คำพูดเหล่านี้ของลั่วเสี่ยวปิง ทำให้ทุกคนตกใจ
คนในหมู่บ้านก็ประมาณนี้ ทุกคนกลัวเข้าศาล เมื่อได้ยินศาลสีหน้าเกือบเปลี่ยนไป
คนส่วนใหญ่เลิกคิดที่จะให้ลั่วเสี่ยวปิงชดใช้ สำหรับการสูญเสียในวันนี้ พวกเขาจะทำอะไรได้นอกจากยอมรับว่าพวกเขาโชคร้าย?
ไปศาลเพื่อเงินสิบเหวิน เว้นแต่ว่าก้นมันคันเกินไปอยากจะไปหากระดาน
อย่างไรก็ตาม ก็มีพวกที่ไม่รีรอมองไม่เห็นสถานการณ์ และก็ไม่ใช้สมอง
“เจ้าคิดว่าเจ้าไปศาลแล้วเราจะกลัวเจ้าเหรอ? วันนี้ถ้าเจ้าไม่ชดใช้เงิน พวกเราจะเข้าไปเอาที่บ้านเจ้าเอง”
คนที่ตะโกนคือจางเอ้อเก่าวายร้ายในหมู่บ้าน ปกติเป็นพวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อที่ชอบมั่วสุมในเมืองจนชินแล้ว ดังนั้นจึงไม่ใช่คนที่มีเหตุผล
จางเอ้อเก่าตะโกน แต่ไม่มีใครพูดอะไรอีก
อย่างแรก ชาวบ้านไม่มีความหวาดกลัวต่อจางเอ้อเก่า ประการที่สอง กลัวว่าจะไม่ได้สิบเหวินนั่น และต้องการเก็บเอามาง่ายๆ
“เอา? เจ้าเอามาอย่างไร?”
ในขณะนี้ เสียงที่หนักเล็กน้อย และค่อนข้างเข้มงวดมาจากด้านหลังผู้คน
“ก่อนหน้านี้แม่หม้ายหลี่ไม่ใช่ชดใช้บ้านนางไปสามตำลึงเงินแล้วหรือ? ความสามารถแบบนี้นางคงใช้ยังไม่หมดแน่ พวกเราเข้าไปค้น ข้าไม่เชื่อจะคนไม่เจอ......”
จางเอ้อเก่ายังไม่ไม่มีการตอบสนองว่าใครถามขึ้น จึงได้ตอบกลับไปอย่างเย่อหยิ่ง แต่เขาไม่ได้สังเกตว่าชาวบ้านที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาทั้งสองด้านได้ถอยหลังกลับไปหมด
“จางเอ้อเก่า!” จางเต๋อหวั่งตะคอกอย่างโมโห “เจ้าช่างมีความสามารถมาก เรื่องของการปล้นนี่ล้วนทำได้ทุกอย่าง ยังมีเรื่องอะไรที่เจ้ายังทำไม่ได้อีก?”
คำถามก่อนหน้านี้คือจางเต๋อหวั่งถาม หลังจากจางเต๋อหวั่งทานอาหารกลางวันเสร็จก็คิดที่จะพาลั่วเสี่ยวปิงไปดูทุ่งนาที่ว่างเปล่าในหมู่บ้าน
แม้ว่าลั่วเสี่ยวปิงตกลงว่าจะซื้อมันแล้ว แต่เขารู้สึกเสมอว่าต้องให้ลั่วเสี่ยวปิงไปดูด้วยตาของตัวเองถึงจะถูก ถึงอย่างไรการซื้อนานั้นเป็นเรื่องใหญ่ ไม่สามารถจะทำมั่วซั่วได้
แต่จางเต๋อหวั่งไม่เคยคิดเลยว่า สิ่งที่ตัวเองเห็นกลับเป็นแค่เรื่องตลกฉากหนึ่งเท่านั้น
แม้ว่าจางเอ้อเก่าจะไม่สนใจอะไรเลย แต่กลับเพราะเขาเป็นเครือญาติกับจางเต๋อหวั่ง ทั้งจางเต๋อหวั่งยังเป็นผู้ใหญ่บ้านอีกด้วย โดยปกติเขาก็มีบารมีอยู่แล้ว ดังนั้นจางเอ้อเก่ายังต้องเกรงกลัวต่อจางเต๋อหวั่งอยู่มาก และเป็นเช่นนี้ ที่ในวันปกติจางเอ้อเก่าไม่กล้าที่จะยุ่งวุ่นวายในหมู่บ้าน โดยส่วนมากคือมาพอเป็นพิธี
ดังนั้นเมื่อถูกจางเต๋อหวั่งด่าแบบนี้ แผ่นหลังของจางเอ้อเก่าได้แข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว และมองกลับมาที่ จางเต๋อหวั่ง อย่างเหยเก “ท่านอา นี่ท่าน......”
จางเต๋อหวั่งจ้องที่ จางเอ้อเก่า “สิ่งที่เจ้าพูดเมื่อกี้ พูดให้ข้าฟังอีกรอบสิ!”
จางเอ้อเก่าขี้ขลาดเล็กน้อย แต่ยังไม่วายที่จะต้องการเถียง “ท่านอา วันนี้พวกเราเสียแรงไปโดยเปล่าประโยชน์ อย่างไรจะต้องมีใครสักคนมารับผิดชอบสิ?”
“เฮ้อ——” จางเต๋อหวั่งหัวเราะอย่างโมโห และแทนที่จะตอบจางเอ้อเก่าทันที เขามองไปยังคนอื่นๆ ในหมู่บ้าน “พวกเจ้าทุกคนคิดแบบเดียวกันหรือเปล่า?”
พวกชาวบ้านต่างก้มหน้าลงทีละคน ไม่กล้ามองจางเต๋อหวั่ง แต่เมื่อมองดูแบบนี้แล้ว พวกเขาคิดอย่างนั้นจริงๆ
แม้ว่าคำพูดของลั่วเสี่ยวปิงจะทำให้พวกเขาตะลึง และทำให้พวกเขาหยุดพยายามจับผิดชั่วคราว แต่ในใจลึกๆ ของพวกเขาก็ไม่ต้องการที่จะให้เรื่องนี้จบลงแบบนี้
ทุกคนล้วนแต่หมกมุ่นอยู่กับความปีติยินดีที่จะมีรายได้ในบ้านเพิ่มขึ้น และผู้ใหญ่บ้านได้บอกว่าต้องทำเหมือนเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ทั้งยังไม่ยอมให้ลั่วเสี่ยวปิงสอนพวกเขารู้จักเมาโวโวที่สามารถนำมาทานได้
และในทันที ทุกคนต่างกระวนกระวายใจแล้ว
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าเมาโวโวกับผลสน สามารถขายได้ด้วยเงิน แต่พวกเขากลับไม่รู้ว่าเมาโวโวอันไหนที่ทานได้ทานไม่ได้ ทั้งผลสนเองก็ยังขายไม่ออก ดังนั้นรู้แล้วจะมีประโยชน์อะไร
หากวันนี้ไม่ได้ลองด้วยตัวเองแล้ว พวกเขาคงจะไม่กระวนกระวายเพราะคำพูดของผู้ใหญ่บ้านหรอก
หวังต้าอิงซึ่งยืนอยู่ด้านหน้าเกิดมีความกังวลเป็นพิเศษ
“ผู้ใหญ่บ้าน ท่านอย่าทำเช่นนี้” หวังต้าอิงไม่อยากเสียโอกาสในการหาเงิน เมื่อเห็นว่าฤดูหนาวกำลังจะมา ทุ่งนาก็ไม่มีอะไรทำ แม้ว่าผู้ชายในครอบครัวของนางไปทำงานในเมืองระยะสั้น แต่คนเยอะงานน้อยรายได้ก็ไม่มากพอ และลูกๆ ในครอบครัวไม่ได้มีเสื้อตัวใหม่ๆ มาหลายปีแล้ว เป็นเวลาที่เงินขาดมือจริงๆ
“ผู้ใหญ่บ้าน เรื่องที่เกิดในวันนี้โทษพวกเราฝ่ายเดียวไม่ได้นะ” หวังต้าอิงเอ่ยปากพูดเพื่อไกล่เกลี่ย “วันนี้พวกเราทุกคนขนของไปในเมือง คนในเมืองบอกว่าเราเป็นพวกเสียสติที่เอาของมีพิษไปขาย พวกเราโมโหมาก และยังได้ชกต่อยกันเกิดขึ้นด้วย”
“นี่คงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกๆ คน ระหว่างทางกลับบ้านในใจทุกคนไม่ใช่ล้วนโกรธหรอกหรือ? แต่พวกเราก็ยอมรับว่าพวกเราโชคร้าย หากไม่ใช่ว่าลั่วต้าฟู่กำลังถกเถียงกันว่าเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับเสี่ยวปิง ลั่วเสี่ยวปิงเป็นคนที่ทำให้เราต้องได้รับผลนี้ พวกเราจะได้รวมตัวกันมาก่อกวนอยู่ที่นี้หรือ?”
“ผู้ใหญ่บ้าน พวกเราไม่ได้ตั้งใจหาเรื่องกับเสี่ยวปิงเจ้าเด็กคนนั้นจริงๆ” หวังต้าอิงยิ่งพูดยิ่งเสียใจ ใครจะคิดว่าลั่วเสี่ยวปิงจะมีคิดสร้างสรรค์เช่นนี้?
คนอื่นๆ ฟังคำพูดของหวังต้าอิงแล้ว ได้พูดอย่างเห็นด้วยว่า “ใช่แล้วผู้ใหญ่บ้าน ถ้าไม่ใช่เพราะลั่วต้าฟู่เป็นลุงของลั่วเสี่ยวปิง และยังพูดว่าในฐานะผู้อาวุโสไม่สามารถทนเห็นเสี่ยวปิงหลอกลวงคนเช่นนี้ บอกว่าเสี่ยวปิงควรชดเชยให้กับเรา พวกเราเองก็ไม่คิดไม่ถึงว่าจะต้องมาก่อความวุ่นวายให้กับเสี่ยวปิง”
เมื่อผู้ใหญ่บ้านฟังจากที่ทุกคนพูด ก็ขมวดคิ้ว และกวาดสายตาค้นหาคนในฝูงชน เพื่อต้องการหาตัวลั่วต้าฟู่ให้เจอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...