แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 354

ชุยเหวินเฉิงตกใจมาก หลังจากยืนยันว่าข้างบนไม่มีชื่อของอานอาน ก็มองไปทางอานอานโดยจิตสำนึก

เห็นอานอานเก็บสายตากลับมา ไม่รู้ก้มหน้าคิดอะไรอยู่ ชุยเหวินเฉิงกำหมัดไว้อย่างแน่น

ในที่สุด ชุยเหวินเฉิงเงยหน้าขึ้นอย่างกล้าหาญ มองไปที่อาจารย์หลายคนนั้น ตะโกนพูดว่า"ข้าสงสัยว่ารายชื่อของพวกเจ้ามีการโกง"

ชุยเหวินเฉิงตั้งใจพูดเสียงดัง ส่งผลให้คนที่ยังไม่ทันได้กลับล้วนได้ยินกันหมด และล้วนล้อมรอบขึ้นมา

อาจารย์ที่ประกาศรายชื่อมีทั้งหมดสามท่าน แซ่จ้าว เฉียน ซุน ตามลำดับ

จ้าวฟูจื่อได้ยินเช่นนี้ก็ถามชุยเหวินเฉิง"เจ้าชื่ออะไร?"

หลังจากชุยเหวินเฉิงพูดชื่อของตัวเองแล้ว จ้าวฟูจื่อก็มองไปที่รายชื่อ และรู้สึกสงสัย"เจ้าอยู่ในรายชื่อ เหตุใดยังมาพูดว่าพวกเราโกง?"

จริงๆชุยเหวินเฉิงก็กลัวมาก แต่เพื่ออานอาน ก็พยายามสงบสติ

มือชี้ไปที่อานอานที่เงียบอยู่ข้างๆ ชุยเหวินเฉิงพูดว่า"ความรู้ของข้าเทียบกับคุณ......น้องชายของข้าไม่ได้ เหตุใดข้าผ่าน แต่น้องชายของข้าถึงไม่ผ่าน"

จ้าวฟูจื่อได้ยินเช่นนี้ มองอานอานที่อยู่ข้างๆ ถามว่า"เจ้าชื่ออะไร?"

"ฉีเจ๋อซวน"อานอานพูดชื่อเต็มของตัวเองออกมา

จ้าวฟูจื่ออาวุโสสุดในอาจารย์หลายท่านนี้ และยังเป็นหนึ่งในอาจารย์ที่ตรวจข้อสอบรอบที่สอง พอได้ยินชื่อนี้ ก็ขมวดคิ้วครุ่นคิดขึ้นมา

ส่วนซุนฟูจื่อไม่ทันรอให้จ้าวฟูจื่อครุ่นคิดออกมาได้ก็พูดอย่างโกรธ"เด็กคนนี้มาจากไหนเนี่ย?อายุน้อยเช่นนี้ก็กล้าพูดโม้แบบนี้หรือ?ถ้าพูดมั่วซั่วเสื่อมเสียชื่อเสียงของสถาบันการศึกษาของเราอีก ข้าจะรายงานให้ผู้อำนวยการ ตัดสิทธิ์เข้ารอบสามของเจ้า"

จ้าวฟูจื่อได้ยินเช่นนี้ ขมวดคิ้วมองไปทางซุนฟูจื่อ แต่ไม่ได้เอ่ยอะไร

อานอานมองซุนฟูจื่อและขมวดคิ้ว"ขออนุญาตถามอาจารย์ขอรับ อะไรคือพูดโม้ขอรับ?"

เสียงอ่อนเยาว์ แต่ใจเย็นมาก ทำให้คนจำนวนมากล้วนถูกเขาดึงดูดความสนใจ

ซุนฟูจื่อไม่พอใจยิ่งนัก"อาจารย์พูดอยู่ เด็กเล็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาพูดแทรก?อายุยังน้อยอยู่เลยก็ฉลาดแกมโกงแบบนี้ แนะนำให้เจ้าอยากเรียนหนังสือต่อเถอะ ไม่เช่นนั้นสุดท้ายก็ส่งผลเสียต่อตัวเจ้าเอง"

ซุนฟูจื่อพูดแบบแรงมาก ถ้าเป็นเด็กคนอื่น บัดนี้คงโดนว่าจนร้องไห้เสียก่อน และจากนี้ไปก็คงสูญเสียความมั่นใจในการเรียนอีก และจะไม่เรียนอีกต่อไป

ใบหน้าของอานอานไม่มีความแปรปรวนใดๆ เพียงจ้องไปที่ซุนฟูจื่อคนนั้น

อาจารย์คนนี้เขาจำได้ว่าเป็นคนที่เก็บข้อสอบ

แม่บอกว่า ถ้าคนร้อนตัว ก็จะพูดเสียงดัง แถมยังจะกะพริบตาบ่อย อาจารย์คนนี้พูดเสียงดังมาก และกะพริบตาบ่อยด้วย

