แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 190

บทที่ 190 ตระกูลโตเล็กทำให้คนเกลียดชังจริงๆ

บุริศร์ยังไงก็คิดไม่ออกว่านี่มันยังไงกันแน่ แต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้ เขาทิ้งปัญหาเหล่านี้ไปข้างหลังก่อน เริ่มตั้งใจศึกษาเรื่องที่เกี่ยวกับการพูดคุยบ้านตระกูลวัชโรทัยในตอนกลางคืน

เขาหาภาพโครงสร้างของตอนนั้นได้จากแถวบ้านที่รเมศซื้อ

บุริศร์พบว่าช่องระบายอากาศของที่นี่มีรูรั่วสามารถมุดเข้าไปได้ ตอนกลางคืนเขาได้ส่งข้อความให้พฤกษ์ ให้เขาดูแลแม่บุริศร์กับเด็กๆ ตัวเองได้มาถึงจุดที่ไม่ไกลจากคฤหาสน์ของรเมศ

ตระกูลวัชโรทัยแสงไฟสว่างทุกจุด ดูแล้วเหมือนเมืองที่ไม่หลับไหลยังไงอย่างงั้น แต่ที่น่าแปลกใจคือรเมศไม่ได้ออกจากบ้านทั้งวันเลย

บุริศร์มองดูกล้องวิดีโอที่ตัวเองซ่อนไว้ รู้สึกจุดนี้มันน่าแปลจริงๆ

ได้ยินมาว่ารเมศเป็นคนที่สุขุมรอบคอบและระมัดระวังกับงานมาโดยตลอด ถึงขั้นเพื่องานแล้วไม่หลับไม่นอนหลายคืนเลย หลายครั้งที่ใช้ออฟฟิศเป็นบ้าน แต่ตอนนี้ไม่นึกเลยว่าเขาไม่ได้ไปที่บริษัทหลายวันแล้ว นี่ดูยังไงก็ไม่สมเหตุสมผล

อีกอย่างตั้งแต่วันนี้ที่เขาเริ่มปิดประตูไม่ออกจากบ้าน เป็นวันที่งานประมูลFallen heavenเสร็จสิ้นพอดี ในนี้ถ้าบอกว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย บุริศร์ไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่

เขาหาช่องระบายอากาศของตอนนั้นเจอ จากนั้นได้คลานเข้าไปอย่างเร็ว

สิ่งแวดล้อมของที่นี่ชื้นมาก จุดของท่อระบายอากาศยิ่งทำให้คนทนไม่ไหว ลมเย็นหนาวเข้ากระดูกดำ แต่บุริศร์กลับไม่มีความรู้สึกใดๆเลย

เขาอาศัยแผนที่ๆอยู่ในหัวมาถึงในคฤหาสน์ของรเมศ

รเมศนั่งดื่มชาอยู่บนโซฟา ในมือถือรูปถ่ายไว้ใบนึง เขาหรี่ตาลงมา สามารถดูออกลางๆว่านั่นเป็นผู้หญิงที่คล้ายนรมนในห้าปีก่อนมาก

จะเป็นรูปถ่ายของนรมนหรือเปล่า?

แต่ว่าดูจากชุดแต่งกายแล้วไม่เหมือนเสื้อผ้าของสมัยนี้ หรือว่าเมื่อห้าปีก่อนนรมนเคยถ่ายรูปสมัยก่อนมา?

บุริศร์ค่อนข้างสงสัย

ในขณะนี้เอง รเมศถอนหายใจเบาๆทีนึง เอารูปถ่ายวางไว้บนโต๊ะน้ำชา จากนั้นก็ลุกขึ้นมือกอดอกและครุ่นคิดขึ้นมา

ผู้หญิงที่อยู่ข้างกายหน้าตาเหมือนเลขาถามเสียงเบา: “ประธานรเมศคะ รูปถ่ายนี้เอามาจากไหนคะ? นี่ไม่ใช่หน้าตาของคุณนรมนเมื่อห้าปีก่อนหรอคะ? ยังโผล่อยู่นี่ได้ยังไงคะ? ฉันจำได้ว่าฉันได้ทำลายรูปถ่ายทั้งหมดทิ้งไปแล้วนี่คะ”

“นี่ไม่ใช่เธอ นี่คงจะเป็นรูปถ่ายของผู้หญิงที่หน้าตาคล้ายเธอมาก”

รเมศหันหน้ามา ขมวดคิ้วและพูด: “นี่เป็นรูปถ่ายที่ฉันค้นมาจากบนตัวเธอ ถึงอยู่ที่Fallen heaven เธอก็ไม่เคยทำให้รูปถ่ายใบนี้หาย แม้กระทั่งวางอยู่ใกล้ตัว ถ้าไม่ใช่คนสำคัญที่เธอแคร์มาก แล้วจะทำเป็นของล้ำค่าที่พกติดตัวไว้ตลอดทำไม?”

“นี่จะเป็นรูปถ่ายที่คุณนรมนถ่ายสมัยก่อนหรือเปล่าคะ?”

