แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 509

"บังอาจ!"

ซ่งจินจือยังไม่ทันได้แสดงความลำพองใจออกมา ที่ด้านหลังของหูหยานเฉียนกับซ่งจินจือก็มีเสียงคำรามด้วยความโกรธ

ร่างกายของหูหยานเฉียนกับซ่งจินจือสั่นสะท้าน

น้ำเสียงนี้......

เป็นไปได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าอีกสองวันท่านอ๋องจึงจะกลับมาหรอกหรือ? เหตุใดจู่ๆ วันนี้ถึงกลับมาแล้วล่ะ?

ทั้งสองคนกำลังคิดอย่างหวาดกลัว ซ่งหยุนดาที่มีใบหน้าโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมากก็มาถึงตรงหน้าแล้ว และดึงซ่งฉงปิง นำซ่งฉงปิงมาปกป้องไว้ด้านหลังของตนเอง

"หูหยานเฉียน ใครให้เกียรติเจ้ามาปฏิบัติต่อบุตรของข้าเช่นนี้? กล้าดียังไงมาให้บุตรสาวของข้าทำความเคารพเจ้า?"

หลายปีมานี้ ซ่งหยุนดาไม่สามารถเผชิญหน้ากันกับหูหยานเฉียน แล้วก็จะไม่เผชิญหน้ากับหูหยานเฉียนด้วย โดยพื้นฐานแล้วเมื่อพบเจอหูหบานเฉียนก็จะเดินอ้อมไป ทำเหมือนว่าเป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับจวนอ๋องคนหนึ่ง

นี่เป็นครั้งแรกที่ซ่งหยุนดาปฏิบัติต่อหูหยานเฉียนด้วยอารมณ์รุนแรงขนาดนี้ เป็นอารมณ์ที่เดือดดาลอย่างยิ่ง

ซ่งหยุนดาดูดุดัน ไม่เหมือนท่าทีปกติที่เขาควรจะมี เสียงร้องคำรามทำให้หูหยานเฉียนตกตะลึง

แต่หูหยานเฉียนได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว สีหน้าไม่น่าดู และท่าทีก็เปลี่ยนไป

"ท่านอ๋อง คาดไม่ถึงว่าท่านจะเอ่ยถามหม่อมฉันว่าเป็นใคร? หม่อมฉันเป็นรองพระชายาของจวนอ๋อง ท่านอ๋องท่านปฏิบัติต่อเช่นนี้เลยหรือ?" หูหยานเฉียนกล่าวจบ ก็ชี้ไปที่ซ่งฉงปิงที่อยู่ข้างๆ "นางเป็นบุตรสาวของท่าน แล้วจินจือไม่ใช่บุตรสาวของท่านหรอกหรือ? หรือว่าในสายตาของเจ้าจะมีเพียงบุตรสาวที่เกิดจากเว่ยหวินซีเท่านั้น ไม่เห็นจินจือของเราแล้วใช่หรือไม่?"

นี่เป็นครั้งแรกที่จินจือถูกเสด็จพ่อตวาดใส่ จึงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง และหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเสด็จแม่ ขอบตาจินจือก็แดงก่ำ กล่าวอย่างน้อยใจเป็นอย่างยิ่ง "เสด็จพ่อ ข้าก็เป็นบุตรสาวของท่านนะ"

ดวงตาของซ่งหยุนดากะพริบเล็กน้อย แต่เมื่อนึกถึงภาพที่ซ่งฉงปิงทำความเคารพต่อหูหยานเฉียนสองแม่ลูกอย่างระมัดระวังเมื่อครู่นี้ ในใจก็รู้สึกเจ็บปวด และความโกรธเคืองบนใบหน้าไม่ได้ลดลงไปแม้แต่น้อย

"หึ หูหยานเฉียน เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือว่าเจ้าเป็นรองพระชายาในจวนอ๋อง? รองพระชายาคนหนึ่ง และบุตรสาวอนุภรรยาคนหนึ่ง พวกเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาคิดว่าฐานะของพวกเจ้าสูงส่งกว่าปิงเอ๋อร์ของข้า จึงจะต้องให้นางทำความเคารพพวกเจ้าด้วย? ตอนที่ข้าเห็นยังเป็นถึงเช่นนี้ แล้วตอนที่ข้าไม่เห็น พวกเจ้าจะไม่กลั่นแกล้งรังแกปิงเอ๋อร์ของข้าจนตายเลยหรือ?"

เมื่อกล่าวคำพูดนี้ ซ่งหยุนดาก็รู้สึกเจ็บปวดและเสียใจอย่างยิ่ง

ถ้าหากว่า ในตอนนั้นตนเองเชื่อใจหวินซีมากกว่านี้ ปิงเอ๋อร์จะต้องเติบโตมาเป็นผู้หญิงที่งดงามใช่หรือไม่? จะไม่ต้องระมัดระวังในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ใช่หรือไม่? และจะไม่ต้องถูกหูหยานเฉียนกับบุตรสาวของหูหยานเฉียนกลั่นแกล้งใช่หรือไม่?

