คำขอดังกล่าวช่างสมเหตุสมผล
แต่กลับยากกว่าการใช้ฝ่ามือตบหน้าซูเชียนหลิงกับเย่อวิ๋นถูตรง ๆ เสียอีก
เย่อวิ๋นถูหรี่ตาดอกท้อคู่นั้นเล็กน้อย สายมองทางเย่เสวียนถิงอย่างไม่เป็นไม่ตร
“อ๋องเสวียน เจ้า…”
“ข้ารู้สึกว่าอ๋องเสวียนตรัสมีเหตุผล”
ฮ่องเต้เปิดปากฉับพลัน ทันใดนั้นบรรยากาศรอบ ๆ ก็เงียบสงัด
เขาถอนหายใจ “อวิ๋นถู อย่างไรตอนนี้ซูชิงอู่ก็เป็นพี่สะใภ้ของเจ้า เจ้าตรัสวาจาลบหลู่สมควรขอโทษขอโพยเสีย ข้าจักเป็นสักขีพยานให้ นางหนูชิงอู่น่าจะเห็นแก่หน้าข้าอภัยให้เจ้า เจ้าก้มหัวพูดนุ่มนวลขอโทษขอโพยนางเถอะ”
ปรางแก้มฮองเฮาขึ้นสีระเรื่อ “ฝ่าบาท อย่างไรอวิ๋นถูก็เป็นถึงองค์ชาย ท่านกลับให้เขาขออภัยสตรี พูดไปแล้วก็เป็นท่านที่ต้องขายหน้าไปด้วย…”
ฮ่องเต้ปรายมองฮองเฮา “เขาพูดไม่ดีทำเรื่องผิดเองก็สมควรรับโทษ บุรุษผู้หนึ่งจะขออภัยคนมีอันใดน่าขายหน้า?”
เย่อวิ๋นถูดูก็รู้ว่าไม่มีทางพลิกสถานการณ์เรื่องนี้ได้แล้ว
เขาหายใจเข้าลึก ๆ ลุกขึ้นจากพื้น จากนั้นเดินไปตรงหน้าซูชิงอู่
เย่เสวียนถิงจับแขนเสื้อซูชิงอู่ไว้พลางประคองให้นางลุกขึ้น
ครั้นมองคนทั้งสองที่ใบหน้าเเขียวช้ำบวมเหมือนหมู ซูชิงอู่ก็แอบหัวเราะในใจ แต่กลับยังรักษาอารมณ์คับข้องเจ็บปวดอยู่ดังเดิม
ซูเชียนหลิงทำได้แค่ฝืนก้มศีรษะเมื่ออยู่เบื้องหน้าซูชิงอู่ แล้วยืนข้างเย่อวิ๋นถู นางเริ่มเปิดปากก่อน “น้องชิงอู่ เมื่อครู่เป็นความผิดของพี่คนนี้ทั้งหมด ขอเจ้าให้อภัยให้ข้าด้วย…”
เมื่อซูชิงอู่เห็นนางมาก็หลบหลังเย่เสวียนถิงทันควัน
บนหน้านางเผยความหวาดหวั่น ราวกับถูกทำให้ตกใจก็ไม่ปาน
เย่เสวียนถิงกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา “นี่หรือท่าทีขออภัยของเจ้า?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย้อนรักทวงแค้น