อู๋เป่ยเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ฉันคิดมาดีแล้ว ตอนนี้ฉันมาที่นี่เพื่อรายงาน นายเป็นผู้รับผิดชอบลงทะเบียนคนใหม่ไม่มีคุณสมบัติมาตัดสินใจ!"
ชายอ้วนดูโกรธมาก เขาหัวเราะ "ฮึฮึ" "ฉันไม่มีคุณสมบัติ? ฉันบอกว่าจะกำจัดนาย ก็กำจัดนาย ออกไป!"
อู๋เป่ยยิ้มเยาะ ชิ่งเหล่าชิงส่งเงินไปก่อนแล้ว คะแนนของเขานั้นเต็มหมด แต่ชายคนนี้กลับกล้าที่จะมาขวางเขา เขาเยาะเย้ยทันทีแล้วพูดว่า "ฉันอยากเข้าร่วมค่ายลาดตระเวน ไม่ต้องการความยินยอมจากนาย"
หลังพูดจบเขาก็กลับไปที่ลานหน้าบ้าน ที่ลานหน้าบ้านมีกลองอยู่ ชิ่งเหล่าบอกว่าถูกตั้งขึ้นโดยนายพลคนแรกของค่ายลาดตระเวนชายแดน ถ้าใครรู็สึกว่ากระบวนการสสรหาไม่ยุติธรรมก็สามารถมาตีกลองนีได้ ทันทีที่กลองนี้ดังขึ้น นายพลลาดตระเวนและรองนายพลก็จะมาทันที เพื่อทดสอบเป็นการส่วนตัว
อู๋เป่ยก็หยิบไม้ตีกลองขึ้นมาแล้วเริ่มตีมัน "ตึงตึงตึง" ทันทีที่เสียงกลองดังขึ้น ทุกคนก็ประหลาดใจ ชายอ้วนก็รีบวิ่งเข้าออกมา เมื่อเห็นอู๋เป่ยกำลังตีกลองอยู่เขาก็โกรธจนตัวสั่นแล้วชีไปที่เขาพร้อมพูดว่า "นาย....นายจะกล้าเกินไปแล้ว!"
ชายหนุ่มที่อยู่ตรงลานหน้านั้นกมีสีหน้าเศร้าหมองเช่นกัน เขาเหลือบมองชายอ้วนอย่างเย็นชาจากนั้นก็จองมองไปที่อู๋เป่ยแล้วพูดว่า "ผลของการตีกลองนี้ นายรู้ใช่ไหม?"
อู๋เป่ยพูดอย่างใจเย็น "ำม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็แค่ทพการทดสอบใหม่อีกครั้ง"
ชายหนุ่มคนนั้นยิ้มเยาะ "ถูกต้อง จะต้องทำการทดสอบใหม่ แต่จะตองเข้าไปใน‘ห้องศิลปะการต่อสู้’เพื่อทำการทดสอบ เตั้งแต่เมื่อหนึ่งร้อบปีก่อนคนที่เขาไปในห้องนี้ก็ไม่มีใครรอดออกมาเลย"
อู๋เป่ย "นั้นก็เพราะพวกเขาอ่อนแอเกินไป"
ชานหนุ่มพูดอย่างใจเย็น "งั้นก็ดี ในเมื่อนายอยากไปตาย พวกเรากจะไม่ห้าม"
ในขณะนั้น ชายผิวคล้ำคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในสนามตามมาด้วยกลุ่มคนผู้ติดตาม เขาถามดวยน้ำเสียงทุ้มลึก "ใครเป็นคนตี‘กลองไม่เท่ากัน’?"
อู๋เป่ยพูดอย่างใจเย็น "ฉันเอง"
ชายผิวคล้ำจ้องมองเขาแล้วพูดว่า "นายเบื่อที่จะใช้ชีวิตแล้วเหรอ? รู้ใช่ไหมว่าเมื่อเสียงกลองนี้ดังขึ้น ชีวิตของนายก็จะไม่เป็นของนายอีกต่อไป?"
อู๋เป่ย "นั้นก็ไม่เสมอไป"
ชายผิวคล้ำหัวเราะ"เฮอะเฮอะ" แล้วพูดว่า "นายรบกวนการพักผ่อนของฉันก็สมควรตาย"
อู๋เป่ย "ฉันต้องการเป็นนายพลลาดตระเวนชายแดน อยากจะถามนายพลว่า ถ้าฉันผ่านการทดสอบทางทหารแล้ว จะพิสูจน์ว่าฉันมีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมค่ายลาดตระเวนไหม?"
ชายผิวคล้ำที่เป็นนายพลของค่ายลาดตระเวนพูดอย่างเย็นชา "นายไม่มีทางผ่าน"
อู๋เป่ย "ถ้าเกิดฉันผ่านล่ะ?"
นายพลของค่ายลาดตระเวน "ถ้านายผ่าน ฉันจะสั่งลงโทษใครก็ตามที่ขัดขวางไม่ให้นายผ่านเข้าร่วมค่ายลาดตระเวน!"
อู๋เป่ย "ได้!"
นายพลของค่ายลาดตระเวนโบกมือของเขา ผู้คนที่อยู่ข้างหลังเขาก็ดึงผ้าสีดำผืนหนึ่งออกมา ใต้ผ้าสีดำมีประตูซึ่งนำไปสู่อาคารสูงซึ่งเป็นห้องศิลปะการต่อสู้
เมื่อเห็นอู๋เป่ยกำลังจะเข้าไปในห้องศิลปะการต่อสู้ ชิ่งเหล่าก็ประหลาดใจแล้วพูดว่า "คุณชายระวังตัวด้วย!"
อู๋เป่ยพูดอย่างใจเย็น "ไม่ตองห่วงฉันอยากรู้ว่าการทดลองจะยากแค่ไหนกัน"
วินาทีต่อมา ใต้เท้าของอู๋เป่ยก็มีเสาโลหะก็ดันขึ้นมา มันว่างเปล่า ด้านบนมีช่องสามช่อง แต่ละช่องมีสิ่งของวางอยู๋ในนั้น
ด้านในช่องแรกคือช่วงยาอายุวัฒนะ ด้านในช่องที่สองคือสัญลักษณ์สีขาวที่มียันต์สลักอยู่ ในช่องที่สามคือพัดพับ พัดกระดูดถูดขัดดวยกระดูกสัตว์บางชนิด หลังจากเปิดออกแล้วก็มียันต์ลึกลับวาดอยู่บนพัด
เขาเก็บของทั้งสามสิ่งแล้วพูดกับตัวเองว่า "ห้องศิปะการต่อสู้นี้เดิมทีต้องไม่ใช่ของค่ายลาดตระเวน แต่เป็นของกองกำลังที่เรียกว่า ‘สถานบันศิลปะการต่อสู้โลก’ บทบาทของมันคือการทดสอบอัจฉริยะแห้งสถาบันศิลปะการต่อสู้ และมันมีหน้าที่ทดสอบนักเรียนที่มีพรรสวรรค์ของสถาบันศิลปะการต่อสู้ เมื่อก่อนมันง่ายกว่าเพราะไม่ได้เปิดโหมด‘การทดสอบระดับอัจฉริยะ’จากนั้น เมื่อมันเปิดโหมดทดสอบอัจฉริยะ ส่งผลให้ไม่มีใครผ่านมันมาเป็นเวลาหลายรอยปี"
เขาเป็นคนฉลาดมากและเขาก็รู้เหตุผลทันที เขาจึงเดินออกจากห้องศิลปะการต่อสู้ด้วยรอยยิ้ม
ภายนอกห้องศิลปะการต่อสู้ นายพลค่ายลาดตระเวนและคนอื่นๆมีสีหน้าเย็นชา สิ่งที่เกิดขึ้นวันนีน่ากังวลมาก ค่ายลาดตระเวนนั้นโลภมาก สิ่งนี้ทุกคนล้วนรู้เรื่องนีดี แต่ปัญหานี้ ความโลภนี้ไม่สาสมารถนำออกมาวางบนโต๊ะได้ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหามากมายตามมา หากวันนี้ถูกหลี่เป่ยมาสร้างความวุ่นวาย ทั้งเมืองก็จะเดือดร้อน หากคนคฤหาสน์อวิ๋นรู้เรื่องพวกนี้ พวกเขาต้องตองมาด่าาทอเขาแน่
นายพลค่ายลาดตระเวน มองดูผู้ใต้บังคับบัญชาสองสามคนที่รับผิดชอบในการสรรหาผู้มาใหม่ คนพวกนั้นกมหน้าลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะชายอ้วนซึ่งมีเหงือเย็นผุดขึ้นที่หน้าผาก และมีลางสังหรว่านายพลจะลงโทษเขาอย่างรุนแรง
ในขณะนั้นเอง ก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นที่หน้าประตู ฝูงชนก็อุทานขึ้น "เขาออกมาแล้ว เขายังไม่ตาย!"
อู๋เป่ยออกมาโดยไม่มีรอยขีดข่วนบนร่างกายเลย เขาพูดอย่างใจเย็น "การทดสอบ ฉันผ่านแล้ว"
นายพลค่ายลาดตระเวนตกตะลึง แล้วจ้องไปที่อู๋เป่ยจากนั้นก้าวไปหาอู๋เป่ยพร้อมพูดด้วยรอยยิ้ม "หลี่เป่ย ยินดีต้อนรับเข้าสู่ค่ายลาดตระเวนเมื่อง! จากนี้ไป นายจะเป็นพลโทของฉัน!"
ทุกคนล้วนตกตะลึง พลโท?
จู่ๆใบหน้าของชายอ้วนก็ซีดลง เขาอาปากจะพูดอะไรบ้างอย่าง แต่ไม่มีเสียงอะไรหลุดออกมาเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...
619 หายไปตอนนึงนะ...