ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 713

วิชาสายฟ้าสวรรค์ แบ่งออกเป็นเทียนปู้และเล่ยปู้ การฝึกฝนของเทียนปู้ แน่นอนเป็นวิชาสายฟ้า ในระหว่างกระบวนการฝึกฝน ฟ้าร้องและฟ้าผ่าจะต้องควบแน่นโดยใช้วิธีลับแล้วปล่อยออกมา ซึ่งเรียกว่าห้าวิชาแห่งสายฟ้า

ในทางกลับกัน เทียนปู้อาศัยพลังแห่งสวรรค์และธรรมชาติ เพื่อใช้งาน ตอนนี้อู๋เป่ยยังไม่สามารถฝึกฝนได้ เว้นเสียแต่เขาจะสามารถทำให้คนและสวรรค์หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ถึงจะมีคุณสมบัติฝึกฝนได้

วิชาแรกของห้าวิชาแห่งสายฟ้า ชื่อว่าเสียงสายฟ้า นี่เป็นวิชาที่ทำให้เกิดฟ้าร้องและฟ้าผ่าพร้อมเสียง

วิชาที่สอง ชื่อว่าไฟแห่งสายฟ้า หลังจากนี้ก็มี สายฟ้าหยิน คำสาปสายฟ้า สายฟ้าสะท้าน

วิชานี้ฝึกฝนขึ้นมาแล้วค่อนข้างยาก อู๋เป่ยฝึกฝนตั้งแต่เช้าจรดค่ำ สามารถฝึกฝนวิชาไฟแห่งสายฟ้าของหนึ่งในห้าวิชาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ตอนนี้เขากระดิกนิ้วมือหนึ่งที มีลูกไฟสายฟ้าสีแดงหลายลูกกระโดดไปมาระหว่างนิ้ว เขาขว้างลูกไฟสายฟ้าออกไปหนึ่งลูก ก็มีเสียงดังสนั่นดังขึ้น มันสามารถระเบิดหลุมลึกถึงพื้นดินสิบกว่าเมตรได้! หินและต้นไม้ที่อยู่รอบๆ ถูกระเบิดจนเป็นเสี่ยงๆ พลังน่าทึ่งอย่างมาก

เขาหยุดการฝึกฝนวิชาสายฟ้าสวรรค์ หันมาฝึกฝนวิชาศิลปะการต่อสู้ที่เคยฝึกก่อนหน้านี้ วิชาฝีเท้าผีเทพ หมัดมังกรอู๋หลง ดรรชนีคีบดอกไม้

วิชาเท้าผีเทพนี้ แบ่งออกเป็นเท้าผีและเท้าเทพ ก่อนหน้านี้เขามักจะฝึกฝนเท้าผี เนื่องจากความต้องการทางกายภาพของเท้าเทพสูงเกินไป แต่เป็นตอนนี้ล่ะก็ เขาสามารถฝึกเท้าเทพได้อย่างง่ายดาย หลังจากนั้นนำหมัดมังกรอู๋หลงและดรรชนีคีบดอกไม้ผสานเข้าด้วยกัน จึงสร้างทักษะเฉพาะตัวและทักษะพิเศษของตัวเองขึ้นมา!

ช่วงเวลาทั้งคืน เขาสร้างทักษะวิชาต่อสู้ออกมาสองวิชา ตามลำดับคือวิชาหมัดผีมังกรสังหารและวิชาหมัดเทพมังกรสะท้านฟ้า และทักษะการฆ่าบางอย่างที่เรียกว่าวิชาห้ามังกรสังหาร

ฝึกฝนสามวิชาสำเร็จ เขาเรียกหนังมนุษย์มา พูด : “เหยียนหยาง ฉันเพิ่งฝึกฝนสามวิชาใหม่สำเร็จ คุณมาฝึกฝนกับผม”

เหยียนหยางคนนี้ มีตัวตนเป็นตี้เซียนระดับเจ็ดแล้ว แน่นอนอู๋เป่ยฝึกฝนกับเขาไม่ได้เหนือกว่าอยู่แล้ว แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ ก็ยิ่งสามารถมองเห็นพลังทั้งสามวิชาของเขาออกได้ง่าย

เหยียนหยางพูด : “ท่านเซียน เชิญลงมือได้เลย”

จู่ๆอู๋เป่ยก็หายไปแล้ว ไร้ลมหายจบ กระทั่งแม้แต่ตาเทพก็ไม่สามารถรับรู้ได้ถึงเขา

เหยียนหยางตะลึง คนล่ะ

อย่างไรก็ตาม วินาทีต่อมา จู่ๆ สองมือก็ปรากฏขึ้นราวกับผี พันรอบร่างกายของเขาแล้วบิดอย่างแรง

ต่อให้เหยียนหยางเป็นแค่หนังมนุษย์ผืนหนึ่ง ก็ถูกบีบจนกลายเป็นลูกบอลทันที รู้สึกทรมานอย่างมาก เขากางผิวหนังออกอย่างรวดเร็จ ดีดจนอู๋เป่ยกระเด็นไปอยู่ด้านข้าง

เขาตกใจอย่างมาก พูด : “ท่านเซียน วิชานี้ของท่านร้ายกาจอย่างมาก! พลัง เทคนิค สมบูรณ์แบบอย่างมาก เมื่อกี้ถ้าหากข้าเป็นแค่ตี้เซียนระดับสามคนหนึ่ง จะต้องถูกท่านเซียนบีบตายได้อย่างง่ายดาย!”

อู๋เป่ยพอใจอย่างมาก พูดด้วยรอยยิ้ม : “ใช่ไหม คุณลองรับมือกับวิชานี้ดี!”

ครั้งนี้ เขาลงมืออย่างตรงไปตรงมา หนึ่งหมัดพุ่งไปหาเหยียนหยาง หมัดนี้ ออร่านั้นแข็งแกร่งราวกับท้องฟ้า โดยมีสายฟ้าและฟ้าร้องทั่วร่างกาย ทำให้ออร่าของเหยียนหยางถูกกดดันเช่นกัน

“ตุ้ม!”

เหยียนหยางถูกโจมตีจนบินออกไป ด้านนอกของผิวหนัง คาดไม่ถึงว่าจะมีรอยแตกเล็กๆ ปรากฏขึ้น เพียงแต่รอยแตกนี้ปิดลงอย่างรวดเร็ว

เขามองอู๋เป่ยด้วยความตะลึง พูด : “ท่านเซียน พลังหมัดนี้ของท่าน ทรงพลังกว่ากระบวนท่าที่แล้วหลายเท่า!”

อู๋เป่ยเตรียมจะทดสอบวิชาห้ามังกรสังหารอีกครั้ง แต่เฉินจ้าวกลับเดินเข้ามา พูด : “นายท่าน ผมลองถามเพื่อนๆหลายคนในดินแดนแห่งเซียนแล้ว ตอนนี้จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์โอวหยางคนนั้นและคนของพรรคฉู่ซานจิ้นกำลังร่วมมือกันค้นหากุ่ยสวี”

อู๋เป่ย : “กุ่ยสวีเหรอ สถานที่นั้นคืออะไร”

เหยียนหยาง : “ซากปรักหักพังของสนามรบโบราณ จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกแห่งเซียนนำทหารนับล้านคนไปโจมตีกองกำลังฝึกฝนของฮาวเทียนเหมินที่ใหญ่ที่สุดในเวลานั้น สุดท้าย ทั้งสองฝ่ายล้มตายและบาดเจ็บสาหัส กองทัพที่แข็งแกร่งล้านคนของโลกแห่งเซียนเหลือไม่ถึงหนึ่งแสน แต่ฮาวเทียนเหมินถูกกำจัดออกไป และไม่มีใครรอดชีวิตมาได้ บริเวณนี้เป็นที่ตั้งดั้งเดิมของฮาวเทียนเหมิน หนังสือโบราณบันทึกว่าเกิดไฟได้ลุกไหม้เป็นเวลาสามวันสามคืน”

“นังแต่นั้นเป็นต้นมา ที่นั่นมักจะมีผีและปีศาจออกมาปล่อยๆ กลายเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างอันตราย”

อู๋เป่ย : “งั้นก็ไปกุ่ยสวีเลย เผชิญหน้าจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์โอวหยางสักหน่อย!”