อานอานนึกถึงสำนวนสุภาษิตที่ว่า : วัวสันหลังหวะ

ตอนนี้ซุนฟูจื่อเสมือนวัวสันหลังหวะจริงๆ โดยเฉพาะเมื่อเห็นสายตาของอานอานมองมาที่ตัวเอง เขาก็มีความรู้สึกว่าเขารู้เรื่องทุกอย่าง

มีช่วงวินาทีหนึ่ง เขายังสงสัยว่าตัวเองไม่ได้เผชิญกับเด็กอายุแค่หกขวบ แต่เผชิญกับคนใหญ่คนโตผู้มีความสามารถ

แต่อานอานไม่ได้มองซุนฟูจื่อนานมาก กลับมองไปทางจ้าวฟูจื่อ"ขอสอบถามขอรับ อะไรคือพูดโม้ อะไรคือฉลาดแกมโกง?และอาจารย์ในสถาบันการศึกษาล้วนแนะนำให้นักเรียนอย่าเรียนต่อด้วยวิธีนี้หรือขอรับ"

ตามคำโบราณที่ว่า'ถ้าพูดโม้แล้วไม่รู้จักอาย จะเป็นคนที่ทำอะไรล้วนไม่ได้เรื่อง'

ส่วนฉลาดแกมโกง หมายถึงใช้ความฉลาดในทางคดโกง

ชุยเหวินเฉิงบอกว่าอานอานเก่งกว่าเขา ไม่ได้โม้เลย

ส่วนอานอานถามซุนฟูจื่อว่าอะไรคือพูดโม่ มันก็ไม่เชิงว่าเป็นฉลาดแกมโกง

เมื่อนึกถึงที่นี่ สายตาที่จ้าวฟูจื่อมองซุนฟูจื่อก็มีความไม่สบายใจอยู่ด้วย

เวลานี้ แม้กระทั่งเขายังรู้สึกว่าซุนฟูจื่อถึงเป็นคนที่เสื่อมเสียชื่อเสียงของสถาบันการศึกษา ไม่เช่นนั้นเหตุใดถึงพูดคำพูดที่น่าเกลียดแบบนั้นต่อเด็กที่มีพรสวรรค์ด้านการเรียนล่ะ?

ยกเว้นอานอานและชุยเหวินเฉิงเด็กเล็กน้องคน ไม่มีความเคารพนับถือปรากฎ ยังคงเป็นสีหน้าเหมือนเดิม

ตามจริงแล้ว สาเหตุที่ชุยเหวินเฉิงเป็นเช่นนี้ ก็แค่ทำตามคุณชายของตัวเองเท่านั้น

คุณชายอายุน้อยกว่าตัวเองยังสามารถใจเย็นขนาดนี้ ไม่กลัวอะไร เขาก็ขายหน้าไม่ได้เช่นกัน

สิ่งที่ชุยเหวินเฉิงไม่ทราบคือ ความคิดของตัวเองในตอนนี้ จะนำพาความโชคดีและโอกาสให้กับตัวเองในอนาคต

หราวหยูหลินพยักหน้าใส่อาจารย์ทั้งสามท่าน จากนั้นมองไปทางอานอานอย่างสนใจ อยากจะดูว่าอานอานจะตอบยังไง

เด็กอายุน้อยขนาดนี้ ยังสามารถใจเย็นเช่นนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็น

อานอานสบตาหราวหยูหลินอย่างไม่เกรงกลัว และพูดว่า"ข้าสามารถตอบคำถามได้ต่อหน้าทุกคน"

ความภูมิใจบนใบหน้าของอานอาน แม้กระทั่งนักเรียนที่บรรลุนิติภาวะแล้ว ก็ล้วนรู้สึกเทียบกับเขาไม่ได้

ในเวลานี้ คนที่ได้ดูถูกอานอานในก่อนหน้านี้ล้วนรู้สึกผิดมาก

หราวหยูหลินได้ยินเช่นนี้ เลยพูดว่า"เตรียมกระดาษ หมึก พู่กัน แท่นฝนหมึกให้เขา"

"ท่านหราว ไม่ได้ขอรับ"ซุนฟูจื่อรีบห้าม

ถึงแม้ตอนนี้แค่ปลายฤดูใบไม้ผลิ แต่ซุนฟูจื่อรู้สึกว่าหลังตัวเองถูกปกคลุมด้วยเหงื่อแล้ว

หราวหยูหลินมองไปที่ซุนฟูจื่อ เห็นหน้าผากของซุนฟูจื่อเต็มไปด้วยเหงื่อ อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

และในเวลานี้ อานอานก็อ้าปากพูด"ไม่ต้องขอรับ"

ซุนฟูจื่อเพิ่งโล่งใจลงมาหน่อย แต่กลับได้ยินอานอานพูดว่า"ข้าสามารถท่องคำตอบออกมาได้ขอรับ"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง