บทที่ 229 คุณต้องปลอบโยนผมนะ
“ไม่นะ นรมน ผมกลับมาในคืนนี้ คุณทำให้ผมหนาวจนเข้าไปถึงกระดูกก็แล้วกันไป ตอนนี้ยังทิ้งให้ผมอยู่คนเดียวอีก นี่มันอะไรกัน?”
บุริศร์น้อยใจสุดๆ
ฝีเท้าของนรมนหยุดนิ่งไปชั่วขณะ กิจจารีบกอดแขนของนรมน และกล่าวอย่างน่าสงสาร:“หม่ามี้ ผมหนาวจังเลยครับ กมลอยู่ข้างในต้องหนาวแน่เลย”
“จริงด้วย”
นรมนนึกถึงกมล หันไปพูดกับบุริศร์ว่า:“คุณกลับห้องไปนอนเถอะ ฉันจะเข้าไปอุ้มกมลออกมา ด้านในหนาวมาก”
“ไม่ใช่……”
บุริศร์ร้องเรียกอย่างเหี่ยวแห้ง
กิจจาแอบแลบลิ้นปลิ้นตาใส่บุริศร์ในอ้อมแขนของนรมน
สมน้ำหน้า!
ใครใช้ให้เมื่อกี้แด๊ดดี้ทำรุนแรงกับเขา
บุริศร์มองเห็นท่าทางอิ่มอกอิ่มใจของกิจจา แทบอยากจะลากไอ้เด็กแสบคนนี้ลงมาคุยกันอีกรอบ
หลังจากนรมนอุ้มกิจจาเข้าไปในห้อง เขาจึงลงมา
“หม่ามี้ครับ วันนี้ตอนที่น้องออกไปไม่รู้ว่าจะเป็นหวัดหรือเปล่า คืนนี้พวกเราต้องดูแลน้องอย่างดี”
ประโยคนี้ทำให้หัวใจที่สั่นไหวของนรมนเมื่อกี้เกิดสั่นคลอนอีกรอบเล็กน้อย
จริงด้วย
เธอยังไม่ได้จัดการเรื่องของตุลยาให้ชัดเจน และกมลวิ่งไปตรงนั้นนานเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะเป็นหวัดหรือเปล่า
เดิมทีเธอคิดว่ากล่อมลูกเสร็จจะไปอยู่กับบุริศร์ แต่ได้ยินกิจจาพูดแบบนี้ นรมนรู้สึกสับสนจริงๆ
กิจจาเห็นเธอมีท่าทางสับสน แอบยิ้มทันที
แด๊ดดี้ด่าเขาเลย!
เหอะ!
คืนนี้จะไม่ให้หม่ามี้กลับไป!
กิจจาวางแผนอย่างดี นรมนตามไม่ทันอยู่แล้ว
เธออุ้มกมลออกมา บุริศร์ยังคงอยู่ แววตาที่มองนรมนแฝงความน้อยใจเล็กน้อย
นรมนรีบหันไป ไม่กล้ามอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอยแผลบนหน้าผากของเขาในตอนนี้ ยิ่งทำให้นรมนรู้สึกผิดในใจ
แต่นึกถึงลูกสาว เธอจำต้องกัดฟันกล่าวว่า:“คุณรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ คืนนี้ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนกมลกับกิจจา ระวังจะเป็นหวัดนะ”
พูดจบเธอรีบวางกมลบนเตียง มีท่าทางลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย ไม่กล้าหันไปมองบุริศร์
กิจจามองเห็นท่าทางห่อเหี่ยวของบุริศร์ เขาแอบยิ้ม จากนั้นรีบพูดกับนรมน:“หม่ามี้ อยู่ดีๆผมก็รู้สึกไม่สบายท้อง ไม่รู้ว่ากินข้าวเย็นเยอะไปหรือเปล่า”
“จริงหรือ ?รู้สึกไม่สบายท้อง?มาให้หม่ามี้ดูหน่อย”
นรมนรีบอุ้มกิจจามาวางบนเก้าอี้ จับท้องของเขาเบาๆ ถามอย่างอ่อนโยนว่า:“ปวดแบบไหน ?อยากไปหาหมอไหม?”
บุริศร์ก็รู้สึกเป็นห่วงเล็กน้อย แต่ทันทีที่มองเห็นกิจจาแอบยิ้ม เขาเข้าใจทันที
“กิจจา แกกล้า……”
“โอ้ย ปวดท้องจะแย่อยู่แล้ว”
กิจจารีบกุมท้องเอาไว้ แทบจะล้มลงไปในอ้อมแขนของนรมน มือเล็กๆออกแรงดึงแขนของเธอเอาไว้ ร้องโอดโอย
นรมนตกใจ
“หม่ามี้จะพาไปโรงพยาบาล”
“ไม่ต้องครับ หม่ามี้ หม่ามี้กอดผมสักพักก็หายแล้ว”
กิจจารีบซุกในอ้อมแขนของนรมน
นรมนมองเห็นท่าทางในตอนนี้ของกิจจาดูน่าสงสาร เข้าใจว่าเขาคิดถึงแม่แท้ๆของตนเอง ส่วนเมื่อกี้ที่บุริศร์ดุด่าเสียงดัง เดิมทีกิจจามีเจตนาดี ไม่เพียงแต่ไม่ได้รับคำชมจากบุริศร์ แถมยังถูกตำหนิอีก จึงรู้สึกน้อยใจเป็นธรรมดา
คิดถึงตรงนี้ นรมนถลึงตามองบุริศร์อย่างตำหนิ จากนั้นโอบกอดกิจจาเอาไว้ กล่าวอย่างอ่อนโยน:“ เด็กดี ไม่เจ็บแล้วเนอะ หม่ามี้นวดๆให้”
“หม่ามี้ ผมเจ็บตรงนี้”
กิจจาคว้ามือของนรมนวางลงบนท้องของตนเอง
มือของหม่ามี้นุ่มจังเลย!
มองเห็นท่าทางไร้ยางอายของกิจจา บุริศร์แทบจะระเบิดด้วยความโมโห
“นรมน ไอ้เด็กแสบคนนี้มันเสแสร้ง เขา……”
“คุณรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ กิจจาก็เหนื่อยเช่นกัน อยากนอนแล้ว ”
เสียงของนรมนทุ้มต่ำเล็กน้อย ทำให้บุริศร์หดหู่อย่างยิ่ง
เขาถูกลูกชายแย่งความสนใจจากภรรยาไปตั้งแต่เมื่อไหร่?
บุริศร์ถลึงตามองกิจจาด้วยความโหดเหี้ยม แต่กิจจากลับร้องขึ้นมาอีกครั้ง
“หม่ามี้ แด๊ดดี้ใจร้ายจังเลย หม่ามี้รีบให้เขาออกไปเร็วๆ ผมกลัว!ท้องยิ่งปวด”
“กิจจา!”
“บุริศร์!”
นรมนขึ้นเสียงสูงฉับพลัน เห็นได้ชัดว่าโกรธจริงๆ
เห็นนรมนปกป้องกิจจาเช่นนี้ บุริศร์คิดว่าวันนี้ตนเองคงไม่มีหวังแล้ว
ไอ้เด็กแสบ!
บุริศร์กัดฟันด้วยความโมโห แต่กลับทอดถอนใจและกล่าวว่า:“ได้ ผมไปก่อนนะ คุณก็อย่าหักโหม ร่างกายของคุณยังไม่คืนสู่สภาพเดิม รีบพักผ่อน อย่าตามใจไอ้เด็กแสบคนนี้มาก มีอะไรเรียกผม”
“ค่ะ”
นรมนพยักหน้า ยังคงรู้สึกละอายใจเล็กน้อย
เธอไม่กล้าหันไปมองบุริศร์ รีบก้มหน้าเอาแต่ดูแลกิจจา
บุริศร์เห็นเธอมีท่าทางเช่นนี้ จึงไม่อยากทำให้เธอลำบากใจอีก ทอดถอนใจเบาๆ เมื่อเหลือบมองกิจจาอย่างตำหนิ ก็เห็นไอ้เด็กแสบกำลังแลบลิ้นใส่เขา
ได้!
ไอ้เด็กแสบคนนี้นับวันยิ่งไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา
เพียงแต่อยู่ต่อหน้านรมน เขาจึงเดินออกไปอย่างสิ้นหวัง
ในขณะนั้นนรมนรู้สึกตัดใจไม่ลง อยากให้บุริศร์อยู่ แต่ก็กลัวเขาจะทะเลาะกับกิจจาขึ้นมาอีก ทำได้เพียงมองบุริศร์เดินออกไปสักพักหนึ่ง
กิจจามองเห็นบุริศร์ออกไป ถึงจะกระโดดออกจากอ้อมกอดของนรมน และกล่าวด้วยความเกรงใจว่า:“หม่ามี้ ผมไม่เป็นอะไรแล้ว ไม่ปวดท้องแล้วครับ”
“ไม่เจ็บแล้วหรือ?”
บุริศร์ถูบนร่างกายของนรมนเหมือนเด็กคนหนึ่ง สองมือเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข
นรมนรู้สึกเขินอายเล็กน้อย กระซิบว่า:“ลูกๆอยู่นะ”
“งั้นพวกเรากลับห้อง”
ตอนนี้บุริศร์หวังว่าจะได้มีพื้นที่ส่วนตัวกับนรมน
แต่นรมนกลับกล่าวอย่างลังเลใจ:“วันนี้กมลวิ่งออกไป เหงื่อออกทั้งตัว ฉันกลัวว่าเธอจะเป็นไข้ขึ้นมากลางดึก ไม่วางใจถ้าจะออกไปจากที่นี่”
ได้ยินนรมนพูดแบบนี้ บุริศร์ห่อเหี่ยวเล็กน้อย
“งั้นคุณต้องปลอบโยนผมนะ”
“คุณไม่ใช่เด็กนะ”
นรมนรู้สึกว่าบุริศร์เหมือนเด็กมากขึ้นไปทุกวัน
บุริศร์ไม่สนว่าเธอจะคิดอย่างไร กระซิบว่า:“ถึงแม้ผมจะไม่ใช่เด็ก แต่ผมก็เป็นผู้ชายของคุณ ผมรีบกลับมากลางดึก คุณทำกับผมแบบนี้หรือ? หือ?”
พูดจบ เขาก้มหน้าลงทันที จูบลงไปบนริมฝีปากของนรมนเบาๆ เหมือนแมลงปอสัมผัสบนผิวน้ำ แต่กลับทำให้แก้มทั้งสองข้างของนรมนแดงขึ้น
มองหญิงงามคนนี้ บุริศร์อดใจไม่ไหวก้มลงไปจูบนรมนอีกครั้ง
ทั้งสองคนกอดจูบกัน อุณหภูมิรอบกายสูงขึ้นฉับพลัน
เมื่อการจูบจบลง ทั้งสองหายใจหอบ
นรมนเหมือนดอกท้อผลิบาน ใบหน้าอิ่มเอิบไปด้วยอารมณ์รัก ความรู้สึกรักและทะนุถนอมของบุริศร์แผ่ไปรอบๆ มีความซาบซึ้งเป็นพิเศษ ถ้าไม่เพราะกังวลลูกๆในห้อง และถ้าไม่เพราะร่างกายของนรมนไม่สะดวก มีความเป็นไปได้มากว่าจะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
บุริศร์อุ้มเธอขึ้นมาวางบนเตียงข้างๆ ตนเองใส่รองเท้าแตะขึ้นมาบนเตียง โอบกอดนรมนเอาไว้ในอ้อมแขน
นรมนดิ้นเล็กน้อย
“เตียงนี้เล็ก คุณนอนตรงนี้จะไม่สบายตัวนะ”
“ไม่เป็นไร เบียดกันอบอุ่นดี”
บุริศร์ไม่สนใจสักนิดเดียว แถมยังกอดนรมนแน่นมาก
นรมนสามารถสัมผัสได้ถึงร่างกายของเขาที่ขึงตึงและอึดอัด ตนเองกลับไม่สามารถผ่อนคลายให้เขา เธอกระซิบว่า:“คุณจะไปจัดการตนเองไหม?”
“นอน!”
บุริศร์ขานรับด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เห็นได้ชัดว่าต้องการหลีกเลี่ยงหัวข้อนี้
นรมนยิ้มบางๆ ไม่พูดอะไรอีก เธอซบลงบนหน้าอกของเขา ฟังเสียงหัวใจเต้นที่ทรงพลัง อยู่ดีๆก็รู้สึกปลอดภัยเป็นพิเศษ
“ตอนผมเพิ่งจะกลับมาด้านนอกไม่มีบอดี้การ์ดอยู่ คุณกับกิจจาวางแผนแบบนี้อีก แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
เดิมทีบุริศร์ไม่คิดจะถาม แต่บอดี้การ์ดด้านนอกยังไม่กลับมา ทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยวางใจ
ในตอนนี้นรมนก็ไม่ปิดบังเขา เล่าเรื่องข้อความมือถือให้ฟัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนช่วงบ่ายที่ตนเองเข้าใจผิดว่าตุลยาเป็นคนที่คอยติดตามเธอ
บุริศร์ฟังมาถึงตรงนี้ คิ้วขมวดแน่นทันที
“คุณก็ใจกล้าเกินไป ทำไมถึงไม่บอกผม ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณและลูกๆจะทำอย่างไร?”
“ฉันจะไม่กลัวถูกดักฟังมือถือหรือไง?ก็ไม่รู้ว่าจะส่งข้อความหาคุณได้อย่างไร จู่ๆก็พบคนน่าสงสัย จึงอยากไปตามหาคำตอบ ใครจะรู้ว่าเป็นเรื่องเลอะเทอะ เพียงแต่ก่อนคุณจะกลับมา มีร่างแวบผ่านประตูห้อง เพราะเหตุนี้บอดี้การ์ดจึงรีบไล่ตามไป”
นรมนกล่าวเรื่องนี้ สีหน้าของบุริศร์เคร่งขรึมขึ้นมาทันที
“ใคร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...