ทั้งหมดต้องโทษเขาที่ไม่เหมาะสมจะเป็นเสด็จพ่อ จึงทำให้ปิงเอ๋อร์ได้รับความทุกข์ใจเช่นนี้

ยิ่งคิดเช่นนี้ ซ่งหยุนดาก็ยิ่งรู้สึกละอายใจ และเมื่อเห็นการแสดงออกของหูหยานเฉียนแม่ลูกก็ยิ่งรู้สึกเกลียดชังขึ้นมา "หูหยานเฉียน ความอดทนของข้ามันมีขีดจำกัด ถ้าเจ้าปรับเปลี่ยนทัศนคติของตนเองไม่ได้ ก็อย่าโทษว่าข้าไล่เจ้ากลับเป่ยอันไปอย่างไม่ไยดีก็แล้วกัน"

ถ้าบีบบังคับเขาจริงๆ เขาก็จะไม่สนใจไยดีเช่นกัน

หูหยานเฉียนได้ยินเช่นนั้น ก็โกรธจนหน้าเขียว "ท่านอ๋อง ท่านจะทำเกินไปแล้วนะ"

เขาทำได้อย่างไร? ทำไมถึงพูดอย่างนี้กับตนเองต่อหน้าผู้อ่อนอาวุโสกว่า? แล้วจะให้นางเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

หลายปีมานี้ เป็นน้ำแข็งก้อนหนึ่งที่หลอมละลาย นางอำมหิตขนาดนั้นเลยหรือ?

"หึ——" ซ่งหยุนดาทำเสียงไม่พอใจ และไม่สนใจหูหยานเฉียนอีกต่อไป แต่หันหลังกลับมา ด้วยใบหน้าระมัดระวังและมองไปยังซ่งฉงปิงอย่างรู้สึกผิด

เห็นความห่วงใยบนใบหน้าซ่งหยุนดา จู่ๆ ซ่งฉงปิงก็ละอายใจขึ้นมา

เสด็จพ่อคนนี้ เขาเป็นห่วงตนเองจริงๆ

แต่นางนั้น คาดไม่ถึงว่าจะหาผลประโยชน์กับคนที่ห่วงใยตนเอง

ความจริงใจใดๆ ก็ไม่ควรถูกเอามาใช้เพื่อหาผลประโยชน์ทั้งนั้น

ด้วยความคิดเช่นนี้ ซ่งฉงปิงจึงไม่มีปฏิกิริยาตอบกับซ่งหยุนดาไปชั่วขณะหนึ่ง มองเห็นในแววตาของซ่งหยุนดา ซ่งฉงปิงก็ถูกทำให้ตกใจ อดไม่ได้ที่จะสับสนจนทำอะไรไม่ถูก

"ปิงเอ๋อร์ เจ้า......"

"เสด็จพ่อ ข้าไม่เป็นอะไร" กลัวว่าซ่งหยุนดาจะจินตนาการต่อ ซ่งฉงปิงจึงรีบปลอบประโลม

ซ่งหยุนดาได้ยินเช่นนั้น จึงถอนหายใจอย่างโล่งอก

หลังจากนั้นก็ไม่ได้คำนึงถึงสองแม่ลูกที่โกรธจนสีหน้าเปลี่ยนไป และกล่าวอย่างเย็นชาว่า "เอาล่ะ ข้าต้องการจะพูดคุยกับปิงเอ๋อร์ พวกเจ้าออกไปก่อน"

ซ่งจินจือไม่เต็มใจ และไม่ยินยอม ในแววตาเต็มไปด้วยความริษยา

ส่วนเรื่องอื่น นางค่อยหาโอกาสอีกที

ได้ฟังคำพูดของหูหยานเฉียน แววตาของซ่งจินจือก็สว่างสดใสขึ้นมา

ใช่สิ เหตุใดนางจึงคาดไม่ถึงนะ?

ไก่ป่ากลายเป็นหงส์ ท้ายที่สุดร่างเดิมก็ยังต้องปรากฏอยู่ดี

ถึงเวลานั้น นางจะทำให้ซ่งฉงปิงอับอายจนจะแทรกแผ่นดินหนีเลย

นางต้องการทำให้ทุกคนรู้ว่า คนที่มาจากชนบทก็คือมาจากชนบท ไม่สามารถมาเชิดหน้าชูตาได้

เมื่อคิดอย่างนี้ สีหน้าของซ่งจินจือก็ดีขึ้นมาก

อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่แม่ลูกซ่งจินจือออกไป ซ่งหยุนดาก็มองไปที่ซ่งฉงปิง "ปิงเอ๋อร์ พ่อขอโทษเจ้าด้วยนะ......"

ใบหน้าของซ่งหยุนดาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

ซ่งฉงปิง : "......" จะต้องเอ่ยอีกทำไมกัน?

หลายวันมานี้ นางได้ฟังคำขอโทษจากเสด็จแม่มาไม่น้อย ไม่อยากได้ยินคำสารภาพผิดของเสด็จพ่ออีกแล้ว

ในความเห็นของนาง ขอเพียงแค่คนเหล่านี้ห่วงใยตนเองจริงๆ คนอื่นๆ ก็ไม่สำคัญแล้ว

ด้วยเหตุนี้ ซ่งฉงปิงจึงตัดสินใจเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

"เสด็จพ่อ สองสามวันนี้ท่านยุ่งอยู่กับอะไรหรือ? ทำไมถึงไม่เห็นท่านเลยล่ะ?"

ซ่งฉงปิงเพียงแค่ต้องการเปลี่ยนหัวข้อสนทนา แต่กลับคาดไม่ถึงว่าคำถามนี้ จะทำให้คิ้วของซ่งหยุนดาขมวดแน่นขึ้น ราวกับว่าได้พบเรื่องที่จัดการได้ยาก

เห็นเช่นนี้ ซ่งฉงปิงจึงกล่าวว่า "หากเสด็จพ่อมีอะไรให้ช่วยเหลือ ก็บอกกล่าวมาได้เลยนะ ข้าจะช่วยเหลือท่านเอง และจะช่วยให้ได้อย่างแน่นอน"

ซ่งฉงปิงพูดคำพูดนี้ด้วยใจจริง แต่คาดไม่ถึงว่าซ่งหยุนดาได้ฟัง กลับหัวเราะออกมา "น้ำใจของปิงเอ๋อร์นั้นข้ารู้ดี แต่เรื่องนี้เจ้าช่วยไม่ได้จริงๆ"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง