แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 562

ในเวลานั้น ก็ไม่มีคนตอบคำพูดของซ่งฉงปิง

ซ่งฉงปิงก็ไม่รีบ รออยู่อย่างเงียบๆ

ชาวนาที่อยู่แถบเมืองหลวง โดยเฉพาะชาวนาเหล่านี้ที่ขายตัวแล้ว ก็จะเกิดความกลัวต่อบุคคลที่มีอำนาจจากใจ และความกลัวแบบนี้ก็ไม่ใช่ว่าหายไปได้ในช่วงเวลาสั้นๆ

เห็นว่าซ่งฉงปิงไม่ได้โกรธเพราะความเงียบขรึมของพวกเขา มีคนก็กล้าหาญขึ้นมา มองไปทางซ่งฉงปิง"เจียเล่อจวิ้นจู่ เจ้ามีคำถามอะไรถามพวกบ่าวได้เลยขอรับ"

เนื่องจากได้เซ็นสัญญาขายตัวแล้ว ดังนั้นการเรียกแทนตัวเองว่าบ่าวก็เป็นเรื่องที่สมควร

คนที่พูดเป็นชาวบ้านที่อายุสี่สิบกว่า ร่างกายดูผอมเพรียว แต่สายตาดูฉลาดกว่าชาวบ้านคนอื่นๆ

ซ่งฉงปิงยิ้มมุมปากแล้วพยักหน้า"เจ้าชื่ออะไร?"

นี่เป็นคำถามแรกของนาง

ได้ยินเช่นนี้ชาวบ้านคนนั้นก็อึ้งไปเลย จากนั้นก็คิดจะคุกเข่าตอบ แต่กลับถูกซ่งฉงปิงห้ามเอาไว้

"ต่อหน้าข้าไม่ต้องถือเคร่ง ยืนตอบก็พอ"

ได้ยินเช่นนี้ ถึงแม้ชาวบ้านคนนั้นระมัดระวังมากเกินสมควร แต่ก็ไม่ได้ยืนกรานที่จะคุกเข่า ตอบกลับว่า"บ่าวชื่อจางกุ้ยขอรับ"

จางกุ้ยไม่ได้พูดมาก ซ่งฉงปิงถามอะไรก็ตอบอะไร

ซ่งฉงปิงพยักหน้า ถามต่อ"ได้ข่าวว่าหมู่บ้านชิงเหอยังมีประวัติบางอย่างด้วย ไม่ทราบว่าเจ้ารู้ลึกเท่าไหร่?"

เรื่องของหมู่บ้านชิงเหอนางรู้อยู่แล้ว ก่อนที่เสด็จพ่อรู้ว่าตัวเองจะมาก็เอาเอกสารของหมู่บ้านชิงเหอให้นางทั้งหมด

แต่นางอยากจะตีสนิทกับชาวบ้านในหมู่บ้านชิงเหอ ก็ต้องพูดคุยเล่นๆกับพวกเขาก่อน

ก็ไม่ใช่ว่าจะตีสนิทเหมือนกับชาวบ้านในหมู่บ้านจ้าซิง เพราะที่นี่อยู่ใกล้เมืองหลวง การแบ่งชนชั้นเห็นได้อย่างชัดเจน

และชาวบ้านที่นี่ก็ต่างจากชาวบ้านของหมู่บ้านต้าซิง บางทีสนิทเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี

แต่ถ้าไกลไปทำอะไรก็จะยุ่งยาก

ดังนั้นเป้าหมายของนางคือ รักษาระหว่างห่างที่ค่อนข้างกลมกลืนกับชาวบ้านที่นี่ ไม่เกินขอบเขตจนเกินไป และก็สามารถได้ผลประโยชน์ร่วมกัน ก็ดีเลย

จางกุ้ยคิดไม่ถึงว่าซ่งฉงปิงจะถามสิ่งนี้ นิ่งอึ้งเล็กน้อย แต่ก็มีความลังเล"สิ่งนี้ บ่าวไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดจากไหนดี"

ซ่งฉงปิง"งั้นก็เริ่มพูดตั้งแต่แรกเลย"

จากนั้นจางกุ้ยก็เล่าประวัติของหมู่บ้านชิงเหอทุกอย่าง

ที่แท้แล้ว เดิมทีหมู่บ้านชิงเหอเป็นแค่หมู่บ้านที่ธรรมดามากในแถบเมืองหลวง

แต่ว่าหมู่บ้านที่ธรรมดามากขนาดไหน พออยู่ในแถบเมืองหลวงแล้วก็ไม่ได้ธรรมดาแล้ว

ในสิบกว่าปีที่แล้วที่ดินผืนนี้ ก็ถูกมู่กุ้ยผิง ก็คือน้องสาวของฮองเฮาปัจจุบันแย่งไป จนทำให้เหล่าชาวบ้านที่นี่หากินกันไม่ได้ เลยต้องไปทำงานที่หมู่บ้านอื่น เพื่อเลี้ยงชีพ

ต่อจากนั้นเลี้ยงตัวเองไม่ไหวจริงๆ พวกเขาก็มีแต่ต้องกลับหมู่บ้านชิงเหอ ขออยู่ต่อ

ตอนนั้นมู่กุ้ยผิงก็ให้พวกเขาเซ็นสัญญาขายตัว ทำให้พวกเขาไม่เพียงแต่กลายเป็นชาวนา ยังกลายเป็นชาวนาที่ขายตัวไปด้วย

ตอนแรกพวกเขาไม่ยอมขายตัว แต่กระดูกที่ส่งมาให้ มู่กุ้ยผิงจะยอมปล่อยได้อย่างไรล่ะ?

ภายใต้การข่มขู่ ชาวบ้านดั้งเดิมของหมู่บ้านชิงเหอ กลายเป็นทาสระดับต่ำ

ส่วนจางกุ้ย เป็นลูกชายของผู้ใหญ่บ้านรุ่นก่อน

แต่หลังจากสูญเสียหมู่บ้านชิงเหอไป ผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านชิงเหอก็เศร้าโศกมากจนเสียชีวิต

ต่อมา ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดหมู่บ้านชิงเหอไปๆมาๆกลายเป็นทรัพย์สินของจวนอ๋องอี้

หลังจากกลายเป็นคนของจวนอ๋องอี้ ถึงแม้สัญญาขายตัวของพวกเขายังคงเอากลับมาไม่ได้ แต่ผลตอบแทนของพวกเขาเหมือนกับชาวนาธรรมดา แต่อยู่ได้

จางกุ้ยพูดแบบคลุมเครือ น้ำเสียงไม่มีความโกรธแม้แต่นิด ไม่ทราบว่าไม่ได้โกรธ หรือไม่กล้าโกรธกันแน่

แต่ซ่งฉงปิงรู้สึก ขั้นตอนที่แท้จริงนั้น น่าสังเวชกว่าที่จางกุ้ยพูดออกมาอีกเยอะ

ปีนั้นมู่กุ้ยผิงทำความชั่วแบบแรงมาก ไม่ได้ชดเชยให้เหล่าชาวบ้าน ไล่ออกโดยตรง

ปีหนึ่งสามารถกินเนื้อได้ครั้งหนึ่ง เจ้านายเป็นคนประทานให้ ไม่มากแต่ก็ได้กินหน่อยนึง

ส่วนการเรียนหนังสือนั้น ล้วนเป็นทาส มีงานที่ทำไม่หมดทุกวัน ใครยังมีเวลาเรียนหนังสืออีก แล้วได้เรียนหนังสือก็อย่างไรล่ะ?ก็สอบราชการไม่ได้

จางกุ้ย"ตอนเด็กข้าเคยไปเรียนที่โรงเรียน เลยได้สอนหนังสือให้เด็กที่บ้านหลายคนนิดๆหน่อยๆ แต่......"

จางกุ้ยไม่ได้พูดต่อ แต่คำพูดที่พูดไม่จบนั้นทุกคนล้วนเข้าใจ

แค่เคยไปเรียนที่โรงเรียน มากสุดก็แค่พอรู้จักตัวหนังสือบ้าง จะสอนอะไรได้ล่ะ?

หลังจากทำความเข้าใจกับสถานการณ์แล้ว ซ่งฉงปิงก็ถามอีก"ตอนนี้ในหมู่บ้านปลูกอะไรบ้าง ผมตอบแทนเป็นอย่างไรบ้าง?"

จางกุ้ย"ตอนนี้ในหมู่บ้านมีต้นผลไม้ มีผัก แล้วก็ปลูกข้าวปีละครั้ง"

ซ่งฉงปิงได้ยินเช่นนี้ก็พยักหน้า ถามต่อ"คนในหมู่บ้านมาครบหมดไหม?"

จางกุ้ย"ชาวบ้านในหมู่บ้านชิงเหอล้วนอยู่"

ซ่งฉงปิงมองไปทีหนึ่ง มีประมาณร้อยกว่าคน เด็กมีประมาณยี่สิบคน ผู้ชายมากกว่าผู้หญิง น้อยมากที่จะเห็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว มีแต่ชายหนุ่มและหญิงสาว

"สถานการณ์คร่าวๆข้ารู้หมดแล้ว วันนี้ข้าอยากจะเซ็นสัญญากับทุกคน......"

ซ่งฉงปิงพูดถึงที่นี่ สีหน้าที่กว่าจะผ่อนคลายลงได้ของชาวบ้านหมู่บ้านชิงเหอนั้นก็ซีดลงทันที จากนั้นตามด้วยเสียง'ปังๆๆ'ล้วนคุกเข่ากันหมด ทำให้ซ่งฉงปิงไม่สามารถพูดต่อได้

"เจียเล่อจวิ้นจู่ ขอร้องเถอะ ปล่อยพวกเราไปเถอะ"

ตอนนี้พอคนของหมู่บ้านชิงเหอได้ยินว่าเซ็นสัญญาก็กลัวกัน เหมือนกับกระต่ายตื่นตูม

สีหน้าของจางกุ้ยก็ซีดขาวมาก แถมเขายังนึกว่าเป็นเพราะคำตอบเมื่อกี้นี้ของตัวเองไม่เหมาะหรือเปล่า ถึงทำให้จวิ้นจู่อยากเซ็นสัญญา

หรือว่าเขาต้องไปตามทางเก่าของพ่อในปีนั้น?

ยิ่งคิด สีหน้าของจางกุ้ยก็ยิ่งซีดขาว

ซ่งฉงปิงเห็นฉากเช่นนี้ ก็รู้ว่าคนเหล่านี้เข้าใจผิด เลยพูดว่า"ข้าคิดว่าพวกเจ้าคงเข้าใจผิด......"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง