แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 233

“พวกเจ้า พวกเจ้าอย่าลืมนะ ตอนที่เสี่ยวปิงอยากจะพาพวกเจ้าไปปลูกผัก เป็นพวกเจ้าที่ดูถูกและปฏิเสธไปเอง ทำไม?ในเวลานี้พวกเจ้ากลับบอกว่าเสี่ยวปิงอกกตัญญูกัน?ใครอกกตัญญูกันแน่ ในใจของพวกเจ้าคิดไม่ได้เลยหรือ?”

ไม่ต้องรอให้ลั่วเสี่ยวปิงพูด ผู้ใหญ่บ้านจางเต๋อหวั่งก็พูดอย่างโกรธเคืองด้วยใบหน้าเขียว

เมื่อจางเต๋อหวั่งกล่าวเช่นนี้ สีหน้าของหลายคนก็รู้สึกผิดเล็กน้อย

แต่ก็มีบางคนที่ไม่ยอมแพ้ พูดว่า “ผู้ใหญ่บ้าน ตอนนั้นพวกเราไม่รู้นี่ว่าของพวกนั้นจะสามารถปลูกผักในฤดูหนาวได้จริงๆไม่ใช่หรือ?”

“เหอะ?ไม่รู้?ยังมีหน้ามาพูดอีก” สีหน้าของจางเต๋อหวั่งไม่สู้ดี “วันนั้นพวกเจ้าเป็นคนเลือกเอง วันนี้พวกเจ้าไม่มีสิทธ์จะมาบังคับให้นางรับปาก นอกจากนางจะเต็มใจเอง ไม่อย่างนั้นพวกเจ้าใครก็ห้ามคิดจะใช้คำพูดหน้าไม่อายพวกนั้นมาบังคับนาง”

จางเต๋อหวั่งเป็นผู้ใหญ่บ้านและคำพูดของเขาค่อนข้างทรงพลัง

ชาวบ้านหลายคนหงอไป แต่ชาวบ้านบางคนกลับยังไม่ยอมแพ้

จางเต๋อหวั่งเป็นคนแก่ที่ผ่านโลกมามาก ทำไมจะมองไม่เห็นแผนการในใจของพวกเขา?

ดังนั้นเขาจึงเตือนอย่างเย็นชาว่า “ใครก็อย่าคิดจะเล่นลูกไม้อะไรทั้งนั้น ไม่อย่างนั้นพวกเจ้าจะถูกไล่ออกจากหมู่บ้าน”

การขับไล่ออกจากหมู่บ้านเป็นสิ่งที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นี่ไม่กล้าที่จะคิด

เพราะถ้าหากพวกเขาถูกไล่ออกจากหมู่บ้านจริงๆ ก็เท่ากับว่ารอความตาย

ใครจะไม่อยากมีชีวิตอยู่?

แน่นอนว่าก็ยังมีคนอย่างแม่หม้ายหลี่อยู่

นางรู้สึกว่าลูกของนางเป็นซิ่วฉาย ฐานะนั้นย่อมเหนือกว่าคนอื่น ดังนั้นนางจึงไม่ใส่ใจกับคำขู่ของผู้ใหญ่บ้าน

ในเวลานั้นเองก็พูดว่า“พวกเราไปบังคับนางตรงไหนกัน?ผู้ใหญ่บ้านท่านคำพูดของท่านต้องมีมโนธรรมหน่อยนะ ทำไมท่านถึงกินเนื้อได้ พอพวกเราดื่มน้ำแกงบ้างถึงไม่ได้ล่ะ?”

“อีกอย่าง นางถามคนอื่นว่าต้องการจะปลูกผักหรือไม่ แต่ไม่ได้ถามครอบครัวของพวกเราเลย ถ้านางถาม ข้าก็คงจะตอบตกลงตั้งแต่แรก จะรอให้ถึงวันนี้ทำไมกัน?”

คำพูดของแม่ม่ายหลี่ช่างไร้ยางอายจริงๆ

ทำไมตอนนั้นลั่วเสี่ยวปิงไม่ถามครอบครัวของพวกเขาว่าต้องการจะปลูกผักหรือไม่ทุกคนรู้แก่ใจดี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวของพวกเขากับลั่วเสี่ยวปิงย่ำแย่แค่ไหน ตอนแรกที่ลั่วเสี่ยวปิงพูดถึงการปลูกผัก ก็เพียงเพื่อขอบคุณชาวบ้าน

ทำไมต้องขอบคุณ?นั่นไม่เพราะเรื่องที่ชาวบ้านออกแรงช่วยนางตามหาลูกหรือ?

แม้ว่าในความเป็นจริง ชาวบ้านจะออกแรงหรือไม่ก็ไม่ต่าง แต่ลั่วเสี่ยวปิงก็รู้สึกขอบคุณเช่นกัน และหลังจากที่ทุกคนปฏิเสธ นางก็ยังคงส่งเนื้อให้ครอบครัวของทุกคนเพื่อเป็นการขอบคุณ

แต่ครอบครัวของแม่หม้ายหลี่ ตอนนั้นอย่าพูดถึงเรื่องช่วยเหลือเลย ตอนนั้นแม่หม้ายหลี่มั่นใจมากว่าในหมู่บ้านว่าต้องหาเด็กไม่เจอแน่ ตอนนั้นยังพูดอย่างได้ใจอีก และทุกคนก็ไม่ได้ความจำเสื่อม ยังจำได้ดี

พอมาวันนี้ กลับพูดคำพูดไร้ยางอายพวกนี้ออกมา

จางเต๋อหวั่งเกือบจะโมโหจนตากหงายกับคำพูดของไร้ยางอายของแม่หม้ายหลี่ ดีที่ลั่วเสี่ยวปิงเห็นก่อน จึงรีบก้าวไปข้างหน้าประคองจางเต๋อหวั่ง

เมื่ออั้นหวู่เห็นอย่างนั้น เขาก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างเงียบๆ แล้วประคองจางเต๋อหวั่งแทนลั่วเสี่ยวปิง

ลั่วเสี่ยวปิงจับชีพจรของจางเต๋อหวั่ง และรู้ว่าเลือดลมของจางเต๋อหวั่งกำลังพลุ่งพล่าน ดังนั้นจึงโล่งใจ

ในเวลานี้ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะให้ยา ดังนั้นลั่วเสี่ยวปิงจึงแอบหยิบเข็มเงินออกมา แล้วแกล้งทำเป็นว่าเอามันออกจากแขนเสื้อ และฝังเข็มตรงจุดหนึ่งบนร่างกายของจางเต๋อหวั่ง

จางเต๋อหวั่งแค่รู้สึกชาตรงนั้น จากนั้นเขาก็รู้สึกสดชื่น และแววตาของเขาก็ซับซ้อนมากขึ้นเมื่อเขามองไปที่ลั่วเสี่ยวปิง

คนอย่างลั่วเสี่ยวปิง ไม่ใช่สิ่งที่จะยุ่งด้วยจริงๆ

ลั่วเสี่ยวปิงไม่รู้ว่าจางเต๋อหวั่งกำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อเห็นว่าจางเต๋อหวั่งไม่เป็นไร ลั่วเสี่ยวปิงก็วางเข็มเงินในมือแล้วมองไปที่แม่หม้ายหลี่อย่างเย็นชา

อีกอย่าง นางก็ไม่มีเวลาจัดการกับคนพวกนี้จริงๆ

อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ ลั่วเสี่ยวปิงยังพูดอีกว่า “เรื่องการปลูกผักในฤดูหนาวข้าคงให้พวกเจ้าทำด้วยไม่ได้ แต่ข้ามีโรงงานที่จะเปิดเร็วๆนี้ และถึงเวลานั้นข้ายังต้องการคน ข้าสามารถรับประกันได้ว่าคนที่เข้ามาในโรงงานแล้วตั้งใจทำงาน ค่าแรงจะไม่ต่ำกว่าในเมือง ดังนั้นถ้าไม่มีเรื่องอะไรทุกคนได้โปรดกลับไปก่อน”

ทันทีที่ลั่วเสี่ยวปิงพูดแบบนี้ ทุกคนก็ฉายแววดีใจ บางคนก็ยากที่จะเชื่อ “เจ้าพูดจริงหรือ?”

ลั่วเสี่ยวปิงพูด “แน่นอน ผู้ใหญ่บ้านเป็นพยาน”

จางเต๋อหวั่งเชื่อใจลั่วเสี่ยวปิง เมื่อได้ยินว่าลั่วเสี่ยวปิงจะเปิดโรงงานและรับสมัครคน เขาก็มีความสุขมาก รีบพูดว่า “ตกลง ข้าเป็นพยานเรื่องนี้แล้ว”

เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

"ไม่รู้ว่าโรงงานของเสี่ยวปิงจะรับสมัครคนเมื่อไหร่กัน?"

“โรงงานของเสี่ยวปิงรับสมัครคนกี่คนหรือ คนนั้นบ้านข้าเข้าไปได้ไหม”

"โรงงานของเสี่ยวปิงทำอะไรหรือ ข้าทำได้หรือไม่?"

ทุกคนแย่งกันพูด ลานกลางก็จอแจขึ้นอีกครั้ง

ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่รอให้ทุกคนเงียบอย่างเงียบๆ

เมื่อเห็นว่าลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้พูดเป็นเวลานาน ในที่สุดทุกคนก็สงบลงแบบความรู้สึกช้า และทุกคนก็มองดูลั่วเสี่ยวปิงตาปริบๆ

“ครั้งนี้รับคนไม่มาก จะรับสมัครเมื่อใหร่ผู้ใหญ่บ้านจะบอกทุกคนเอง ส่วนการรับสมัครในครั้งนี้ ไม่จำกัดชายหญิง เพียงแค่ทำงานได้จริง ก็รับหมดเมื่อถึงเวลาข้าจะมาบอกรายละเอียดทุกคนอีกครั้ง”

เดิมทีแค่พูดเพื่อปลอบใจ แต่จุดสนใจของทุกคนคือคำพูดของลั่วเสี่ยวปิงที่ว่ารับคนไม่มาก ทุกคนจึงร้อนใจขึ้นมาทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง