แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 590

“ทำไมถึงไม่ให้พวกข้าจ่ายเงินล่ะ”

“ใช่ พวกข้าก็อยากลงทะเบียนเหมือนกัน เหตุใดจึงให้พวกนั้นลงทะเบียนแต่ไม่ให้พวกข้าลงทะเบียน”

“พวกเจ้าไม่อยากได้เงินรึ ยี่สิบตำลึงล่ะเป็นไง”

“ใช่ พวกข้ามีเงิน พวกข้ายินดีจะจ่ายยี่สิบตำลึง!”

"....."

กลุ่มคนที่ก่อความวุ่นวายล้วนแต่งกายด้วยผ้าแพรต่วนชั้นดี และทุกคนต่างก็เป็นคนร่ำรวยในเมืองหลวง

หลังจากคนเหล่านี้ก่อเรื่อง สภาพตรงหน้าก็เริ่มวุ่นวาย

พอพวกนั้นโวยวาย ทุกคนจึงคิดว่าคนที่ไม่ได้ลงทะเบียนจะมารักษาที่เหรินยี่ถังไม่ได้

ดังนั้นประชาชนทั่วๆ ไปจึงกังวลว่าถ้าคนรวยมารวมตัวกันจ่ายเงิน สิทธิ์ของพวกเขาจะถูกพวกนั้นแทนที่

และพวกคนรวยก็อยากจะลงทะเบียนหลังจากเห็นความสามารถทางการรักษาของซ่งฉงปิง เพราะถ้าลงทะเบียน ชีวิตของพวกเขาก็จะได้รับความคุ้มครองไปด้วย

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ ซ่งฉงปิงจึงเดินออกมาและมองคนที่ก่อปัญหาเหล่านั้น จากนั้นจึงเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ข้าว่า พวกเจ้าเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า”

ซ่งฉงปิงไม่ได้เอ่ยเสียงดัง แต่นางใช้กำลังภายในเล็กน้อย

แม้ว่าทุกวันนี้นางจะยุ่งมาก แต่นางก็พยายามหาเวลามาฝึกฝนศิลปะการต่อสู้เสมอ

เมื่อไม่มีฉีเทียนเห้าอยู่ข้างกาย นางจึงให้ไป๋เสาเป็นคนสอน

ดังนั้นการเพิ่มกำลังภายในเข้าไปในเสียงจึงทำให้เสียงของนางดังเข้าหูกลุ่มคนที่ก่อเรื่องอย่างง่ายดาย แม้ว่าเสียงนั้นจะไม่ดังมากก็ตาม

ทุกคนหันมามองซ่งฉงปิงโดยไม่รู้ตัว เมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่งฉงปิงกล่าว สีหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความฉงน

“พวกข้าเข้าใจอะไรผิดรึ” มีคนถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

ซ่งฉงปิงถามว่า “พวกเจ้าขัดสนเงินทองงั้นหรือ”

เมื่อได้ยินดังนั้น คนเหล่านั้นจึงหันไปมองหน้ากันเอง จากนั้นจึงก้มลงมองเสื้อผ้าของตนด้วยสีหน้างงงวย

พวกเขาดูเหมือนคนขัดสนเงินทองงั้นหรือ

ทว่าเมื่อเงยหน้ามองซ่งฉงปิง จึงเห็นว่าซ่งฉงปิงทำท่าเหมือนกำลังรอคำตอบจากพวกเขา

หลังจากชะงักไปครู่หนึ่ง ใครคนหนึ่งก็ตอบว่า “จวิ้นจู่ แน่นอนอยู่แล้วว่าพวกข้าไม่ได้ขัดสนเงินทอง”

อย่างน้อยพวกเขาก็มีชีวิตอยู่ดีกินดีในเมืองหลวง สำหรับคนนอกก็คงเรียกได้ว่ามีชีวิตที่ร่ำรวย

ซ่งฉงปิงพยักหน้า “ในเมื่อพวกเจ้าไม่ได้ขัดสนเงินทอง เหตุใดจึงต้องแย่งกันจ่ายเงินจำนวนนี้ด้วย”

ทันทีที่ซ่งฉงปิงเอ่ยออกไป คนรวยเหล่านั้นก็ตอบโดยไม่ต้องคิดเลยว่า “ถึงพวกข้าจะไม่ขัดสนเงินทอง แต่พวกข้าก็มีช่วงเวลาที่เจ็บไข้ได้ป่วย พวกข้าเองก็อยากให้จวิ้นจู่รักษาตอนที่พวกข้าเจ็บป่วยเป็นอันตรายเหมือนกัน”

ซ่งฉงปิงพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ดังนั้น ข้าจึงบอกอย่างไรล่ะว่าพวกเจ้าเข้าใจผิด”

คราวนี้ซ่งฉงปิงไม่รอให้พวกเขาถามต่อและอธิบายทันทีว่า “ประการแรก ข้าให้จ่ายเงินลงทะเบียนก็เพราะอยากให้คนจนมาหาหมอได้ ในเมื่อพวกเจ้ามีเงิน พวกเจ้าจำเป็นจะต้องประหยัดค่ารักษาด้วยหรือ? ข้าช่วยแค่คนจนเท่านั้น”

“ประการที่สอง ข้าไม่ได้มาประจำการที่นี่ แต่แค่มาเป็นครั้งคราวเท่านั้น”

กล่าวก็คือ สิ่งที่นางทำคือการประกันสุขภาพสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในท้องถิ่นแบบยุคปัจจุบัน

แต่ถึงกระนั้นก็ไม่อาจเลียนแบบการประกันสุขภาพตามยุคปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์

การประกันสุขภาพในยุคปัจจุบันเป็นการประกันสุขภาพแบบถ้วนหน้า

จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนรัฐ

แต่นางเป็นเพียงคนคนหนึ่งที่ทำการใหญ่โตขนาดนั้นไม่ได้

เพราะสุดท้าย การทำการกุศลเช่นนี้ก็ต้องใช้เงินจำนวนมาก

เงินนี้จะเอามาจากการค้าของนางอย่างเดียวไม่ได้ เหรินยี่ถังยังต้องการเงินจากคนรวยเหล่านี้

นางไม่กลัวเลยว่าโรงหมอของนางจะไม่มีกำลังพอจะแข่งขันกับที่อื่น เพราะนางจะค่อยๆ ผลักดันยาของตนเองมาใช้เป็นตัวยาหลัก

ทันทีที่คนผู้นั้นพูดจบ ทั่วทั้งที่แห่งนั้นก็เงียบสงัด

ซ่งฉงปิงหันไปมองตามเสียงด้วยแววตาที่เย็นชาเล็กน้อย

คนที่ถามคำถามนั้นขึ้นมาในเวลานี้ จะต้องมาเพื่อหาเรื่องแน่นอน

นับตั้งแต่ตอนที่นางตั้งใจว่าจะเปิดโรงหมอแบบนี้ขึ้นมา นางก็เดาได้อยู่แล้วว่าจะต้องเกิดผลลัพธ์เช่นนี้ เพราะถึงอย่างไรการเปิดโรงหมอของนางก็ต้องทำให้หลายคนเสียผลประโยชน์

หลังจากมีคนเอ่ยถึงเรื่องนี้และตั้งคำถามอย่างไม่พอใจ เหล่าเศรษฐีที่เลิกคิดจะลงทะเบียนก็กลับมากระตือรือร้นอีกครั้ง

บ้างก็ไม่พอใจ บ้างก็ทำท่าเหมือนจะก่อเรื่อง

หากเป็นสถานการณ์ปกติ เมื่อต้องพบเจอกับข้อสงสัยดังกล่าว วิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือการอธิบาย จากนั้นจึงประนีประนอมเพื่อไกล่เกลี่ยข้อพิพาท

แต่ซ่งฉงปิงไม่ได้ทำแบบนั้น นางเพียงแค่มองคนผู้นั้นอย่างเยือกเย็น “ถ้าพวกเจ้าไม่พอใจที่จะจ่ายเงินค่ารักษาที่เหรินยี่ถังของข้า พวกเจ้าไปหาหมอที่โรงหมออื่นก็ได้ ข้าเชื่อว่าโรงหมอแห่งอื่นก็พร้อมจะเปิดประตูต้อนรับพวกเจ้าเหมือนกัน”

ซ่งฉงปิงกล่าวดังนั้นและกล่าวต่อไปว่า “ข้าบอกไปแล้ว ว่าที่นี้มีไว้เพื่อช่วยเหลือคนลำบาก ในเมื่อพวกเจ้าไม่ได้ลำบาก เหตุใดจึงต้องให้ข้าช่วยล่ะ”

คำพูดของซ่งฉงปิงทำให้ทุกคนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ

จะทำอย่างไรได้ในเมื่อสิ่งที่นางพูดเป็นความจริง

จากนั้นซ่งฉงปิงจึงหันไปมองเหล่าเศรษฐี “ทุกคนควรรู้เอาไว้ว่าข้าต้องใช้ต้นทุนเท่าไรในการทำเช่นนี้ ถ้าพวกเจ้าเต็มใจมาหาหมอที่เหรินยี่ถัง นั่นหมายความว่าพวกเจ้าได้ทำกุศล ได้สนับสนุนรายได้ให้เหรินยี่ถังเพื่อช่วยควบคุมต้นทุนของเรา แต่ถ้าไม่ เหรินยี่ถังของเราก็ไม่ได้นับว่าขาดแคลนคนป่วยอย่างพวกเจ้า”

เมื่อเจรจาไม่รู้เรื่องจึงค่อยใช้กำลัง ซ่งฉงปิงแข็งแกร่งมาก

แต่ความจริงก็คือ ไม่ว่าจะเป็นฐานะหรือศักยภาพของนาง ทุกอย่างล้วนทำให้นางมีความแข็งแกร่งเป็นต้นทุน

หลังจากพูดจบ ซ่งฉงปิงจึงเรียกผู้ใต้บังคับบัญชาที่ติดตามมาจากจวนอ๋องอี้วให้เข้ามาหาทันที

เป็นคนในเครื่องแบบรัดรูปสีคราม ที่เอวคาดกระบี่เอาไว้ รอบกายแฝงไปด้วยพลังที่น่ากลัว

“ใครอยากจะสร้างปัญหาอีก ไม่ต้องเกรงใจ ทิ้งออกไปได้เลย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง