คำพูดของอานอาน ทำให้ทุกคนล้วนหายใจเข้าลึกๆ
ท่องคำตอบออกมา!
นี่เป็นเรื่องที่สุดยอดไปถึงไหนเนี่ย?
ถึงแม้คำตอบล้วนเขียนเองทั้งสิ้น แต่ทุกคนในนี้เมื่อเห็นข้อสอบล้วนปวดหัวมาก เขียนตามสิ่งที่ตัวเองเรียนรู้มา พอจบการสอบก็แค่พอนึกออกว่าตัวเองเขียนอะไรไป ใครจะยังสามารถท่องออกมาได้ล่ะ?
และถึงแม้จำได้ว่าตัวเองเขียนอะไรไป ก็ต้องมีจิตใจแข็งแรงมากพอถึงกล้าท่องต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้
เพราะคนที่ยืนอยู่ต่อหน้าเป็นตั้งท่านหราว
ตอนที่ทุกคนตกใจอยู่ หราวหยูหลินก็ได้มองไปที่อานอาน ส่วนอานอานก็มองหราวหยูหลินอยู่
คนหนึ่งสังเกตและเกิดความสนใจ อีกคนหนึ่งมีความมั่นใจในตัว
มองไปมองมา อยู่ๆหราวหยูหลินก็รู้สึกว่าอานอานคุ้นเคยมาก แต่นึกถึงไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อน
คิดไม่ออกก็เลยไม่คิดอีก หราวหยูหลินพูดตรงๆ"ได้ ข้าจะฟังว่าเจ้าเขียนอะไรไป"
ซุนฟูจื่อได้ยินเช่นนี้ก็ยิ่งรู้สึกกังวล
คิดจะห้าม แต่ถ้าตัวเองพูดในเวลานี้ ก็จะถูกสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ ดังนั้นถึงแม้กังวล ก็ทำอะไรไม่ได้
ส่วนอาจารย์สองคนที่เหลือ ตอนนี้ล้วนสังเกตที่อานอาน อยากจะดูว่าอานอานในฐานะที่เป็นเด็กหกขวบจะตอบอะไรออกมาได้
รอบที่สองมีทั้งหมดสามข้อ ข้อแรก มีความคิดอะไรต่อการเรียนรู้
อานอานพูด"ตีหินมีไฟ ถ้าไม่ตีไม่มีแม้แต่ควัน คนเราต้องเรียนรู้ ความรู้ไม่มาหาเราเอง ทุกสิ่งเพิ่งดวงไม่ได้ ความรู้ของคนอื่นนำมาทดแทนความรู้ของตัวเองไม่ได้ ชีวิตวัยรุ่นสั้นมาก ควรรีบเรียนรู้"
หมายความว่า หินเกิดการเสียดสีกันถึงจะเกิดไฟ ถ้าไม่มีการเสียดสีกัน จะไม่มีแม้กระทั่งควัน คนเราก็เช่นกัน ต้องมีการเรียนรู้เท่านั้นถึงจะควบคุมความรู้ได้ ถ้าไม่เรียนรู้ ความรู้ก็ไม่มาหาเปล่าๆหรอก นอกจากเรียนหนังสือแล้ว ยังต้องรู้จักพิจารณา ปฏิบัติให้มาก อย่างนั้นความรู้เหล่านั้นถึงจะกลายเป็นของตัวเอง วัยรุ่นผ่านไปอย่างรวดเร็ว รีบๆใช้โอกาสนี้อ่านหนังสือเธอะ
คำตอบของอานอานทำให้ทุกคนล้วนตกใจมาก
เด็กอายุหกขวบเท่านั้น มีความคิดขนาดนี้ เหลือเชื่อจริงๆ
ข้อที่สอง ความเป็นสุภาพบุรุษต้องเป็นแบบไหน
อานอานตอบมาสี่จุด : สุภาพบุรุษไม่ตำหนิสิ่งที่เป็นจุดด้อยของคนอื่น สุภาพบุรุษไม่บังคับคนอื่นทางสิ่งที่ทำไม่ได้ สุภาพบุรุษไม่บังคับให้คนอื่นทำสิ่งที่ตัวเองไม่ถนัด สุภาพบุรุษไม่ดูถูกสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้
จากนั้นยกตัวอย่างต่างๆมาพิสูจน์
ความคิดที่ชัดเจนเช่นนั้น แม้กระทั่งผู้ใหญ่ก็เทียบเท่าไม่ได้
ตอนที่ทุกคนต่างตกใจอยู่ จ้าวฟูจื่อกลับขมวดคิ้ว
ในเวลานี้ ผู้อำนวยการมา แถมยังมีคนแก่ที่ผมและเคราล้วนขาวหมดมาด้วย
ดูท่าของพวกเขาน่าจะไม่ใช่เพิ่งมา น่าจะแอบดูมานานแล้ว แต่ตอนนี้เพิ่งปรากฏตัว
จ้าวฟูจื่อเดินมาถึงข้างผู้อำนวยการ พูดอะไรอยู่ข้างหูผู้อำนวยการ
ส่วนอานอาน ตอนนี้มองไปทางเว่ยหยวนหมิงที่อยู่ข้างผู้อำนวยการ สีหน้าใจเย็นมาก
ตอนนี้ บรรยากาศค่อนข้างสงบ
หลังจากผู้อำนวยการฟังคำพูดของจ้าวฟูจื่อเสร็จ ก็คุยกับจ้าวฟูจื่อด้วยสีหน้าที่จริงจัง
จากนั้น จ้าวฟูจื่อก็จากไปอย่างเร่งรีบ
หลังจากจ้าวฟูจื่อจากไปได้ไม่นาน ก็มีคนใช้ของสถานบันการศึกษาหลายคนยกโต๊ะและเก้าอี้มาสองอัน จากนั้นวางกระดาษ พู่กัน หมึกและแท่นฝนหมึกไว้บนโต๊ะ
ไม่นาน จ้าวฟูจื่อก็กลับมา ในมือถือกล่องๆหนึ่ง
ผู้อำนวยการเปิดกล่องออก จากนั้นหยิบข้อสอบม้วนหนึ่งออกจากนั้น
ผู้อำนวยการหยิบมาดู จากนั้นก็เรียกชื่อๆหนึ่ง
"ซุนหยุนเหว่ย"
ตอนผู้อำนวยการเรียกชื่อนี้ออกมา ซุนฟูจื่อก็ตัวสั่น เส้นผมถูกปกคลุมด้วยเหงื่อ
เวลานี้ มีนักเรียนอ้วนคนหนึ่งเดินออกมา จากนั้นทำความเคารพใส่ผู้อำนวยการด้วยรอยยิ้มที่ประจบ
"ผู้อำนวยการขอรับ มีเรื่องอะไรหาศิษย์หรือขอรับ"
ลายมือก็เสมือนตัวเจ้าของ ลายมือไม่สวยคนก็ชั่วร้าย คนที่เป็นลายมือแบบน้ เหตุใดถึงสามารถผ่านการคัดเลือกทั่วไป การคัดเลือกรอบแรกและการคัดเลือกรอบสองล่ะ?
นึกว่าเกณฑ์การเข้าของโรงเรียนเขาง่ายขนาดนี้หรือ?
ดูสิว่าที่เขาเขียนมันคืออะไรเนี่ย?
ทั้งหมดแค่สามสิบสองตัวหนังสือจีน เขานี่ก็ดีเนอะ อย่างน้อยผิดไปยี่สิบสามคำ
แม้กระทั่งตัวหนังสือยังจำได้ไม่หมดเลย จะผ่านรอบสองได้อย่างไร?
ผู้อำนวยการพยายามฟื้นสติของตัวเอง เดินมาถึงข้างๆอานอาน พอเห็นลายมือของอานอาน เขาก็รู้ทุกอย่างแล้ว
ผู้อำนวยการไม่ได้พูดอะไร เพียงสังเกตไปรอบๆ จากนั้นสอบถามสถานการณ์บางอย่างกับจ้าวฟูจื่อ ในที่สุดก็ให้คนไปตรวจสอบสถานการณ์การสอบของซุนหยุนเหว่ยในก่อนหน้านี้
ในที่สุดผลสรุปทั้งหมดล้วนชี้ไปที่ซุนฟูจื่อ
การคัดเลือกทั่วไปเป็นการสอบอัตนัย ซุนฟูจื่อก็นำข้อสอบของคนอื่นมาเปลี่ยนกับซุนหยุนเหว่ย และเขียนชื่อของซุนหยุนเหว่ยขึ้นไป
รอบการสอบปากเปล่า ซุนฟูจื่อเป็นอาจารย์คุมสอบ แน่นอนว่าซุนหยุนเหว่ยก็เลยผ่าน
และตอนที่เก็บข้อสอบ ซุนฟูจื่อเห็นว่าอานอานในฐานะที่เป็นเด็กเล็ก สามารถตอบคำตอบแบบนั้นออกมาได้ และคิดว่าเขาเป็นแค่เด็ก เลยทำเหมือนครั้งก่อน แก้ชื่อของอานอานเป็นซุนหยุนเหว่ย
ตอนที่ชุยเหวินเฉิงพูดคัดค้านออกมา ซุนฟูจื่อกลัวว่าเรื่องจะถูกเปิดเผย ถึงได้พูดแบบนั้น
และสิ่งเหล่านี้ สิ่งที่น่าแปลกใจคือซุนหยุนเหว่ยเองไม่ทราบทุกอย่าง ตั้งแต่ต้นจนจบ ซุนหยุนเหว่ยยังนึกว่าตัวเองมีพรสวรรค์ ถึงจะสอบผ่านได้จนถึงรอบนี้
ตอนที่คนในโรงเรียนเอาข้อสอบที่ซุนหยุนเหว่ยทำเองมาดู ทำให้คนรู้สึกจนคำพูดจริงๆ
มันตอบอะไรเนี่ย?จับใจความไม่ได้ หยิ่งยโสมากเกิน และเต็มไปด้วยคำผิด ทำให้อาจารย์หลายคนของโรงเรียนล้วนโมโหจนพูดไม่ออก
สำหรับเรื่องแบบนี้ ผู้อำนวยการไม่ปล่อยอยู่แล้ว
ไล่ซุนฟูจื่อออกไปทันที และให้คนไปลบชื่อของเขาออกจากสำนักงานการศึกษา ให้เขาไม่มีวันได้เป็นอาจารย์อีก พร้อมลบชื่อการผ่านสอบราชการระดับหมู่บ้านของเขาออกไปด้วย
ส่วนคนอย่างซุนหยุนเหว่ย แน่นอนว่าก็ให้เขากลับไปเลย คนที่แม้กระทั่งตัวหนังสือยังรู้ได้ไม่มาก โรงเรียนไม่รับอยู่แล้ว
หลังจากเรื่องนี้ตรวจสอบเสร็จ สิ่งที่โรงเรียนต้องเผชิญนั้นไม่ใช่การสอบรอบสาม แต่เป็นปัญหาของอานอาน......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...