสดงขั้นตอนการสกัดผงอายุยืนยาว พวกคุณดูให้ดี!”

ฟ่างอึงเก๋อดีใจอย่างมาก รีบเรียกคนที่รับผิดชอบผลิตผงอายุยืนยาวหลายสิบคนออกมา ให้พวกเขาฟังอู๋เป่ยสอน

ขั้นตอนการทำยาไม่ได้ซับซ้อนเหมือนทำผลอายุยืนยาว แบ่งออกเป็นสิบเก้าขั้น

ผู้ชายที่จริงจังมีเสน่ห์ที่สุด เถาหรูเสวี่ยมองอู๋เป่ยอย่างเหม่อลอย บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน เดี๋ยวก็ช่วยส่งยาให้เขา เดี๋ยวก็ช่วยเขาทำลายข้าวของ

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง อู๋เป่ยทำของเหลวสีฟ้าอ่อนครึ่งหลอดทดลองออกมา เขาลองดื่ม เพลิดเพลินกับฤทธิ์ของยา

เถาหรูเสวี่ยรีบถาม “เป็นไงบ้าง”

อู๋เป่ย “นี่เป็นยาที่ผมทำจากสูตรดั้งเดิม แม้ว่ามันจะมีประสิทธิภาพในการรักษา แต่มันยังมีคุณสมบัติอีกแบบหนึ่งซ่อนอยู่ ผมสามารถแยกมันออกมา ทำเป็นยาอีกรุ่น”

เถาหรูเสวี่ยตกตะลึง “แล้วยาอีกรุ่นใช้ทำอะไร”

อู๋เป่ยพูดด้วยรอยยิ้ม “ยากอีกรุ่นใช้รักษาประสาทสมองเป็นหลัก ได้ผลดีมากกับผู้ที่มีสภาวะบกพร่องทางสติปัญญาโดยกำเนิด”

เถาหรูเสวี่ยดีใจ “จริงเหรอ เยี่ยมไปเลย!”

เธอมีความรู้เกี่ยวกับยารักษาโรค จำนวนผู้พิการทางสติปัญญาในโลกนี้คิดเป็นประมาณ 3% ของประชากรทั้งหมด หรือประมาณยี่สิบสี่ล้านคน

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีประชากรประมาณ 1.5 3% ที่สติปัญญาไม่สามารถเข้าถึงระดับคนธรรมดาได้ จำนวนคนที่มีสติปัญญาต่ำมีประมาณหนึ่งร้อยล้านคน

ความพิการทางสติปัญญาเป็นโรคที่น่าสิ้นหวังมากกว่าโรคอื่นๆ โดยเฉพาะสำหรับเด็ก และพ่อแม่ของพวกเขาจะต้องเจ็บปวดอย่างมาก

อู๋เป่ย “ฉันยังต้องปรับยานี้เพื่อรักษาเส้นประสาทสมองเพื่อให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุมมากขึ้น”

อู๋เป่ยเริ่มทำการทดลองทั้งเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งบ่ายโมงเย็นเขาก็สกัดยาออกมาได้สองชนิดตามลำดับ ยาตัวหนึ่งสามารถรักษาโรคอัลไซเมอร์ได้ ส่วนอีกตัวหนึ่งก็สามารถนำมาใช้รักษาความบกพร่องทางสติปัญญาได้

ประสิทธิภาพในการรักษาของยาตัวแรกอยู่ที่ประมาณ 90% ส่วนประสิทธิภาพในการรักษาของยาตัวที่สองสำหรับเด็ก 90% สำหรับผู้ใหญ่ 70% สำหรับผู้สูงอายุผลการรักษาน้อยกว่า 30%

หลังจากอู๋เป่ยปรุงยาสำเร็จ เถาหรูเสวี่ยกระโดดเข้าไปกอดอู๋เป่ยด้วยความดีใจ

“ที่รัก คุณสุดยอดไปเลย! คุณรู้หรือเปล่าว่ายาของเราจะช่วยเด็กๆที่น่ารักได้กี่คน จะช่วยผู้สูงอายุได้กี่คน คุณมันผู้กอบกู้โลกชัดๆ!”