ยั่ว นิยาย บท 67

เวลาผันเปลี่ยนไปปีแล้วปีเล่า จากเด็กก็เริ่มโตเป็นสาว แถมยังมีความสามารถรอบด้าน สมกับเป็นผู้นำหญิงคนแรกของอัครโยธินกุล

“ไม่ผ่านไปทำมาใหม่” ลินิน หรือ วนิดา วัย 25 พูดพลางโยนเอกสารการส่งออกไปกับโต๊ะ ทำงานมาลวกๆ กล้าเอามาให้เธอเซ็นต์ได้ยังไง

“พี่นิน กลับเถอะ”

มิรินเปิดประตูห้องเข้ามาแบบไม่ต้องเคาะ เห็นพี่สาวคนสวยนั่งทำหน้าบึ้งตึงให้คนที่เป็นเลขา เลขาจึงรีบเก็บเอกสารเดินออกไป

“อีกแล้วเหรอ จะไล่ออกไหม”

มิรินเดินมานั่งตรงโซฟารับแขกในห้อง พลางมองเวลาในนาฬิกาเรือนหรูของตัวเอง

“ทำงานไม่ดีจะเก็บไว้ทำไม แล้วรินมาทำไม” ลินินถามน้องสาวด้วยใบหน้าราบเรียบ ยัยนี่โดดเรียนมาแน่ๆ

“วันนี้ต้องไปรับ อคินที่สนามบิน” มิรินเอ่ยย้ำพี่สาวอีกครั้ง ลืมรึไงว่าน้องชายของพวกเธอจะกลับมาจากต่างประเทศ นี่พ่อกับแม่ก็เพิ่งโทรมาเร่งเธอไป แต่พี่สาวกลับนั่งทำงานสบายใจอยู่ที่นี่ เหมือนว่าจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามีน้องชาย

“ไปเถอะ” เพราะอายุที่ต่างกันเกือบ 9 ปี ลินินเลยไม่ค่อยสนิทกับน้องคนเล็กเท่าไหร่ ต่างจากมิรินที่เธอดูจะเข้ากับคนอื่นได้ดี

“แต่นั่นน้องนะ”

“ก็น้องไง หนูไปรับคนเดียวก็ได้นี่นา เดี๋ยวกลับไป” ลินินออกมาใช้ชีวิตข้างนอก เพราะเธอต้องรับช่วงบริษัท และตอนนี้ก็เรียนต่อโทด้วย มันเหนื่อยถ้าต้องขับรถไป-กลับบ้าน และที่ทำงาน เธอจึงใช้เงินเดือนซื้อคอนโดที่อยู่ใกล้ๆ บริษัท และออกมาใช้ชีวิตคนเดียว

“พ่อกับแม่คิดถึง”

“อื้ม ไปสักทีงานพี่เยอะ”

“เป็นแบบนี้ตลอดเลย” มิรินเดินย่ำเท้าออกไปด้วยความน้อยใจ พี่สาวเธอโตมาแล้วกระด้างเย็นชา ต่างจากตอนเด็กที่ช่างเอาใจใส่เธอ มิรินไม่สนใจแล้ว

“ขอโทษ” ลินินได้แต่มองตามแผ่นหลังของน้องสาวสุดที่รักไป เธอแทบจะไม่มีเวลาให้ครอบครัวเลย เพราะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ขึ้นมาบริหาร อัครโยธินกุล เธอเลยต้องใช้ทั้งความสามารถและเรี่ยวแรงพิสูจน์ตัวเองว่าเธอก็มีค่าไม่ต่างจากผู้ชาย

ลินินทำงานจนดึกดื่น เมื่อรอบตัวเงียบสงัดถึงได้ลุกจากเก้าอี้เก็บของเตรียมกลับบ้าน บ้านที่น้องชายเธอคงเดินทางมาถึงแล้ว

รถสปอร์ตคาร์รุ่นใหม่ของบริษัทที่เธอเป็นคนออกแบบ จอดลงหน้าบ้านที่พ่อเล่าอย่างภูมิใจว่าเป็นเรือนหอ แม้จะดูเก่าไปตามกาลเวลา แต่มาเหยียบทีไรก็รู้สึกอบอุ่นทุกครั้ง

“นั่นไง ผมบอกแล้วว่าพี่นินต้องมา” อคินเป็นคนแรกที่วิ่งออกมาจากบ้าน หลังจากเสียงรถของเธอเงียบลง

“ว่าไงเจ้าตัวแสบ” ลินินเอ่ยทักน้องชาย ก่อนเธอจะกางแขนออกกว้าง และน้องชายเธอก็วิ่งมากอดทันที

“คิดถึงนะครับ”

“พี่ก็คิดถึง” ลินินบอกเบาๆ

เธอยอมรับว่าอิจฉาน้องชาย ที่เพียงแค่เกิดมาเป็นผู้ชายก็ได้รับความรักมากกว่าใครๆ ในขณะที่เธอต้องดิ้นรนอย่างหนัก เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าผู้หญิงอย่างเธอก็เก่งไม่แพ้ใคร

เธออยากได้การยอมรับ จากคนที่เธอเรียกว่าพ่อ

“ทำไมไม่กลับบ้านเลยละ” เสือเดินออกมาถามลูกสาว ที่ยังไม่ยอมเข้าไปในบ้าน ข้างๆ เขาคือภรรยาและลูกสาวคนกลาง

“ทำไมต้องกลับมาที่นี่ละคะ งานยุ่งจะตาย ตอนนี้คุณพ่อก็มีทุกอย่างครบแล้วนี่คะ จะแคร์ทำไม กับอีแค่ลูกคนเดียวไม่กลับมาบ้าน”

ทุกครั้งที่เธอกลับมา เธอจะระเบิดความน้อยใจที่อัดอั้นไว้ทุกครั้งและหนีกลับไป แค่ดูเหมือนครั้งนี้จะแตกต่าง เพราะไอ้ตัวแสบที่กอดเธอไม่ปล่อย จึงไม่สามารถกลับขึ้นรถที่อยู่ห่างออกไปเพียงนิดเดียวได้เลย

“นินทำไมพูดกับพ่อแบบนั้นละลูก”

“แม่ก็เข้าข้างพ่อตลอด อยากรู้ไหมทำไมหนูถึงไม่อยากกลับ ก็เพราะว่าที่นี่ไม่ต้องการผู้หญิงแบบนินไง”

นิรากำลังจะเอื้อมมือไปดึงลูกสาวของเธอที่กำลังร้องไห้น้อยอกน้อยใจอย่างทุกทีที่กลับมาบ้าน แต่คนเป็นสามีกลับเดินไปถึงตัวเธอก่อน แล้วดึงเธอมากอดไว้อย่างหวงแหน

“ใครบอกครับว่าพ่อไม่ต้องการนิน พ่อรู้ว่าที่นิน ทำทุกอย่างจนมันเหนื่อย พ่อผิดเองที่ยกทุกอย่างให้นินดูแล แต่เพราะว่านั่นคือสิ่งที่พ่อเชื่อมั่น ว่านินทำได้ พ่อถึงยกให้ นินมีค่านะครับมีค่ากับพ่อและน้องทุกคน และนินมีค่าที่สุดกับแม่”

“พ่อขอโทษที่ทำให้เสียใจ เพราะพ่ออยากได้ลูกชายมากจริงๆ แต่ไม่ใช่ว่าพ่อจะไม่รักนินที่เกิดมาเป็นลูกสาวของพ่อ พ่อรักลูกทุกคน แต่ความรักที่แสดงออกมันไม่เหมือนกัน”

“ที่พ่อส่งอคินไปเรียนอยู่ที่เมืองนอกไม่ใช่ว่าพ่อสนับสนุนน้องมากกว่าลูกสาวทั้งสอง แต่เพราะอคินมันดื้อ มันควรไปใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกคนเดียวจะได้เลิกเหลวไหลสักที”

เสือรับรู้ถึงแรงสะอื้นจากคนที่เขากอดอยู่ เธอโตขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาแทบจะไม่เคยได้กอดลูกสาวแบบนี้เลยตั้งแต่เธอโต เวลาที่ได้อยู่กับเธอช่างผ่านไปเร็วนัก

“ผมจะแต่งกับนินครับ คุณเสือ” แพทริคไม่เคยลังเล เขาแอบบินมาหาเธอบ่อยๆ แต่เธอไม่เคยอยู่ให้เขาเจอเลยสักครั้ง

“ผม30 แล้ว มีพร้อมทุกอย่าง ผมดูแลเธอได้ และทำได้ดีกว่าคุณด้วย ยกเธอให้ผมดูแลเถอะครับ”

แพทริคใช้ความสามารถขึ้นเป็นผู้นำด้านการส่งออกของสวิตเซอร์แลนด์ เขาจึงมั่นใจว่าเขาคู่ควรกับเธอ

“ว่ายังไงนิน ถ้าเป็นแพทริคพ่อก็พอจะยอมได้ แต่ถ้าเป็นไอ้คนที่นินบอกว่าจะหมั้น เลิกคิดไปได้เลย” เขาตามดูลูกทั้งสามอยู่ห่างๆ รู้ทุกความเป็นไปของลูกทุกคน แต่ไม่เคยเข้าไปก้าวก่าย ได้แต่เตือนและกันคนที่ดูจะเป็นอันตรายออกไปเท่านั้น

“ไม่แต่งหรอกคะ นินยังไม่อยากแต่ง ขอใช้เวลาอยู่ในอ้อมอกของพ่อกับแม่อีกสักนิด”

เธอยังต้องการความอบอุ่นจากพ่อแม่เสมอ และคำตอบของเธอก็ทำให้คนเป็นพ่อยิ้มกว้าง

“ได้สิครับ จะอยู่จนพ่อกับแม่แก่กว่านี้ก็ได้”

เสือยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ลูกสาว ก่อนจะยักคิ้วให้แพทริคทีนึง

แพทริคไม่ยอมหรอก มาไกลขนาดนี้ มีแต่ต้องเดินหน้าพิชิตใจเธอและพ่อตาขี้หวงคนนี้เท่านั้น

เขาจะใช้เวลาทั้งหมดพิสูจน์ให้เธอกับพ่อของเธอรู้ ว่าเขาจริงจังกับเธอมากแค่ไหน จะดูแลเธอ เหมือนที่พ่อของเธอปกป้องดูแลเธออยู่ไม่ห่าง

แพทริคมองหัวหน้าครอบครัวที่เขานับถืออีกครั้ง ไม่รู้จะต้องทำยังไงถึงจะบุกเข้าถ้ำเสือได้ การจะขโมยลูกเสือไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย และเสือตัวใหญ่นั่นก็ดูจะรักเธอมากกว่าใครทั้งนั้น

แบบนี้เขาอาจจะใช้เวลาเนินนานในการขอให้เสือดุตัวใหญ่นั่นเมตตา แล้วเสือที่หวงลูกหวงเมียขนาดนั้นจะยอมรับเขาเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวไหมนะ

แต่ไม่ว่าจะยากแค่ไหนเขาก็จะพยายาม เพราะคนที่กำลังกุมมือเขาอยู่ตอนนี้ ต่างหากที่ทำให้เขามีความหวัง

“สู้ๆ นะคะ” ลินินยิ้มให้นิดๆ ก่อนจะปล่อยมือแล้วตักอาหารเข้าปาก

“ครับ จะพยายามนะ”

จบบริบูรณ์

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่ว