แต่ความจริงได้พิสูจน์แล้ว ว่าการทำอาหารนั้นยากอย่างยิ่ง
หลังจากพยายามอย่างสุดความสามารถ และล้มเหลวไปไม่น้อย ในที่สุดจีเหวินจุนก็ได้ข้าวผัดไข่ที่มีความเกรียมอย่างมากหนึ่งจาน แต่เมื่อเทียบกับความดำเป็นถ่านสองสามครั้งก่อนหน้านี้ มันดีกว่ามากจริงๆ
แต่ว่า ได้กลิ่นข้าวผัดที่ไหม้เกรียมอย่างรุนแรงนี้ นางต้องการจะเอาไปให้เว่ยเจ๋อฉีกินจริงๆ หรือ?
"ทำเสร็จแล้วหรือ?"
ในเวลานี้ เว่ยเจ๋อฉีได้ปรากฏตัวอยู่หน้าประตูห้องครัว โดยแสร้งทำเป็นเอ่ยถามอย่างไม่ใส่ใจ
"ยัง......ไม่เสร็จ" จีเหวินจุนใจฝ่อเล็กน้อย ตอบกลับอย่างอึกๆ อักๆ
จีเหวินจุนมองข้าวผัดจานนั้นบนเตา มีทั้งข้าวเป็นก้อนและเม็ดข้าว ไข่ไก่ก็เป็นชิ้นๆ รูปลักษณ์ภายนอกดูแย่มาก
จีเหวินจุนมิงเว่ยเจ๋อฉีมองดูข้าวผัด ในใจก็ยิ่งประหม่า
"เอ่อ ข้าไม่เคยทำ......" นางอยากจะบอกว่า เป็นเพราะนางไม่เคยทำอาหาร ฉะนั้นรูปลักษณ์จึงได้ดูแย่ขนาดนั้น
และนางอยากจะพูดว่า มิฉะนั้นก็ให้ย่าเจียงช่วยทำอาหารเถอะ นางทำไม่ได้จริงๆ หรือเปลี่ยนวิธีการขอโทษก็ได้
แต่อย่างไรก็ตาม จีเหวินจุนยังไม่ทันพูดจบ เว่ยเจ๋อฉีก็ยื่นแขนยาวของเขาออกไป หยิบข้าวผัดไข่จานนั้นขึ้นมา
"โอ๊ย หิวจังเลย"
พูดจบ เว่ยเจ๋อฉีก็มองไปที่เตา ไม่นานก็เจอตะเกียบ จึงหยิบตะเกียบคู่หนึ่งออกมาจากกระบอกตะเกียบ แล้วเริ่มกินข้าว
"เฮ้ย เจ้าอย่า......" จีเหวินจุนเห็นเช่นนั้นก็ต้องการจะห้ามปราม แต่เห็นได้ชัดว่ามันสายเกินไปแล้ว เพราะเว่ยเจ๋อฉีได้กินมันเข้าไปแล้ว
จีเหวินจุนไม่อยากจะมอง
และไม่กล้ามองด้วย
ฉะนั้น จีเหวินจุนก็เลยไม่ได้เห็นการแสดงออกแปลกๆ ตอนที่เว่ยเจ๋อฉีกินข้าวเข้าไป
หวานมาก!
จะใส่เกลือก็กลายเป็นน้ำตาล อีกทั้งยังใส่ไปไม่น้อย แถมมีเปลือกไข่อีกด้วย
แต่ว่า เมื่อเว่ยเจ๋อฉีเห็นท่าทางประหม่าของจีเหวินจุน เขาก็ได้กลืนข้าวลงไปพร้อมเปลือกไข่โดยไม่รู้ตัว
"อร่อยมากเลย" เว่ยเจ๋อฉีกล่าว จากนั้นก็พุ้ยข้าวอีกสองสามคำเข้าปาก และเนื่องจากรสชาติที่แปลกเกินไปเว่ยเจ๋อฉีจึงกลืนมันลงไปโดยที่ไม่เคี้ยว
จีเหวินจุนตกตะลึง!
อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้น มองไปทางเว่ยเจ๋อฉี กลับเห็นเว่ยเจ๋อฉีที่กำลังกินอย่างตะกละตะกลาม
จนกระทั่งจีเหวินจุนเริ่มสงสัยว่า หรือว่าตนเองจะมีพรสวรรค์ในการทำอาหารอร่อยจริงๆ?
เว่ยเจ๋อฉีพุ้ยข้าวเข้ามาจนหมดอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เผยฟันข้าวให้จีเหวินจุน "เอาล่ะ ตอนนี้ข้ายกโทษให้เจ้าแล้ว!"
จีเหวินจุนตกตะลึง "......ขอบคุณนะ"
เว่ยเจ๋อฉียิ้ม "ขอบคุณอะไรกัน? จากนี้ไปเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ"
จีเหวินจุนได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึง
แต่ต่อมาเว่ยเจ๋อฉีมารู้ตัวทีหลังจึงได้ค้นพบปัญหาในคำพูดของตนเอง ติ่งหูก็ได้ร้อนผ่าวขึ้นมา จึงอธิบายว่า : "ข้าหมายความว่าเจ้าเป็นน้องสาวบุญธรรมของพี่สาวข้า เช่นนั้นก็เป็นน้องสาวบุญธรรมของข้าด้วย ต่อไปนี้เราคือครอบครัวเดียวกัน"
จีเหวินจุนก้มหน้า พยักหน้าเบาๆ แก้มแดงก่ำ
ทันใดนั้น บรรยากาศในห้องครัวก็ดูแปลกไปเล็กน้อยๆ พอดีกับว่าเวลานี้มีการเคลื่อนไหวที่หน้าประตู เว่ยเจ๋อฉีจึงกล่าวว่า "มีคนกลับมาแล้ว ข้าจะไปดูหน่อยว่าเป็นใคร?"
เมื่อกล่าวจบ เว่ยเจ๋อฉีก็เดินออกไป
รอหลังจากที่เว่ยเจ๋อฉีออกไปแล้ว จีเหวินจุนจึงเงยหน้าขึ้น มองออกไปด้านนอกประตู
หลังจากนั้น จีเหวินจุนมองไปยังอาหารจานนั้นที่กินไปเกือบหมด คิดอยู่ครู่หนึ่ง และยื่นมือออกไปหยิบมันยัดเข้าปากไป
เมื่อได้ลิ้มรสความหวานที่แปลกประหลาด สีหน้าของจีเหวินจุนจึงเปลี่ยนเป็นประหลาดใจขึ้นมา จากนั้น จีเหวินก็ยิ้มขึ้นมา เป็นรอยยิ้มที่สดใส
ข้างนอกบ้าน อวี้หนิงและอานอานเล่อเล่อกลับมาแล้ว
ครึ่งเดือน......
ปกติแล้วพืชผลจะเก็บเกี่ยวในเดือน 9 ฤดูใบไม้ร่วง แต่เดือนนี้เพิ่งจะถึงปลายเดือน 7 และยังมีเวลาอีกหนึ่งเดือนกว่าก่อนจะถึงการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง
ถึงแม้ว่าปีนี้นางจะจัดหาเมล็ดพันธุ์พืชผลในหมู่บ้านแล้ว และสามารถทำให้เก็บเกี่ยวได้เร็วกว่าพืชผลทั่วไปครึ่งเดือนจนถึงหนึ่งเดือน แต่เวลาสั่งจองล่วงหน้าก็ครึ่งเดือนต่อมาเช่นกัน
หมู่บ้านต้าซิงอยู่ใกล้เขตชายแดน หากเกิดสงครามขึ้นมาจริงๆ ก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ
แทนที่จะเอาเมล็ดพืชลงดินเพื่อแบกรับความเสี่ยง มันสู้ไม่ได้กับการเก็บเกี่ยวล่วงหน้า การเก็บเกี่ยวจะได้ไม่น้อยกว่าปีที่แล้วๆ มา
ส่วนจางเอ้อหลางทางด้านนั้น ไม่ต้องรีบร้อนก็ได้ แต่การเก็บเสบียงอาหารนั้นสำคัญยิ่งกว่า
ลั่วเสี่ยวปิงคิดใคร่ครวญอยู่ในใจ แต่ลืมไปว่าตนเองยังอยู่ในอ้อมกอดฉีเทียนเห้า
และยังสนทนากับฉีเทียนเห้าอยู่
จนกระทั่งลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ซอกคอ เป็นฉีเทียนเห้ากัดนาง
"อยู่ในอ้อมกอดข้ายังจิตใจล่องลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ดูเหมือนข้ารักเจ้าไม่พอใช่ไหม หื๊ม?"
คำพูดหนึ่งประโยคของฉีเทียนเห้ามีสองความหมาย ทำให้ลั่วเสี่ยวปิงสัมผัสได้ถึงความกระตือรือร้นในหัวใจของฉีเทียนเห้า
เมื่อนึกถึงคำพูดหวานๆ ของการกระทำของทั้งสองคนเมื่อครู่นี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็หน้าแดงขึ้นมา "ไม่......"
ลั่วเสี่ยวปิงอยากจะพูดแก้ต่าง
แต่ทว่า ฉีเทียนเห้าไม่ได้ให้โอกาสนาง พลิกตัวลั่วเสี่ยวปิงกดอยู่ใต้ร่างของเขา......
หลังจากการกระทำจบลง ฉีเทียนเห้าแนบข้างๆ หูลั่วเสี่ยวปิง เขาใช้น้ำเสียงแหบพร่ากล่าวอย่างแผ่วเบาว่า "รอให้ข้ารับชัยชนะกลับมา ถึงเวลานั้นจะเอาเกี้ยวแปดคนหามไปต้อนรับเจ้าเข้าจวนอย่างแน่นอน......"
ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกเหนื่อยและง่วงนอนมากแล้ว เมื่อได้ยินฉีเทียนเห้าพูดประโยคนี้ ทำได้เพียงทำเสียงอืมเบาๆ
เมื่อลั่วเสี่ยวปิงกำลังจะหลับ เหมือนนางจะได้ยินฉีเทียนเห้าพูดข้างๆ หูตนเองว่า "กลับไปถึงเมืองหลวงแล้ว ไม่อนุญาตให้เจ้ามองชายอื่น จำได้นะ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...