“ไม่หรอก รูปถ่ายนี้ก็นานพอสมควรแล้ว ตรงมุมเหลืองหมดแล้ว น่าจะเป็นรูปถ่ายเก่า ผู้หญิงที่อยู่ในรูปนี้ดูแว๊บแรกเหมือนนรมนมากก็จริง แต่ถ้าดูอย่างละเอียด ดวงตาและคิ้วของพวกเธอไม่เหมือน ก็ยังมีจุดต่างกันอยู่”

ตอนที่บุริศร์ได้ยินรเมศพูดคำนี้ คนทั้งคนค่อนข้างที่จะโกรธและริษยา

นรมนในห้าปีก่อนหน้าตาเป็นยังไง ไม่นึกเลยว่ารเมศจะจำได้ชัดเจนขนาดนี้ ถ้าบอกว่าเขาสามารถลืมนรมนแล้วไปชอบพอกับผู้หญิงคนอื่น บุริศร์ยังไงก็ไม่เชื่อ

เลขาพูดอย่างลังเล: “ประธานรเมศคะ วันนี้ดิฉันพบว่ามีคนตรวจสอบบัญชีส่วนตัวของคุณค่ะ”

“ใคร?”

รเมศหันหน้ากลับมาอย่างกะทันหัน แววตามีแสงของความเยือกเย็นแว๊บผ่าน

เลขารีบส่ายหน้าและพูด: “ไม่ทราบแน่ชัดค่ะ ตรวจสอบไม่ได้ว่าฝ่ายตรงข้ามคือใคร น่าจะเป็นคนที่มีฝีมือยอดเยี่ยมในด้านคอมพิวเตอร์ ที่สามารถตรวจสอบได้ล้วนแต่เป็นบัญชีของต่างประเทศ แต่โดยปกติทั่วไปล้วนแต่เป็นมาเฟียใช้มาฟอกเงิน ดังนั้นถ้าอยากตรวจสอบว่าฝ่ายตรงข้ามคือใครจริงๆ......”

พริบตาเดียว รเมศก็ขมวดคิ้วขึ้นมา

“ตรวจสอบบุริศร์หรือยัง? หลายวันมานี้เขาทำอะไรอยู่?”

“ได้ยินว่ากลับไปในประเทศเที่ยวนึง ตระกูลโตเล็กเกิดเรื่องนิดหน่อย แต่เหมือนว่าจับป้าโอได้แล้วค่ะ”

คำพูดของเลขาทำให้รเมศยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้น

“ป้าโอถูกจับแล้ว?เป็นไปได้ยังไง?”

“จริงค่ะ พวกเราได้ข่าวว่า ป้าโอถูกคุมตัวอยู่ที่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาค่ะ”

“ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา?”

แววตาของรเมศแหลมคมขึ้นมากะทันหัน

“เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดา?”

เลขารีบพูด: “ดิฉันก็ไม่ทราบแน่ชัดค่ะ แต่ว่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเข้ามาเกี่ยวข้องจริงๆ ได้ยินว่าคุณชายธรณีเป็นห่วงเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ ยังมีเจตต์ของ ตระกูลรัตติกรวรกุล ก็เข้าร่วมด้วยค่ะ ดีที่แม่ของเจตต์ฆ่าตัวตายกะทันหัน เจตต์ถึงไม่ได้ตามมาค่ะ”

“ตระกูลทวีทรัพย์ธาดากับตระกูลรัตติกรวรกุล ก็เข้ามาแทรกแซงด้วย หรือว่าพวกมันก็ชอบนรมนด้วย?”

เลขาไม่กล้าตอบคำถามของรเมศ ได้แต่ยืนเงียบๆไว้

ผ่านไปสักพัก มีคนรับใช้มาขอคำแนะนำ

“ประธานรเมศคะ คุณผู้หญิงที่อยู่ด้านล่างก็ยังไม่ทานอะไรอีกเช่นเคยค่ะ จะทำยังไงดีคะ?”

“เศษสวะ!”

รเมศโยนแก้วน้ำชาที่อยู่ตรงหน้าออกไป

น้ำร้อนกระเด็นออกมา คนรับใช้กับเลขากลับไม่มีใครกล้าหลบ

รเมศในตอนนี้ก็เหมือนคนที่โกรธสุดขีดจนระเบิดอารมณ์ออกมา ไม่รู้ว่าจะกำเริบเมื่อไหร่ ผู้ชายที่สุภาพเรียบร้อยของก่อนหน้านี้เหมือนได้หายไปแล้ว ตอนนี้ทุกคนเห็นเขาต่างก็พากันอกสั่นขวัญแขวน

คนรับใช้ถูกน้ำร้อนลวกจนตัวสั่น ได้แต่ยืนอยู่ข้างๆไม่กล้าส่งเสียงดัง

สุดท้ายเลขาหายใจลึกๆทีนึงแล้วพูด:“ประธานรเมศคะ คุณกักขังไว้อย่างนี้ตลอดก็ไม่ได้นะคะ ดิฉันได้ยินมาว่าแม่บุริศร์มาอเมริกาแล้วค่ะ อยากบริจาคไตให้กับลูกสาวของบุริศร์ แต่ดูเหมือนไม่เข้ากัน แต่กลับตัดสินแล้วว่าจะอยู่ที่นี่ค่ะ”

