แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 234

“เสี่ยวปิง ครอบครัวของพวกเราเป็นมือดีในการทำงาน เจ้าจ้างเราได้ไหม?”

“ครอบครัวเจ้าหน้าใหญ่ใช่ไหม? เสี่ยวปิงก็บอกอยู่ว่ารับสมัครคนไม่มากนัก แล้วเจ้ายังอยากให้คนทั้งบ้านเจ้ายัดเข้าไปหมด หน้าของเจ้าคงจะตรงข้ามกับก้นของเจ้าสินะ”

“นี่!ก้นของเจ้าอยู่ที่หน้าตางหาก ปากของเจ้าก็อยู่ที่ก้นใช่ไหม ถึงพูดได้เหม็นขนาดนี้”

“...”

เพื่อที่จะแย่งชิงจำนวนตำแหน่งงานที่ยังไม่ที่รู้ ตรงนั้นจึงวุ่นวายขึ้นมาทันที กระทั่งมีชาวบ้านบางคนจะลงมือลงไม้กัน

จางเต๋อหวั่งเห็นชาวบ้านเป็นแบบนี้ สีหน้าของเขาก็เขียวปัด

เขาพยายามจะหยุด แต่เพื่อผลประโยชน์ทุกคนต่างไม่ยอมกัน จางเต๋อหวั่งร้อนรนจนได้แต่มองดูลั่วเสี่ยวปิง

“นี่เสี่ยวปิง เจ้าดูสินี่มัน…” จางเต๋อหวั่งมีสีหน้าลำบากใจ

ลั่วเสี่ยวปิงส่ายหัวเล็กน้อย บ่งบอกว่าไม่เป็นไร จากนั้นจึงมองไปที่ทุกคน แล้วพูดต่อไปโดยไม่สนใจว่าพวกเขาจะได้ยินหรือไม่ “ในอนาคตข้าจะทยอยเปิดโรงงาน ดังนันความต้องการกำลังคนก็มีไม่น้อย แน่นอน นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะใช้ทุกคน อย่างแรกเลย คนนิสัยไม่ดีโรงงานข้าไม่ต้องการแน่นอน นอกนั้นทุกคนล้วนมีโอกาส”

ข้อเท็จจริงก็ได้พิสูจน์ว่าถึงแม้ว่าคนเหล่านี้จะโต้เถียงและต่อสู้กันจนเกือบจะนองเลือด แต่พวกเขาก็ใส่ใจผลประโยชน์ของตนเองมากที่สุดเสมอ

เพราะทันทีที่ลั่วเสี่ยวปิงพูดคำแรก ไม่ว่าจะเป็นการทะเลาะวิวาทหรือการต่อสู้ ทุกอย่างก็เงียบไปในทันที และทุกคนก็ตั้งใจฟังสิ่งที่ลั่วเสี่ยวปิงพูด

ความเร็วนั้นเร็วมาก พฤติกรรมก็เป็นไปในทางเดียวกัน แม้แต่ลั่วเสี่ยวปิงที่กำลังพูดอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงในใจ

และหลังจากที่ทุกคนได้ยินลั่วเสี่ยวปิงบอกว่าคนที่นิสัยไม่ดีจะไม่รับแล้ว ในที่นั้นจึงไม่มีใครส่งเสียงออกส่งเดชอีก เพราะพวกเขากลัวจะถูกมองว่าเป็นคนนิสัยไม่ดี

ไม่ว่าในครอบครัวจะมีคนมากหรือน้อย แต่ทุกคนก็พอใจกับการจัดการของลั่วเสี่ยวปิงมาก ดังนั้นทุกคนจึงไม่กล้ารบกวนลั่วเสี่ยวปิงอีกต่อไป แล้วพวกเขาทั้งหมดจากไป

อันที่จริงสำหรับพวกเขาแล้ว การปลูกผักไม่ใช่เป้าหมาย สามารถหาเงินเลี้ยงชีพได้คือเป้าหมายสูงสุด

และในบรรดาคนที่จากไป แม่ม่ายหลี่ก็รวมอยู่ด้วย

อันที่จริง แม่หม้ายหลี่ไม่ได้สนใจที่ลั่วเสี่ยวปิงพูดเกี่ยวกับการเปิดโรงงาน เพราะนางเป็นแม่ของซิ่วฉ่าย และในอนาคตนางจะเป็นแม่ของผู้ผ่านการสอบรับราชการระดับชนบท ฐานะสูงส่ง จะทำงานให้คนอื่นได้ที่ไหน?

เหตุผลที่แม่ม่ายหลี่ไม่พูดก่อความวุ่นวายอะไรขึ้นมาอีก นั่นเป็นเพราะนางมีความคิดอื่น

ดังนั้นหลังจากออกมาจากทางลั่วเสี่ยวปิง แม่หม้ายหลี่ก็ตรงกลับบ้านตัวเองอย่างรวดเร็ว

สามีของแม่หม้ายหลี่ได้ทิ้งห้องไว้ให้นางสามห้อง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สร้างจากอิฐสีน้ำเงิน แต่ก็แข็งแรงกว่าบ้านอื่นๆ

โดยปกติ แม่ม่ายหลี่จะไม่เข้าไปในห้องทางซ้ายสุด เพราะนั่นคือห้องหนังสือของเหยียนขวน

แม่หม้ายหลี่คิดว่าดวงของนางไม่ดี และถ้านางไปห้องหนังสือ นั่นจะเป็นการชงดาวเหวินฉวี่

แต่วันนี้แม่หม้ายหลี่กลับไม่อาจสนใจมากได้ ผลักประตูห้องหนังสือออก

ในเวลานี้เหยียนขวนนั่งอยู่หลังโต๊ะหนังสือ ถือพู่กันไว้ในมือ กำลังวาดตาของผู้หญิงบนกระดาษ หากวาดตาเสร็จ การวาดภาพก็จะเสร็จสมบูรณ์

และผู้หญิงในภาพวาดก็ดูเหมือนเงาของลั่วเสี่ยวปิงเล็กน้อย

แต่เมื่อประตูถูกเปิดออกอย่างกะทันหัน มือของเหยียนขวนก็กระตุกด้วยความตกใจ และหมึกก็เลอะบนกระดาษทันที เปื้อนหน้ากระดาษไปครึ่งหนึ่ง

เหยียนขวนโมโหจนเอ็นเขียวปูดตรงกลางหน้าผาก มองไปที่แม่หม้ายหลี่ที่ประตูด้วยความโกรธ “ท่านแม่ นี่เป็นห้องหนังสือ ท่านเข้ามาทำไม? ท่านเป็นแม่หม้าย ไม่กลัวชงดาวเหวินฉวี่หรือ?”

แม่ม่ายหลี่ไม่เห็นความปรารถนาในสายตาของเหยียนขวน เมื่อเหยียนขวนบอกว่าเขาจะไม่แต่งงานกับลั่วเสี่ยวปิง ในใจของนางก็ร้อนรน

“ขวนเอ๋อร์ แม่รู้ว่าลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้ใสสะอาดแล้วยังมีลูกตั้งสองคนอีก การให้เจ้าแต่งกับนางก็เป็นเรื่องที่ลำบากใจ แต่ว่าเจ้าคงไม่ได้เห็นแก่คุณธรรมน้ำใจลืมนางไม่ลงหรอกนะ?”

ว่าแล้วก็พูดอีก “อีกอย่าง ลั่วเสี่ยวปิงนั่นมีความสามารถขนาดไหน? ไม่ต้องพูดถึงว่าตอนที่นางปลูกผักอยู่ที่หมู่บ้านเฉินเจียทำเงินไปมากมาย มาวันนี้ วันนี้พวกเราไปหานางเพราะอยากได้วิธีปลูกผักตอนหน้าหนาวบ้างแต่นางก็ไม่มา แต่นางบอกกับทุกคนว่า นางจะเปิดโรงงานในหมู่บ้าน แล้วจ้างชาวบ้านมาทำงาน”

“ขวนเอ๋อร์ แม่ไม่มีปัญญา ปีหน้าเจ้าก็จะไปสอบแล้ว แต่แม่มีเงินไม่พอ สองปีมานี้บ้านของพวกเราใช้เงินจนหมดแล้ว ถ้าเจ้าแต่งกับลั่วเสี่ยวปิงจริงๆ บ้านของเราก็ไม่ขาดแคลนเงินอีกแล้ว ถึงตอนนั้นนางก็จะส่งเจ้าไปเรียนวิทยาลัยที่ดีกว่านี้ได้ ถ้าเจ้าสอบติด ผู้หญิงแบบไหนยังแต่งเอาเข้าบ้านไมได้? ถ้าหากเจ้าเกลียดนาง ก็หาเหตุผลที่จะหย่ากับนางแล้วแต่งงานใหม่ก็ได้”

คำพูดของแม่หม้ายหลี่ ราวกับเข้ามานั่งอยู่ในใจของเหยียนขวนจริงๆ

ข้อดีของการแต่งงานกับลั่วเสี่ยวปิง ทำไมเขาจะไม่เคยคิด?

ก็เพราะเขาเคยคิด เขาถึงได้อยากแต่งงานกับลั่วเสี่ยวปิงมาก มิฉะนั้นในฐานะที่เขาเป็นถึงซิ่วฉาย จะแต่งงานกับผู้หญิงแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น จะเสียแรงไปกับหญิงมีตำหนิทำไมกัน

“แต่ว่าท่านแม่ อีกแค่หกวันเสี่ยวปิงก็จะแต่งงานแล้ว” ในใจของเหยียนขวนหวั่นไหวนานแล้ว แต่เขาเตือนแม่ม่ายหลี่อย่างหมดกำลังใจ

อันที่จริง เขาแค่อยากให้แม่หม้ายหลี่เปิดทาง ให้เขา ท้ายที่สุดที่เขาพูดเมื่อตะกี้ว่าจะไม่แต่ง ตอนนี้เขาก็ลังเลอยู่ใช่ไหม?

ส่วนเรื่องที่จะแต่งงานในอีกหกวัน เหยียนขวนไม่เชื่อ

ใครที่ไหนอีกหกวันก็จะแต่งงานแล้ว ยังไม่มีการเคลื่อนไหวเลยสักนิด แล้วเจ้าบ่าวก็ยังมาหายตัวไปอีก?

“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องกังวล เจ้าคิดแค่ว่าจะทำยังไงให้ลั่วเสี่ยวปิงพยักหน้าแล้วรับปากว่าจะแต่งกับเจ้าก็พอ”

เมื่อพูดแล้ว แม่หม้ายหลี่ก็ขอให้เหยียนขวนเดินออกจากห้อง แล้วเอนตัวไปข้างๆหูของเขา “แม่บอกเจ้าแล้ว อยากจับผู้หญิงดีๆ พวกเราก็แค่…”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง