แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 228

บทที่ 228 ผู้หญิงของฉันฉันไม่รักแล้วใครจะรัก

นรมนรีบไปตรงหน้ากิจจากับกมล

กมลค่อนข้างหลับสนิท ไม่ค่อยรู้สึกตัวมาก แต่กิจจาค่อนข้างตื่นง่าย เมื่อนรมนเข้ามา เขาลืมตาขึ้นทันที

“หม่ามี้ เกิดอะไรขึ้น?”

“ชู่ว——”

นรมนห้ามไม่ให้กิจจาพูด ให้เขารีบใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย และพากมลเข้าไปในห้องด้านใน

กิจจาสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดของนรมน และเสียงกรอบแกรบจากด้านนอกก็ทำให้กิจจารู้สึกกังวลขึ้นทันที

“คนร้ายหรือครับ?”

“น่าจะใช่!”

นรมนลดเสียงเบา อุ้มกมลขึ้นมาพร้อมกับผ้าห่ม จากนั้นอุ้มเข้าไปในห้องด้านใน

ดวงตาของกิจจากลอกไปมา จากนั้นวิ่งเข้าไปในห้องน้ำอย่างกะทันหันใช้กะละมังรองน้ำเย็นยกออกมา

“ลูกจะทำอะไร?”

นรมนเพิ่งจะออกมาก็มองเห็นกิจจากำลังยกกะละมังรองน้ำออกมาอย่างยากลำบาก เธอรีบไปตรงหน้าทันที

กิจจาชี้ไปที่กะละมัง จากนั้นชี้ไปที่ตำแหน่งบนประตู นรมนเข้าใจทันที

“ลูกกำลังจะบอกว่าให้เอากะละมังวางบนประตู?”

กิจจารีบพยักหน้า

“คืนนี้อากาศค่อนข้างเย็น”

ประโยคนี้ทำให้นรมนรู้ว่า ที่แท้กิจจาก็เจ้าเล่ห์ไม่เบา

เธอย่องเข้าไป ปีนขึ้นบนม้านั่งและวางกะละมังไว้บนประตู จากนั้นถอยหลังเงียบๆเข้าไปในห้องกับกิจจา

กิจจากระซิบถาม:“หม่ามี้ ถ้าคนๆนั้นเข้ามาพวกเราจะทำอย่างไรกันดี?”

“หยิบอะไรได้ข้างตัวก็หยิบออกมา ขอเพียงแค่มันกล้าเข้ามา พวกเราจะพยายามตีมัน จนกว่ามันจะหนีไป”

นอกจากวิธีการที่โง่เขลานี้ นรมนไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรอีก

ตอนนี้เธอหวังว่าจะสามารถโทรหาบุริศร์หรือพฤกษ์ได้ แต่น่าเสียดายที่เธอแกะมือถือออก และทิ้งไว้ในห้องของตนเอง

วันนี้เธอเห็นอันตรายเข้ามาใกล้ แต่เธอกลับไม่มีปัญญาปกป้องลูกๆได้ ในตอนนี้นรมนรู้ว่าตนเองไร้ค่าจริงๆ

“พวกลูกๆอยู่ข้างในสักพักอย่าออกไปไหน เข้าใจไหม?”

นรมนตัดสินใจออกมารอด้านนอก ไม่ว่าอย่างไรจะไม่ยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับลูกๆ

กิจจาไม่ยอมตกลงแต่โดยดี นรมนเอ่ยเสียงเบา:“ลูกลองคิดดูนะ ร่างกายของกมลไม่แข็งแรงมากๆ ไม่สามารถเกิดอะไรขึ้นได้ กิจจา นี่คือความรับผิดชอบที่ใหญ่หลวง ลูกจะต้องดูแลกมลให้ดี ลูกไม่ได้รับปากกับกานต์หรอกหรือ ว่าจะดูแลกมลให้ดี?”

“แต่ผมรับปากกับพี่ใหญ่แล้วว่าจะดูแลหม่ามี้”

กิจจารู้สึกยุ่งเหยิงเล็กน้อย

นรมนลูบศีรษะของเขาและกล่าวด้วยรอยยิ้ม:“ไม่เป็นไร หม่ามี้โตแล้ว ต้องไม่เป็นไรแน่นอน ขอเพียงลูกปกป้องน้องสาวให้ดี หม่ามี้ไม่มีทางเป็นอะไรหรอก”

“แต่ว่า……”

“เอาล่ะ คนข้างนอกใกล้จะเข้ามาแล้ว เงียบไว้”

หูของนรมนมีความไวมาก

เธอรีบพากิจจาเข้าไปในห้อง ส่วนตนเองถือที่เขี่ยบุหรี่เอาไว้ในมือ เอาไว้ข้างหลังเผื่อกรณีฉุกเฉิน

เสียงฝีเท้าก้าวเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนกระทั่งกลอนประตูค่อยๆหมุน

หัวใจของนรมนเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นออกมา เธอกำที่เขี่ยบุหรี่ไว้แน่น กลั้นลมหายใจ บนหน้าผากกลับมีเหงื่อเย็นๆผุดออกมา

ภายใต้ความพยายามของคนด้านนอกประตู ค่อยๆไขกลอนออกช้าๆ

ทันใดนั้นเองประตูก็ถูกคนด้านนอกเปิดออก

“ซ่า”กะละมังน้ำเย็นเทลงบนตัวของคนที่เข้ามา

นรมนมองเห็นไม่ชัดเจนว่าคือใคร เมื่อมองเห็นกะละมังเทลงบนตัวของคนที่เข้ามา รีบนำที่เขี่ยบุหรี่ในมือทุบลงบนศีรษะของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

“แกเสร็จฉันไอ้คนชั่ว!”

เธอลงมืออย่างรวดเร็วและแม่นยำ!

อีกฝ่ายส่งเสียงร้อง เมื่อกำลังคิดจะหลบหนี นรมนเท้าลื่น มองเห็นว่ากำลังจะล้มลง อีกฝ่ายรีบพยุงเอาไว้

ในจังหวะนี้ ที่เขี่ยบุหรี่ในมือของนรมนทักทายลงไปบนหน้าผากของอีกฝ่าย

“โอ้ย——”

อีกฝ่ายส่งเสียงออกมาอย่างหดหู่ เลือดสดๆพรั่งพรูออกมาทันที

นรมนไม่กล้าหยุด เธอยกเท้าขึ้น เตะผ่าหมากของฝ่ายตรงข้ามทันที ท่านี้แทบจะทำให้อีกฝ่ายล้มลง

ทันใดนั้นเอง อีกฝ่ายเอื้อมมือมาจับขาของนรมนเอาไว้ และเปล่งเสียงออกมา

“นรมน ผมเอง!”

เสียงที่คุ้นเคยทำให้นรมนชะงักงันไปเล็กน้อย

อีกฝ่ายรีบเปิดไฟ

นรมนมองเห็นบุริศร์ที่กำลังจนตรอกตรงหน้า รู้สึกมึนงงทันที

ทำไมถึงเป็นเขา?

บุริศร์อยู่ในสภาพเหมือนลูกหมาตกน้ำ เปียกตั้งแต่หัวจนเท้า จนตรอกสุดๆ จุดเด่นชัดที่สุดคือรอยแผลบนหน้าผาก เลือดหยดลงมา จนคนที่มองเห็นรู้สึกหน้ามืด

“ทำไมถึงเป็นคุณ บอกว่าไม่ให้คุณกลับมาไม่ใช่หรือ?”

หลังจากนรมนมองเห็นชัดเจนว่าเป็นบุริศร์ เธอรู้สึกตกใจมาก รีบทิ้งที่เขี่ยบุหรี่ในมือออก หันไปหาชุดปฐมพยาบาลมาให้เขา

บุริศร์ร้องไห้ไม่ออก

เขาคาดไม่ถึง ตนเองกลับมากลางดึก จะได้รับการปฏิบัติที่ป่าเถื่อนเช่นนี้

“นี่พวกคุณทำอะไรกัน? บอดี้การ์ดหน้าประตูล่ะ?”

บุริศร์เห็นที่เขี่ยบุหรี่ที่นรมนทิ้งไป ด้านบนยังมีเลือดของตนเองเปื้อนอยู่ รู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมาฉับพลัน ยิ่งรู้สึกเจ็บมากกว่าเดิม

ผู้หญิงคนนี้ลงมือได้โหดเหี้ยมจริงๆ เกือบทำให้สมองของเขากระทบกระเทือนไปแล้ว

ตอนนี้นรมนจะมีเวลาไปอธิบายให้บุริศร์ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นได้อย่างไร เธอรีบหยิบชุดปฐมพยาบาล และกล่าวอย่างตึงเครียด:“คุณรีบเข้ามา ด้านนอกอากาศหนาว เอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยน ฉันจะพันแผลให้คุณ เดี๋ยวเป็นบาดทะยัก ”

บุริศร์เห็นเธอตึงเครียดเช่นนี้ จึงไม่ถามซักไซ้ ยิ่งไปกว่านั้นน้ำเย็นที่เปียกปอนไปทั่วตัวช่างหนาวจริงๆ เขาอดตัวสั่นไม่ได้

บุริศร์สอบสวนด้วยรอยยิ้มจางๆ

กิจจามองเห็นใบหน้าของบุริศร์มีรอยยิ้ม จึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นวิ่งออกมาตอบด้วยความภาคภูมิใจ:“ผมเป็นคนวางกะละมังไว้บนประตู!ผมแค่คิดว่าคืนนี้อากาศเย็น ถ้าคนร้ายเข้ามา ให้เขาได้ลิ้มรสความหนาวเข้าไปถึงกระดูกก่อน เป็นไงครับ?แด๊ดดี้ ผมฉลาดไหม?”

พูดจบก็กระโดดไปมาตรงหน้าบุริศร์ หวังจะได้รับคำชมเชยจากบุริศร์

บุริศร์ดึงหูของเขาและกล่าวว่า:“ไอ้ตัวดี ที่แท้ก็เป็นความคิดของแก แกรู้ไหมว่าน้ำเย็นในกะละมังเกือบทำให้ฉันหนาวเข้าไปถึงกระดูก?”

“โอ้ยๆๆ แด๊ดดี้ ไว้ชีวิตผมด้วย ผมไม่รู้ว่าเป็นแด๊ดดี้!”

“นั่นก็ไม่ได้ เรื่องดีๆไม่รู้จักจำ ชอบทำแต่เรื่องไม่ดี แกบอกมา……”

บุริศร์บ่นกระปอดกระแปดเสียงดัง

กิจจารู้สึกหดหู่

“หม่ามี้ ช่วยด้วย!”

เขาเริ่มขอความช่วยเหลือจากนรมน

นรมนหันไปวางชุดปฐมพยาบาล สองพ่อลูกก็หยิกกันขึ้นมา ทำให้เธอตกใจเล็กน้อย

“บุริศร์ คุณทำอะไร? กิจจายังเป็นเด็ก ทำไมคุณป่าเถื่อนแบบนี้?”

นรมนรีบช่วยกิจจาออกจากมือของบุริศร์

กิจจาลูบใบหูของตนเอง กล่าวอย่างไม่ยินยอมว่า:“แด๊ดดี้ลำเอียงเกินไป เมื่อกี้หม่ามี้บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ แด๊ดดี้ก็ไม่พูดอะไร แถมยังชมว่าทำดีมาก แต่ทำไมถึงตาผม ผมกลับถูกปฏิบัติแตกต่างกัน?แท้จริงแล้วผมเป็นลูกแท้ๆของแด๊ดดี้หรือเปล่า?”

บุริศร์เหลือบมองเขา เอ่ยถามอย่างเย็นชา:“แกเปรียบเทียบกับหม่ามี้ได้หรือ?”

“ทำไมจะไม่ได้?”

กิจจาเถียงด้วยเหตุผลอย่างไม่ยอมแพ้

บุริศร์มองเขาและถามว่า:“แกเป็นผู้หญิง?”

“ไม่ใช่!”

“แกเป็นเมียของฉัน?”

“ก็ไม่ใช่!”

“งั้นแกมีสิทธิ์อะไรให้ฉันปล่อยแกไป?”

คำพูดของบุริศร์กระแทกใจของเขาอย่างจัง

ใบหน้าเล็กๆของกิจจายับย่นเป็นอย่างยิ่ง กล่าวด้วยความน้อยใจสุดๆ:“แต่ผมคือลูกชายของแด๊ดดี้!”

“ลูกชายโตขึ้นก็เป็นคนอื่น มีเพียงเมียที่ยังเป็นของตนเอง ฉันไม่รักเมียของฉันแล้วใครจะรัก?แกเป็นผู้ชาย ฝึกฝนทักษะถึงจะถูกต้อง เหมือนของเล่นที่เด็กผู้หญิงชอบเล่นพวกนี้ ต่อไปต้องหลีกเลี่ยง”

บุริศร์พูดจบไม่สนใจว่ากิจจาจะคิดอย่างไร เขาหันไปบอกนรมนว่า :“คุณปล่อยเขาลงเถอะ ผมไม่ตีเขาแล้ว อีกอย่าง เด็กผู้ชายต้องถูกตีจนถึงจะกลายเป็นผู้ชาย”

“แง้”ในที่สุดกิจจาก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา ทำให้นรมนรู้สึกสงสารมาก

เธอเหลือบมองบุริศร์และกล่าวว่า:“คืนนี้คุณนอนคนเดียวนะ”

พูดจบเธออุ้มกิจจาเข้าไปในห้อง ปล่อยให้บุริศร์สับสนท่ามกลางสายลม

นี่มันอะไรกัน?

เขาได้รับบาดเจ็บขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย