ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 706

แม้ราชาตะวันออกเฉียงเหนือล้มป่วย แต่ชื่อเสียงของเขายังคงอยู่ ตระกูลหม่ายังคงไม่ใช่กลุ่มอิทธิพลที่หลี่เฉินหลงสามารถต่อต้านได้ หากฝ่ายตรงข้ามยืนกรานจะเอาหุ้น เขาก็ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง

ไม่ว่าจะเป็นเย่เทียนจงหรือหยางมู่ไป๋ ล้วนไม่พอที่จะกดดันตระกูลหม่า แน่นอนว่าผู้อยู่เบื้องหลังของหลี่หลงเฉินก็ไม่ได้ด้อย ดังนั้นตระกูลหม่าก็ไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่าม และยินดีจ่ายค่าชดเชยให้เขาอย่างงาม หากเป็นคนอื่นที่เบื้องหลัง ตระกูลหม่าไม่มีทางจ่ายค่าชดเชย

อู๋เป่ยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ราชาตะวันออกเฉียงเหนือทำอะไรไม่ได้หรอก คุณฟังผมให้ดี ไม่จำเป็นต้องอ่อนข้อ หรือจะยกหุ้นให้พวกเขาก็ได้ แต่ต้องทำตามกฎ แต่ละปีหุ้น 30% ได้เงินปันผลเท่าไหร่ พวกเขาต้องจ่ายเงินชดเชยสามสิบเท่า”

ผลกำไรแต่ละปีของหลี่หลงเฉินเกินห้าพันล้าน สามสิบเท่าก็เท่ากับหนึ่งแสนห้าหมื่นล้าน นี่เป็นเงินก้อนจำนวนมหาศาลอย่างไม่ต้องสงสัย

หลี่หลงเฉินยิ้มแห้งๆ “ตระกูลหม่าไม่มีทางตอบตกลง”

อู๋เป่ย “ไม่ตกลง ก็ย่อมมีวิธีที่ไม่ตกลง”

ในเวลานั้นเอง ประตูสวนถูกใครบางคนใช้แรงผลักจนเปิด หงจั้นเพิ่งลุกขึ้นยืน ประตูห้องที่พวกเขาอยู่ก็ถูกถีบจนเปิด หลังจากนั้นมีคนกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้ามา

คนที่เป็นผู้นำคือชายหนุ่มอายุยี่สิบห้าปี สวมชุดสูทและนาฬิกาแบรนด์เนม หน้าตาหล่อเหลา เขากวาดสายตามอง สุดท้ายไปหยุดอยู่ที่หลี่หลงเฉิน “หลี่หลงเฉิน คนของผมกำลังตรวจบัญชี แต่คุณกลับไม่อยู่ คนของผมมีเรื่องต้องถามคุณตลอด และคุณจำเป็นต้องให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผล”

สีหน้าของหลี่หลงเฉินน่าเกลียดมาก รู้สึกเหมือนถูกเหยียบหยาม เขาพูด “คุณชายหม่า ผมหลี่หลงเฉินทำงานร่วมกับตระกูลหม่าหลายปี บัญชีไม่เคยผิดแม้แต่ครั้งเดียว ตอนนี้คุณพาคนมาตรวจสอบบัญชี คุณเห็นผมหลี่หลงเฉินเป็นดินเหนียว คุณอยากปั้นยังไงก็ได้อย่างนั้นเหรอ”

ชายหนุ่มได้ยินคำพูดประโยคนี้ หัวเราะกะทันหัน “ถูกต้อง! ไม่สายตาของตระกูลหม่า คุณมันก็แค่ดินเหนียวก้อนหนึ่ง อยากปั้นให้กลมหรือทุบให้แบน ล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ของผม!”

หลี่หลงเฉินโกรธแล้ว “หม่าเสียวเฟิง อย่ารังแกกันให้มากนัก!”

ชายหนุ่มชื่อหม่าเสียวเฟิง เขายิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูด “หลี่หลงเฉิน ถ้าหากไม่ใช่เพราะเห็นแก่คุณความดีที่คุณต่อตระกูลหม่าในหลายปีมานี้ คุณคิดว่าตระกูลหม่าจะมีความอดทนกับคุณจนถึงตอนนี้เหรอ ผมจะบอกคุณตามตรง ภายในสามวันถ้าคุณไม่ยอมเซ็นยกหุ้น อย่าโทษตระกูลหม่าไม่ไหวหน้า!”

หม่าเสียวเฟิงอาศัยสถานะที่เหนือกว่าตนเอง พูดด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่ง ในแววตาแย่งแฝงไปด้วยความดูถูกและหยิ่งผยอง

เขาพูดต่อ “อย่าคิดว่าเฉียวปู้เซียนอาจารย์ปู่ของคุณรู้จักหัวหน้าตระกูลคนเก่าของตระกูลหม่า แล้วพวกเราจะอดทนกับคุณตลอดไป สมัยที่เฉียวปู้เซียนยังหนุ่ม ก็แค่เกือบมีชื่อไล่เลี่ยหัวหน้าตระกูลคนเก่า ต่อมาพลังยุทธ์ของหัวหน้าตระกูลคนเก่าก้าวหน้า เฉียวปู้เซียนไม่คู่ควรที่จะเรียกเขาว่าสหายแล้ว ขอพูดคำที่ไม่น่าฟังสักคำ ต่อให้ตอนนี้เฉียวปู้เซียนยืนอยู่ตรงหน้าผม เขาก็ต้องเกรงใจผม เรียกผมว่าคุณชายหม่า!”

เมื่อมีคนพูดถึงอาจารย์ของเขา อู๋เป่ยนั่งไม่ติดแล้ว เขาลุกขึ้นยืนแล้วพูด “อาจารย์ของผมชื่อเสียงเกรียงไกร ใช่บุคคลที่เด็กน้อยอย่างคุณสามารถพูดถึงได้ด้วยเหรอ”

หม่าเสียวเฟิงมองอู๋เป่ยแวบหนึ่ง “อาจารย์ของคุณอย่างนั้นเหรอ ผมรู้แล้ว คุณก็คือลูกศิษย์คนใหม่ของเฉียวปู้เซียน คุณชื่ออู๋เป่ยใช่หรือเปล่า เหอๆ ในยุทธภพต่างลือกันว่าลูกศิษย์คนใหม่ของเฉียวปู้เซียนเป็นอัจฉริยะ แต่ดูเหมือนคุณจะเป็นคนโง่เสียมากกว่า!”

“เพี้ยะ!”

เงาคนสั่นไหว หม่าเสียวเฟิงร้องอย่างน่าเวทนากะทันหัน รู้ตัวอีกทีก็ล้มลงบนพื้นแล้ว ใบหน้าของเขาถูกตบจนบวมเหมือนหัวหมู ฟันหักไปหลายซี่ และเลือดท่วมปาก

ไม่รู้เมื่อไหร่ อู๋เป่ยมายืนอยู่ตรงหน้าของหม่าเสียวเฟิงแล้ว เหยียบหน้าเขาแล้วพูด “กลับไปบอกหัวหน้าตระกูลหม่าคนใหม่ หลี่หลงเฉินจะไม่เซ็นยกหุ้น 30% และไม่เพียงแค่นั้น ตระกูลหม่าของพวกคุณต้องยกหุ้น 30% ให้ผม”

หม่าเสียวเฟิงทั้งตกใจและโกรธ “แกกล้าตบหน้าฉันเหรอ แกตายแน่ ตระกูลหม่าจะไม่ปล่อยแก!”

อู๋เป่ยออกแรงเล็กน้อย หม่าเสียวเฟิงก็รู้สึกว่าศีรษะของตนเองแทบระเบิดอยู่แล้ว เขาตกใจจนร้องขอชีวิต “ไว้ชีวิต โปรดไว้ชีวิต!”

อู๋เป่ยผ่อนแรงแล้วพูด “หม่าเสียวเฟิง เข้าใจคำพูดของผมหรือเปล่า”

หลี่หลงเฉินก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอู๋เป่ยจะจัดการยังไง แต่ว่าเขาเชื่อใจอู๋เป่ยอย่างยิ่ง อู๋เป่ยบอกว่าจัดการได้ ก็แสดงว่าจัดการได้แน่นอน!

หลี่หลงเฉินรีบฝึกฝน หลังจากดื่มเหล้าสองขวด เขาก็ไปฝึกฝนที่สวนหลังบ้านแล้ว เขาจะยืมพลังของคริสตัลวิญญาณเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเองให้โดยเร็ว

อู๋เป่ยถูกจัดให้พักที่บ้านสวนเงียบสงบหลังหนึ่ง หลังจากเขาฝึกวิชาเพาะกายเสร็จ ก็นั่งลงทบทวนการสืบทอดของนิกายหยินหยางกับแดนพุทธภูมิในใจ

โดยเฉพาะการสืบทอดของแดนพุทธภูมิ เขารู้สึกสนใจมากที่สุด อย่างเช่นนิ้วเลือดแข็งตัว ฝ่ามือสายฟ้า ผนึกไร้ชีวิต หรือแม้แต่วิชาตั้งรับที่ดีที่สุด ล้วนเป็นวิชาที่หาได้ยากอย่างยิ่ง

อย่างเช่นฝ่ามือสายฟ้า ชื่อเดิมของมันคือวิชาสายฟ้าสวรรค์ อานุภาพทรงพลังอย่างยิ่ง ฝ่ามือสายฟ้าที่เขาฝึก มีอานุภาพหนึ่งในสิบของวิชาต้นกำเนิดเท่านั้น

เขาฝึกวิชาฝ่ามือสายฟ้าช่ำชองนานแล้ว ดังนั้นเขาตัดสินใจฝึกวิชาที่แท้จริงของฝ่ามือสายฟ้า

แต่ว่าตอนที่เขาเพิ่งจะเริ่มฝึก ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่แผ่วเบาดังมาจากนอกรัศมีร้อยเมตร

เวลานี้ ในคฤหาสน์จื่อหลงมีผู้คนทำกิจกรรมอยู่ไม่น้อย แค่เสียงเท้าที่แผ่วเบาไม่มีอะไรน่าสนใจ

แต่ไม่ใช่สำหรับอู๋เป่ย เขาเคยเจอนินจามาไม่น้อย พริบตาเดียว เขาก็สามารถตัดสินได้ว่านี่เป็นเสียงฝีเท้าของนินจา

ในคฤหาสน์จื่อหลงล้วนเป็นคนของหลี่หลงเฉิน จะมีนินจาได้อย่างไร มีนินจาซ่อนตัวอยู่ที่นี่มาโดยตลอดอย่างนั้นหรือ

หลังจากนั้นเขานึกถึงสมบัติที่ชาวญี่ปุ่นเคยซ่อนที่นี่ เก้าในสิบ คนญี่ปุ่นเหล่านั้นยังไม่สามารถปล่อยวาง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