ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 934

อู๋เป่ย "ใต้ทะเลสาบนี้มีกล่องกระดูกอยู่ สามารถเอามาทำยาได้ ฉันอยากเอามันขึ้นมา"

สวี่จี้เฟยยิ่มแล้วพูดว่า "ไม่มีปัญหา ฉันจะไปเรียกคนมา"

อู๋เป่ยโบกมือ "ไม่จำเป็น"

เขายิ่มมือออกไปจับมัน ผิวน้ำเริ่มหมุนวนอย่างรวดเร็ว กระแสน้ำทำให้กล่องที่อยู่ก้นทะเลสาบลอยขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วขึ้นสู่ผิวน้ำ

ทันทีที่อู๋เป่ยจับกล่องได้ ทุกคนก็เห็นว่ากล่องนันเต็มไปด้วยกระดูกทองคำ บ้างใหญ่บ้างเล็ก ความหนาแน่นมากว่าทองคำอีก!

สวี่จี้เฟยสงสัยจึงหยิบขึ้นมาหนึ่งชิ้น เมื่อชั่งน้ำหนักในมือ เขาถามด้วยความสงสัย "นี่เป็นกระดูกหรือเปล่า? มันหนักมาจริงๆ"

อู๋เป่ยพูด "พี่สาม กระดูกพวกนี้เอาใหฉันเถอะ"

สวี่จี้เฟยยิ้มแล้วพูดว่า "ถ้านายอยากได้ ก็เอาไปเถอะ"

อู๋เป่ยเหลือบมองเขาแล้วพูดว่า "พี่สาม พี่ยังไม่ได้เซิงเนี่ยนใช่ไหม?"

สวี่จี้เฟย "การส่งเสริมโดยกำเนิดของฉันไม่ถึงหนึ่งปี ยังหายไกลจากเซิงเนี่ยนนัก"

อู๋เป่ยหยิบขวดหนึ่งออกมาแลวพูดว่า "นี้คือพลังวิญญาณโดยกำเนิด เมื่อใช้ในตอนกำลังจะเซิงเนี่ยน จะทำใหไดผลลัพธ์เป็นสองเท่าโดยใชความพยายามเพียงครึ่งเดียว"

สวี่จี้เฟยดวงตาเปนประกายแล้วพูดว่า "พี่ชาย ขอบคุณมาก!"

อู๋เป่ยยิ้ม "พี่สามเกรงใจแล้ว"

หลิวจิ้นถังอยู่ในวงธุรกิจวัสดุยาและมีความรู้ดี เมื่อเขาเห็นกระดูกสีทองนี้ เขาก็จำบางอย่างได้แม้ไม่ชัดเจน เขาก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "คุณชายอู๋ กระดูกสีทองเหล่านี ขายให้ฉันได้ไหม?"

อู๋เป่ยตอบ "ได้สิ คุณอยากได้เท่าไหร่ล่ะ?"

หลิวจิ้นถังดีใจมาก "ฉันจะซื้อสักสิบชิ้น"

อู๋เป่ยพยักหน้า "ชิ้นละหนึ่งร้อยล้านดอลลา์ รวมเป็นหนึ่งพันล้านดอลลาร์ โอนหรือเงินสด?"

เขาเปิดราคาที่สูงมาก แต่หลิวจิ้นถังกอดไม่ได้ที่จะตะลึง "หนึ่งพันล้าน?"

อู๋เป่ย "หนึ่งพันล้านเป็นราคาคนกันเอง ถ้าเปลี่ยนที่อื่นไป ถึงคุณมีเงินก็ซื้อไม่ได้"

หญิงสาวข้างๆหลิวจิ้นถังพูดอย่างใจเย็น "กองกระดูกเน่าๆ จิ้นถัง เราอย่าซื้อน่ะ!"

หลิวจิ้นถังจองมองหญิงสาวคนนั้นอย่างดุเดือด "เธอจะรูอะไร ฉันจำได้ว่ามีบันทึกในหนังสือโบราณว่านี้อาจจะเปนกระดูกศักดิ์สิทธิ์!"

อู๋เป่ยประหลาดใจมากที่ชายคนนีรู้เรื่องกระดูกศักดิ์สิทธิ์จริงๆ เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่หลิวจิ้นถังอย่างจริงจัง คราวนี้ปรากฏว่าร่างกายของเขามีบางอย่างผิดปกติ มีเนืองอกอยู๋ลึกในสมองของเขาและเป็นมะเร็ง

เขาพูด "เนื้องอกในสมองของคุณเป็นอันตรายมาก คุณควรได้รับการผ่าตัดเร็วที่สุด มันจะบุกรุกผนังหลอดเลือดเร็วสุดภายในหนึ่งอาทิตย์ จากนั้นสมองก็จะตกเลือด แม้แต่พระเจ้าก็ไม่สามารถช่วยคุณได้แล้ว"

เมื่อได้ยินคำเหล่านี้ ทั้งหลิวจินถังและหานเหล่า ก็ตกตะลึง หานเหล่าพูด "ทักษะการแพทย์ของคุณชายอู๋น่าชื่นชมจริงๆ"

ใบหน้าของหลิวจิ้นถังซีดลงเล็กนอย "คุณชาย คุณพูดถูก ตอนนีฉันได้ตรสจร่างการแล้วและมีเนื้องอกในสมองจริงๆ หานเหล่าบอกว่าคุณเป็นหมอเทวดา คุณสามารถรักษาฉันได้ไหม?"

อู๋เป่ย "แน่นอนว่ารักษาได้ แค่ไปผ่าตัดเปิดกระโหลกแล้วตัดเนื้องอกออก แต่ตองบอกหมอว่ามีเส้นประสาทส่วนกลางที่สำคัญหลายเสนในบริเวณที่เนื้องอกของคุณโตอยู่ มีความเป็นไปไดสูงว่า คุณจะได้รับบาดเจ็บโดยไม่ได้ตั้งใจระหว่างผ่าตัด พวกมันจะนำไปสู่ความตายทันที แต่การผ่าตัดมีคามเสี่ยง ดังนั้นเมื่อพิจารณาแล้ว ฉันก็ยังคงแนะนำให้ทำการผ่าตัด"

หลิวจิ้นถังใบหน้าซีดขาว เขาโค้งคำนับอย่างสุดซึ้ง "หมอเทวดาอู๋ คุณช่วยรักษาฉันได้ไหม?"

จูชิงเหยียนไม่พอใจอย่างมากกับทัศนคติของหญิงสูงศักดิ์ เธอพูดว่า "สามีของฉันมีสามสิ่งที่รักษาไม่ได้ เขาไม่รักษาคนใจร้าย เขาไม่รักษาคนหยาบคาย เขาไม่รักษาคนที่ใช้สายตาหมามองคนอื่น สามข้อนี้ พวกคุณล้วนทำปฏิบัติต่อเขาแล้ว ดังนั้นตัดใจซะเถอะ"

จูชิงเหยียนนี้เป็นวิธีด่าที่แตกต่าง ภรรยาหญิงสูงศักดิ์เมื่อได้ยินก็โกรธมาก จ้องมองเธออย่างดุเดือด

หลิงจิ้นถังตื่นตระหนกมาก หมอบอกเขานานแล้วว่าการผ่าตัดมีความเสี่ยงมาก และมีโอกาสที่เขาจะไม่บุกขึ้นมาจากเตียงผ่าตัดได้อีก เขามีทรัพย์สมบัติมากมาย มีแฟนสาวแสนสวย เขายังไม่อยากตาย เขาอยากมีชีวิตที่ยืนยาว

เขากัดฟันแล้วพูดว่า "คุณชายอู๋ ถาคุณสามารถรักษาฉันได้ ฉันยินดีมอบมรดกตกทอดของครอบครัวให้คุณ!"

อู๋เป่ยเริ่มมีความสนใจ "โอ้?"

อู๋เป่ย "ตรวจสอบระเอียดรึยัง อีกฝ่ายมีที่มาอย่างไร?"

องค์รักษ์หลงเว่ย "ยังไม่ชัดเจนครับ"

อู๋เป่ย "นำทางไป!"

จากนั้นหันมาคุยกับจูชิงเหยียน "ขิงเหยียน ฉันจัไปจัดการเรื่องนี้สักหน่อย"

จูชิงเหยียนพยักหน้า "ได้ แล้วรีบกลับมานะ"

หลังอู๋เป่ยจากไป ใบหน้าเล็กๆของหานซิวก็ซีดลง ตระกูลหานของเธอเป็นตระกูลแพทย์ในโลกนี้ มีปฏิสัมพันธ์มากมายกับคนในสังคมชั้นสูง ดังนั้นเธอจึงรู็เกี่ยวกับการมีอยู่ของ "เทียนหลง" คนคนนี้ ที่แท้ก็เป็นผู็นำของเทียนหลงจริงๆ

ไม่เพียงแต่เธอเท่านั้น หานเหล่าก็ตกใจเช่นกัน เขาเหลืองมองหลานสาว แล้วอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ วันนี้ เป็นโอกาสที่จะได้ผูกมิตรกับผูนำเทียนหลงแล้วแท้ๆ แต่หลานสาวของเขากับต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี

ชายหนุ่มข้างหานซิวถาม "พี่สาว ท่านผู้นำคืออะไร?"

หานซิวพูดอย่างอ่อนแรง"ท่นาผู้นำก็คือหัวหน้าของเทียนหลง ช่างเถอะ พูดไปนายก็ไม่เข้าใจ"

จูชิงเหยียนขี้เกียจเกินว่าจะสนใจพวกเขา เธอพาเด็กหญิงกลับไปที่หังห้องเล่นเล็ก

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป อู๋เป่ยก้มาถึง"โรงฝึกศิลปะการต่อสู้เทียนตี้"ในเมืองฉือ ด้านนอกโรงฝึกศิลปะการต่อสู้ โจวรั่วเสวี่ยและจูเหยียนก็อยู่ที่นั่น เช่นเดียวกับสมาชิดเจ็ดคนของเทียนหลง ศพของทั้งสามและผู้บาดเจ็บอีกสองรายนอนอยู่ในรถที่ไม่ไกลจากตรงนั้น มีแพทย์กำลังปฐมพยาบาลเบื้องต้นอยู่

หลังจากอู๋เป่ยมาถึง เขาก็รักษาอาการบาดเจ็บให้คงที่ก่อน ชายผู็บาดเจบได้รับบาดเจ็บสาหัสภายใน และกำลังจะตาย ดังนั้นอู๋เป่ยจึงป้อนยาอายุวัฒนะแห่งชีวิตให้เขา

ชายที่ได้รับบาดเจ็บไม่นานก็ฟื้นตัวแล้วพูดว่า "ท่านผู้นำ ขออภัยด้วย ทำให้ท่านผิดหวังแล้ว"

อู๋เป่ย "พูดไร้สาระ คนไม่เป็นอะไรถึงจะดี อีกอย่าง เจอคนที่ไม่สามารถต่อกรด้วยไดไ้ จะต้องรักษาชีวิตของตัวเองไว้ก่อน"

สิบนาทีต่อมา ผู้บาดเจ็บสองรายก็พ้นขี้อันตราย อู๋เป่ยจึงค่อยมาถึงประตูทางเข้า

"สถานการณ์ด้านในเป็นอย่างไรบ้าง?"อู๋เป่ยถามทันที โดยไม่พูดอะไร