จางเสี่ยวหลิงหยิบขวาน ที่อยู่บนพื้นขึ้นมา กวาดไปทางพี่ชายพี่สะใภ้ของตนเอง และกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันขึ้นว่า “เรื่องการแต่งงานของข้า พวกท่านใครเป็นผู้ที่กำหนดให้แก่ข้า ?”
จางต้าโถวขมวดคิ้วเป็นปม กล่าวตำหนิขึ้นว่า “จะพูดก็พูด เจ้าเอาขวานขึ้นมาทำไมกัน?”
หวังจินเสียกลับไม่สนใจ นางรู้สึกเพียงว่าจางเสี่ยวหลิงแค่เอาขวานมาขู่ เลยกล่าวเยาะเย้ยขึ้นว่า“อย่างไร? เจ้ามาขอบคุณพวกเราที่หมั้นหมายการแต่งงานที่ดีเช่นนี้ให้เจ้าหรือ? จะขอบคุณก็ขอบคุณ เอาขวานมาทำอะไร? นี่ต้องการฟันข้า หรือท่านพี่ของเจ้าล่ะ? ไร้มารยาทสิ้นดี”
แท้จริงแล้ว การที่จางเสี่ยวหลิงมีการงานอะไรทำอยู่ในเมือง มันก็เหมือนกับได้ชีวิตใหม่แล้ว
นางมุ่งมั่นกับการทำงาน ไม่นานก็เป็นที่สนใจดึงดูดของเฉินต้าจ้วงที่ติดต่อกับร้านเมืองแห่งอาหารอยู่บ่อยๆ ส่วนเฉินต้าจ้วงเองก็เป็นที่สนใจของจางเสี่ยวหลิงด้วยเช่นกัน
หลังจากที่รู้ว่า ป้ากุงไม่ได้ใส่ใจอะไรกับการที่นางเคยแต่งงานและมีลูกสาวมาแล้วหนึ่งคน จางเสี่ยวหลิงเลยตอบตกลงแต่งงานเป็นภรรยาให้กับเฉินต้าจ้วง
เรื่องนี้ แน่นอนว่าจางเสี่ยวหลิงไม่มีทางบอกกล่าวพี่ชายและพี่สะใภ้ของตนเองหรอก
ถึงอย่างไรตอนที่ตนเองต้องการความช่วยเหลือ พี่ชายและพี่สะใภ้ก็ปฏิเสธนางให้อยู่ด้านนอกประตู
แต่ผู้ใดจะเคยคิด พี่ชายและพี่สะใภ้เอาเปรียบนางที่แผงลอยไม่ได้ ก็เลยมาเพ่งเล็งเรื่องการแต่งงานของนาง
คิดไม่ถึงเลยว่า พวกเขาจะหาพ่อหม้ายอายุสี่สิบปี ที่ภรรยาตายมาแล้วห้าคนให้กับนางได้
และเรื่องนี้ รอจนถึงพ่อหม้ายผู้นั้นมาที่แผงลอยของนาง นางถึงได้รู้
ประจวบเหมาะกับวันนั้นช่วงที่พ่อหม้ายผู้นั้นมาหานาง พอดีกับ ป้ากุงไปดูจางเสี่ยวหลิงที่ร้านเมืองแห่งอาหารด้วยตนเอง รถไฟชนกันป้ากุงก็โมโหกลับไป
และพ่อหม้ายคนนั้น ก็เป็นคนที่ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้จักว่าเขาเป็นใคร
จูต้าหรงเป็นคนขายเนื้อหมู มีแนวโน้มใช้ความรุนแรง ภรรยาห้าคนก่อนหน้านี้ เล่ากันว่าล้วนถูกเขาตีตาย จนกระทั่งมีคนหนึ่งตอนที่ถูกตีตายยังตั้งครรภ์อีกด้วย
จูต้าหรงพูดอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายว่า ครอบครัวของนางเอาเงินสินสอดไปแล้วยี่สิบกว่าตำลึง
นี่เป็นการหมั้นหมายที่ไหนกัน? นี่มันคือการซื้อขายต่างหาก มันเป็นการผลักนางเข้าสู่ขุมนรก อีกทั้งทำร้ายความสุขของนางที่ไม่ง่ายที่จะได้พบเจอมันด้วย
ภายใต้ความสิ้นหวัง จางเสี่ยวหลิงไร้ซึ่งหนทางแล้ว ถึงได้มาเอาคำแถลงจากพี่ชายพี่สะใภ้
แต่ใครจะรู้ คิดไม่ถึงว่าพี่สะใภ้ที่หน้าไม่อายของนางจะบอกว่านางต้องขอบคุณนาง อีกทั้งพี่ชายของนาง คิดไม่ถึงอีกเหมือนกันว่าจะมีทีท่าเห็นด้วย
พี่ชายพี่สะใภ้แบบนี้ ช่างสะเทือนใจจางเสี่ยวหลิงนัก
“การแต่งงานครั้งแรกข้ายอมทำตามท่านพี่ท่านพ่อ แต่งอีกครั้งข้าจะตามใจตนเอง ตอนนี้ข้าจะแต่งอีกครั้ง เรื่องการแต่งงานก็ควรเป็นข้าตัดสินใจเอง พวกท่านมีสิทธิอะไรมาตัดสินใจให้ข้า ? เรื่องการแต่งงานของข้าพวกท่านมีสิทธิอะไรมายุ่ง?”
ช่วงเวลานี้ จางเสี่ยวหลิงสิ้นหวังหดหู่อย่างแท้จริง
นางไม่สิ้นหวังหดหู่ได้หรือ?
การแต่งงานครั้งแรก ทำให้นางเจ็บปวดยังไม่พออีกหรือ?
วันที่ต้องถูกทุบตีจนมืดฟ้ามัวดินไร้ซึ่งความหวังเช่นนั้น นางรับมันจนพอแล้ว
แต่พี่ชายพี่สะใภ้ของนางทำอะไร? คิดไม่ถึงว่าพวกเขายังต้องการผลักนางเข้าสู่ขุมนรก
ช่วงวินาทีนี้จางเสี่ยวหลิงรู้สึกว่า แสงสว่างของโลกทั้งใบของนางหมดสิ้นไปแล้ว
หวังจินเสียมองจางเสี่ยวหลิง ที่คร่ำครวญจะเป็นจะตาย แต่ก็ยังไม่สนใจดังเดิม “แต่งงานอีกครั้งจะทำตามใจตนเองอะไรกัน เจ้าดูว่ามี่กี่คนกันที่ตัดสินใจเรื่องการแต่งงานของตนเอง ตัดสินใจด้วยตนเองเช่นนั้นเรียกว่าหน้าไม่อาย ล้วนบอกว่าเคารพพี่สะใภ้เหมือนแม่ ข้าช่วยเจ้ามอง ยังเป็นคนที่ดีขนาดนี้ เจ้าไม่ขอบคุณข้าก็ช่างเถิดยังจะมาตำหนิ นี่เจ้าพูดออกไปจะต้องถูกคนหัวเราะเยาะลับหลังแน่”
หวังจินเสียรู้สึกว่าจางเสี่ยวหลิงไม่รู้จักชั่วดีเอาเสียเลย
จางเสี่ยวหลิงมองหวังจินเสียด้วยสายตาเยือกเย็น “งานแต่งที่ดีขนาดนี้ เหตุใดท่านถึงไม่แต่งเสียเองล่ะ?”
หวังจินเสียถึงกับหน้าหงายเงิบ
และเวลาเดียวกัน ลั่วเสี่ยวปิงกับคนในหมู่บ้านก็มาถึง เห็นท่าทางสถานการณ์แบบนี้ นัยน์ตาของลั่วเสี่ยวปิงเลยอึมครึมเล็กน้อย
แต่เมื่อตรวจสอบรอยบาดแผลของจางเสี่ยวหลิงแล้ว รู้ว่าไม่มีอะไรร้ายแรง ลั่วเสี่ยวปิงจึงไม่ได้รีบร้อนจัดการทำแผลให้นาง
แต่จางต้าโถวได้เห็นรอยบาดแผลที่อยู่บนคอจางเสี่ยวหลิงแล้ว ค่อนข้างใจลอยเคว้ง คนทั้งคนถึงกับตัวสั่นระริกเล็กน้อย
จางเสี่ยวหลิงไม่ได้สนใจคนอื่น นางหยิบขวานขึ้นมาอีกครั้ง มองจางต้าโถวด้วยความเกลียดชัง กล่าวว่า “วันนี้ ไม่ท่านฟันข้าให้ตาย ไม่ก็ยกเลิกการแต่งงานนั้นเสีย เอาเงินคืนให้เขาไป ข้ากับท่านตัดความสัมพันธ์กัน ตั้งแต่นี้ไม่เกี่ยวข้องกันอีก”
วินาทีนี้ จางเสี่ยวหลิงตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว
เพราะนางกลัวว่า หากตัดสินใจไม่เด็ดขาดเสียตอนนี้เลย อนาคตก็จะไม่มีความกล้าหาญอีก
เมื่อจางต้าโถวได้ยินคำว่าตัดขาดความสัมพันธ์ เขาเกิดความรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น แต่หวังจินเสียได้ยินว่าต้องเอาเหรียญคืนให้จูต้าหรง นางไม่พอใจทันที จึงด่าทอจางเสี่ยวหลิงอย่างรุนแรง
“เรื่องการแต่งงานเจ้าอย่าคิดว่าพวกข้าจะไปยกเลิก เหรียญก็อย่าคิดว่าพวกข้าจะเอาไปคืน ถึงอย่างไรการแต่งงานนี้พวกเราก็ตัดสินใจให้เจ้าแล้ว อย่างไรเจ้าก็ต้องแต่ง ไม่แต่งก็ต้องแต่ง เจ้าไม่มีสิทธิมาเลือกมาเรื่องเยอะจู้จี้จุกจิกอยู่ที่นี่ได้ เจ้าอย่าลืมล่ะ เจ้าก็แค่หญิงผู้หนึ่งที่ถูกสามีทอดทิ้ง แถมยังมีลูกติด มีคนจะเอาเจ้า ก็ถือเป็นบุญเจ้าแล้ว”
“ข้าเหน็ดเหนื่อยต้อนรับขับสูมองหางานแต่งงานที่ดีเช่นนี้ให้เจ้าขนาดนี้ เจ้าไม่รู้จักสำนึกในบุญคุณยังจะมาฆ่าตัวตายก่อความวุ่นวายให้คนตื่นตกใจ จิตใจที่รู้บาปบุญคุณโทษของเจ้าถูกหมากินแล้วหรือ? เจ้ากลายเป็นหญิงที่ถูกสามีทอดทิ้งยังสามารถไปเป็นนายหญิงได้ อย่าไม่รู้ชั่วดีจนเกินไป อยากตายเจ้าก็ไปตายซะ ดื้อด้านอยู่นี่ข่มขู่ใครหรือ”
คำพูดเหล่านี้ของหวังจินเสีย มีชาวบ้านที่ฟังไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้นเลยคิดว่าจางเสี่ยวหลิงไม่รู้จักชั่วดี
จางต้าโถวที่ไม่พูดไม่จา เหมือนเห็นด้วยกับคำพูดของหวังจินเสีย ทันใดนั้น ชาวบ้านที่ไม่รู้สถานการณ์ภายในก็เริ่มทยอยพากันเกลี้ยกล่อมตักเตือนจางเสี่ยวหลิง
ลั่วเสี่ยวปิงไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังเกี่ยวกับเรื่องของจางเสี่ยวหลิง แต่เห็นนัยน์ตาของจางเสี่ยวหลิงเต็มไปด้วยอุดมการณ์ของความตายอันเด็ดเดี่ยว ก็เลยรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่หวังจินเสียพูดออกมาหรอก ลั่วเสี่ยวปิงถามขึ้นว่า“พวกเขาหมั้นหมายกับคนแบบไหนให้เจ้า?”
เดิมฟังคำเกลี้ยกล่อมเหล่านั้น จางเสี่ยวหลิงยิ่งรู้สึกผิดหวัง พอได้ฟังลั่วเสี่ยวปิงพูด จางเสี่ยวหลิงถึงกับหมดอาลัยตายอยากโดยสิ้นเชิง
”เสี่ยวปิง ——”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...