เจียเล่อจวิ้นจู่ก่ออาชญากรรมในการสมรู้ร่วมคิดกับข้าศึกเพื่อขายชาติ!
ข่าวนี้ออกไป คนทั้งเมืองก็อื้ออึงกันขึ้นมา
การสมรู้ร่วมคิดกับข้าศึกเพื่อขายชาติไม่ใช่ความผิดเล็กๆ
ในตอนแรก ทุกๆ คนไม่อยากจะเชื่อ อย่างไรเสียซ่งฉงปิงเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว จะสมรู้ร่วมคิดกับข้าศึกเพื่อขายชาติได้อย่างไร?
แต่ไม่นาน พยานบุคคลและพยานวัตถุก็ถูกเปิดเผยออกมา
พยานวัตถุ บางส่วนถูกค้นพบออกมาจากร้านเหล่านั้นของซ่งฉงปิง ยังมีบางส่วน ที่ถูกค้นพบจากสินค้าที่เข้าออกของร้านค้าเหล่านั้นด้วย
มีจดหมายบางส่วนและสิ่งของของประเทศศัตรูบางส่วน รวมทั้งแผนที่ป้องกันประเทศด้วย
พยานบุคคล เป็นคนของประเทศศัตรู
ประเทศของศัตรู ก็คือแคว้นซีหรงนั่นเอง
แคว้นซีหรง ตอนนี้กำลังทำสงครามอยู่กับต้าชิ่ง ใครจะไม่เกลียดแคว้นซีหรงบ้างเล่า?
ยิ่งไปกว่านั้น ในเวลาเดียวกันนี้ยังมีคำกล่าวที่ว่า การกุศลทั้งหมดที่ซ่งฉงปิงทำไป ก็เพื่อกุมหัวใจประชาชนอีกด้วย
จะกุมหัวใจของประชาชนเพื่ออะไร? แน่นอนว่าจะได้สะดวกต่อสมรู้ร่วมคิดกับข้าศึกเพื่อขายชาติมากยิ่งขึ้น
ดังนั้น เดิมทีแล้วบรรดาประชาชนที่วิงวอนขอความเมตตาให้ซ่งฉงปิง ล้วนนิ่งเงียบไม่มีเสียง
จนกระทั่ง มีประชาชนเริ่มทอดทิ้งซ่งฉงปิง
เพราะว่า การทำสงครามนั้นผู้เคราะห์ร้ายที่สุดก็คือประชาชน และประชาชนทั้งหลายก็เกลียดสงครามเป็นที่สุด มีครอบครัวใครหรือญาติใครไม่ได้ไปสนามรบบ้าง?
ฉะนั้นครั้งนี้ คนที่เกลียดชังแคว้นซีหรงเกลียดชังซ่งฉงปิง และสุดท้ายความเกลียดชังทั้งหมดก็ถูกส่งไปที่ตัวของซ่งฉงปิง
แน่นอนว่า มีบางคนที่ได้เห็นหลักฐานหรือทราบว่าหลักฐานเป็นที่แน่ชัดแล้วแต่บรรดาประชาชนที่ได้รับผลประโยชน์จากเหรินยี่ถังหรือซ่งฉงปิง แม้ว่าพวกเขาจะยอมรับความจริงข้อนี้ไม่ได้ แต่ว่าได้รับผลประโยชน์ก็คือได้รับผลประโยชน์ เวลานี้พวกเขาก็ไม่ได้ซ้ำเติมอะไร เพียงแค่เงียบไปเท่านั้น
คนเหล่านี้ เรียกได้ว่ามีหลักการอยู่
พวกเขารู้สำนึกในบุญคุณ แต่จะไม่ยอมยกโทษให้คนขายชาติอย่างแน่นอน
มีเพียงแต่พวกหวู่เจียงที่ไม่เชื่อว่าซ่งฉงปิงจะสมรู้ร่วมคิดกับข้าศึกเพื่อขายชาติ แต่ว่าไม่มีคนเชื่อ
ในชั่วขณะหนึ่ง บรรยากาศในเมืองหลวงก็เคร่งเครียดขึ้นมา
แต่เมื่อเปรียบเทียบทั้งเมืองหลวงแล้ว มีสถานที่หนึ่ง กลับตึงเครียดยิ่งกว่า
นั่นก็คือตระกูลฮัว
เพราะว่าเมื่อเช้าตรู่ของวันนี้ โอหยางฉี่หยู่ได้กลับมาที่ตระกูลฮัว
เวลานี้ ทุกคนในตระกูลฮัวนั่งอยู่ในห้องโถงอย่างพร้อมหน้ากัน มองไปยังตำแหน่งที่นั่งของโอหยางฉี่หยู่ด้วยท่าทีสงบนิ่ง
"ไอ้คนอกตัญญู เจ้าคิดจะทำอะไร?" ฮัวหยงเฟิงมองไปยังโอหยางฉี่หยู่กำลังนั่งที่ตำแหน่งเจ้าบ้านซึ่งปกติแล้วควรจะเป็นตนเอง จึงรู้สึกว่าความน่าเกรงขามของตนเองได้รับความท้าทาย
ส่วนคนในตระกูลฮัวที่เหลือ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ชอบโอหยางฉี่หยู่นัก แต่ว่านี่เป็นการพิพาทกันของพวกเขาพ่อลูก ฉะนั้นเวลานี้จึงไม่มีใครพูดอะไร เพียงแค่ดูการแสดงเท่านั้น
โอหยางฉี่หยู่ได้ยินเช่นนั้น กลับมีสีหน้าขบขัน "เจ้าบ้านฮัวเคร่งเครียดอะไรเช่นนี้ล่ะ? นี่ไม่ใช่ตำแหน่งที่นั่งของฮ่องเต้นะ ยังจะมีใครเป็นเอกสิทธิ์ได้ล่ะ?"
ฮัวหยงเฟิงไม่คาดคิดว่าโอหยางฉี่หยู่จะพูดเช่นนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง "เจ้า——เจ้าพูดไร้สาระอะไร? นี่เป็นการเนรคุณนะ!"
อย่าได้พูดถึงฮัวหยงเฟิงเลย คนอื่นๆ ของตระกูลฮัวก็มีสีหน้าเคร่งเครียดเช่นกัน
อย่างไรเสียคำพูดนี้ของโอหยางฉี่หยู่ดูร้ายแรงจริงๆ หากถูกแพร่ออกไป ทั้งตระกูลฮัวของพวกเขาจะต้องซวย
"ชิ——” โอหยางฉี่หยู่มีสีหน้าเหยียดหยาม "ตระกูลฮัวของพวกท่านยังกลัวการเนรคุณอยู่อีกหรือ?"
"เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร?" ฮัวหยงเฉิงนายสองของตระกูลฮัว มีสีหน้าร้อนรนใจ
"น้องสอง!" ฮัวหยงเฟิงเห็นว่าฮัวหยงเฉิงว้าวุ่นใจเพราะคำพูดของโอหยางฉี่หยู่ จึงได้กล่าวเตือนด้วยสีหน้าไม่พอใจ
ฮัวหยงเฉิงรู้ว่าตนเองตื่นตกใจจนเกินไป ด้วยเหตุนี้จึงปิดปากเงียบ
โอหยางฉี่หยู่กวาดสายตามองทุกคน ในดวงตาเต็มไปด้วยความเย็นชา แต่มัมปากยังคงยกขึ้นเล็กน้อย ด้วยท่าทางผ่อนคลายสบายใจ
เขาเป็นเจ้าบ้าน แต่ตอนนี้อยู่ต่อหน้าคนในวงศ์ตระกูล กลับต้องให้บุตรชายของตนเอง จะไม่อึดอัดใจเลยหรือ?
สูดลมหายใจลึกๆ ฮัวหยงเฟิงจึงเอ่ยถามว่า : "เจ้ามาวันนี้ มีธุระอะไร?"
อย่างที่ว่าไม่มีธุระก็คงไม่มา ลูกอกตัญญูคนนี้ หลังจากกลับมาที่เมืองหลวง เขาไม่รู้ว่าให้ไปเชิญมากี่ครั้ง คิดอยากจะให้เขากลับบ้านก่อน จากนั้นจะได้เอากุญแจสำคัญของกิจการของเขา
แต่ว่า ทุกๆ ครั้งที่เขาให้คนรับใช้ไปเชิญจะไม่ถูกทุบตี ก็จะปิดประตูไม่ให้เข้าไป
นึกถึงตรงนี้แล้ว ฮัวหยงเฟิงจะรู้สึกโกรธขึ้นมา
แต่เผอิญว่า ที่โอหยางฉี่หยู่มาในวันนี้ตอนที่พวกเขาเตรียมเรียกประชุมเจ้าบ้านพอดี
นี่มันบังเอิญเกินไปหรือเปล่า?
ในเวลานี้ ฮัวหยงเฟิงอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าโอหยางฉี่หยู่รู้อะไรบางอย่างจริงๆ หรือไม่?
เผชิญกับคำถามของฮัวหยงเฟิง โอหยางฉี่หยู่ยังคงมีสีหน้าเกียจคร้าน "ท่านไม่ได้ให้คนเชิญข้ากลับมาหรอกหรือ? เหตุใดวันนี้ข้ากลับมา ท่านถึงไม่ต้อนรับล่ะ?"
ฮัวหยงเฟิงไม่คาดคิดว่าโอหยางฉี่หยู่จะตอบกลับแบบนี้ จึงตกตะลึงเล็กน้อย
จากนั้นเวลานี้ โอหยางฉี่หยู่ได้ลุกขึ้น "ช่างเถอะ อย่างไรเสียตระกูลฮัวของพวกคุณ ในเมื่อไม่ต้อนรับคนต่างแซ่อย่างข้า ข้าก็จะไป"
เมื่อพูดจบ ยังเดินไปทางประตูทางเข้าจริงๆ ก้าวเท้าออกไปโดยไม่อาลัยอาวรณ์เลยแม้แต่น้อย
"เจ้าบ้าน——”
คนตระกูลฮัวร้อนรนใจ
แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้โอหยางฉี่หยู่จากไปแบบนี้ได้
เวลานี้ความคิดในหัวของคนตระกูลฮัว ล้วนเป็นความมั่งคั่งของโอหยางฉี่หยู่
ไม่ต้องพูดถึงว่าหอฝูหม่านและกิจการอื่นๆ รุ่งเรืองกว่าหอว่านเซียงที่เคยมีมาก่อนเลย เพียงแค่'ร้านแลกเงินเทียนเซี่ย'เพียงอย่างเดียว ก็เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนในตระกูลฮัวจ้องตาเป็นมันแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...