เฉินจ้าว : “ผมได้ยินเพื่อนผมบอกว่า ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาพบสมบัติมากมายในกุ่ยสวี จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์โอวหยางและพรรคพวก ก็น่าจะไปค้นหาสมบัติเช่นกัน”

อู๋เป่ยกระตุ้นพลังเซียนหยางบริสุทธิ์ หลังจากนั้นขับไล่พลังของผีเหล่านั้นออกมา ร่างกายรู้สึกสบายขึ้นมาทันที

เขาเปิดใช้งานตาเทพ ก็มองเห็นใต้พื้นดินของกุ่ยสวี มีซากปรักหักพังฝังอยู่จำนวนมาก ส่วนใหญ่แตกหักเป็นเสี่ยง ๆ แต่บางครั้งก็ยังมีบางส่วนที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์

เนื่องจากมีพลังของผีขัดขวางอยู่ ตาเทพไม่สามารถสำรวจสถานการณ์ด้านล่างได้ ดังนั้นคนที่มาสำรวจกุ่ยสวีในดินแดนแห่งเซียน มักจำเป็นต้องนำความลำบากจำนวนมากมาด้วย เพื่อหาสถานที่ขุดซึ่งเป็นเรื่องของโชคล้วนๆ

เห็นได้ชัดว่าอู๋เป่ยพวกเขาไม่เหมือนกัน ตาเทพของเขา สามารถมองเห็นใต้พื้นดินได้อย่างชัดเจน!

ชัดเจนอย่างมาก ต้องการหาของดีจากที่นี่นั้นมีโอกาสน้อยอย่างมาก ท้ายที่สุดแล้วโลกแห่งเซียนกำจัดฮาวเทียนเหมิน เพียงแค่เป็นของดีล้วนแล้วถูกเอาไปหมด กองกำลังของโลกแห่งเซียนไม่มีทางเหลือไว้อย่างแน่นอน

สิ่งที่ไม่ได้เอาไปด้วย บางสิ่งเป็นการถูกละเลย บางสิ่งล้วนแล้วเป็นของที่ไม่มีค่าเท่านั้น!

อย่างที่คาด สายตาของอู๋เป่ยเริ่มปวดแล้ว เดินทางไปหนึ่งร้อยกว่ากิโลเมตร คาดไม่ถึงว่าจะหาอะไรไม่เจอเลย ในเวลานี้ เขาก้าวสู่พื้นที่ของผีแล้ว เฉินจ้าวพูดเตือน : “นายท่าน เข้าไปข้างในอีกนิด ง่ายอย่างมากที่จะเจอภูตผีปีศาจ”

อู๋เป่ยเบื่อเล็กน้อย พูด : “ช่างเถอะ หาอะไรกินกันก่อน”

เขาเอาอาหาสำเร็จรูปและเหล้าออกมาจากแหวนปานจื่อ ให้เฉินจ้าวดื่มกับเขา

เหล้าหลายแก้วเข้าท้อง อู๋เป่ยมองไปข้างหน้าหนึ่งที จู่ๆเขาก็ต้องตกตะลึง ร้อยกว่ากิโลเมตรออกไป เพียงแค่เห็นมีประตูทองสัมฤทธิ์พังอยู่แห่งหนึ่ง ประตูนี้สูงราวๆ พันเมตร กว้างกว่าสี่ร้อยเมตร ตั้งตระหง่านอยู่อย่างเดิม

อาคารหลังประตูทองสัมฤทธิ์ถูกทำลายไปหมดแล้ว เหลือเพียงประตูนี้เท่านั้น

มองเห็นประตูทองสัมฤทธิ์ เฉินจ้าวพูดด้วยรอยยิ้ม : “นายท่าน นี่คือสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของกุ่ยสวี ด่านประตูผี”

อู๋เป่ยถาม : “ทำไมถึงเรียกด่านประตูผี”