“ตระกูลโตเล็กนี่ทำให้คนเกลียดชังจริงๆ”

รเมศหันมานั่งที่โซฟา แววตาเยือกเย็นเล็กน้อย

ตอนที่เลขาจากไป บุริศร์รู้ว่าตัวเองอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้ว มีความเป็นไปได้สูงที่นาทีต่อมาเลขาก็จะโทรหาทางโรงพยาบาล

บุริศร์ถอยออกจากช่องระบายอากาศโดยเร็ว แล้วโทรหาพฤกษ์ในเวลาแรก

“ประธานบุริศร์?”

“นายฟังฉันพูด ตอนนี้พากมล กิจจาและแม่ของฉันออกจากโรงพยาบาลอย่างเงียบๆ”

บุริศร์รู้สึกใจใกล้จะตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มอยู่แล้ว

นี่เป็นการเดินหมากรุกที่อันตราย

หลายปีมานี้กมลไม่ออกจากโรงพยาบาลเลย เขาไม่รู้พากมลออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าอย่างนี้จะทำให้กมลเกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า แต่ว่าถ้าเทียบกับความอำมหิตของรเมศแล้ว เขาก็ไม่ไว้วางใจเอาลูกสาวไว้ที่โรงพยาบาลเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

พฤกษ์ค่อนข้างประหลาดใจ

“ประธานบุริศร์ครับ ไหนบอกว่าคุณหนูกมลออกจากโรงพยาบาลไม่ใช่เหรอครับ นี่ทำไม.......”

“นายอย่าเพิ่งถามเลย รีบพาพวกเขาไป! ถ้าเจอหมอหรือพยาบาล ก็พากมลไปเดินเล่นที่หลังสวน อย่าเผยพิรุธอะไรออกมา ฉันจะรีบกลับไปสมทบกับพวกนายที่โรงพยาบาล”

บุริศร์พูดจบก็ได้วางสายทิ้ง

ตอนนี้เวลาคับขันเกินไป เขาได้แต่มองคฤหาสน์ของรเมศอย่างลึกซึ้งทีนึง

ทั้งๆที่รู้ว่านรมนอยู่แค่ข้างใน ทั้งๆที่รู้ว่าเธอกำลังจ้องมองตัวเองไว้ให้ไปช่วยเธอ แต่ตอนนี้เขากลับได้แต่ไปช่วยลูกๆก่อน

อารมณ์ของบุริศร์ทรมานสุดๆ

นรมน คุณรอผมก่อนนะ ผมช่วยลูกๆออกมาก่อน

หลังจากบุริศร์พูดอยู่ในใจคำนึง ก็ได้ขับรถไปจากตระกูลวัชโรทัยอย่างไว ใช้ความเร็วสูงสุดขับไปที่โรงพยาบาลเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

หลังจากพฤกษ์ได้รับสายจากบุริศร์อีกทีก็รู้ว่าอาจจะเกิดเรื่องแล้ว แต่ว่าก็ไม่มีเวลาอธิบายกับแม่บุริศร์แล้ว ได้แต่บอกว่านี่เป็นความต้องการของบุริศร์

แม่บุริศร์ได้ยินว่าเป็นความต้องการของบุริศร์ ย่อมไม่ได้ถามอะไรอีก

เธอยิ้มให้กับกมลและพูด: “กมล ย่ายังไม่เคยเยี่ยมชมโรงพยาบาลเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเลย ได้ยินว่าหลังสวนของที่นี่สวยมาก พวกเราไปเดินเล่นดีมั้ยคะ?”

น้อยมากที่กมลจะออกจากห้องผู้ป่วยหลังพระอาทิตย์ตกดิน แต่ว่าพอเห็นหน้าตาของแม่บุริศร์ที่อยากไปมาก เธอได้พยักหน้าและพูด: “ได้ค่ะ แต่ว่าหนูต้องใส่เสื้แผ้าเยอะๆหน่อย คุณหมอบอกว่าหนูเป็นหวัดไม่ได้ค่ะ”

“เด็กดีจริงๆเลย!”

ฉวยโอกาศตอนที่กมลไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พฤกษ์ได้ให้กิจจาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว จากนั้นก็เดินออกไปก่อน

พวกเขาตัดสินใจจะแยกออกเป็นสองชุด กิจจากับพฤกษ์ไปก่อน เพราะยังไงซะไม่ใช่เป้าหมายหลัก ส่วนแม่บุริศร์กับกมลตามมาทีหลัง ถึงเจอหมอกับพยาบาล ก็ง่ายที่จะหาข้ออ้าง

แต่ว่าหลังจากกิจจากับพฤกษ์จากไป ในขณะที่แม่บุริศร์ก็พากมลออกไป กลับถูกหมอที่มาอย่างเร่งรีบขวางเอาไว้ 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย