แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 775

เห็นกับตาว่าคนที่คุกเข่ามากขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าของซ่งหยุนดาก็บึ้งตึงลง

แต่ละคนล้วนจะขู่ให้เขาแต่งตั้งพระสนมถึงดีใจหรือ?

สีหน้าของฮ่องเต้ทุกคนล้วนเห็นอยู่กับตา แต่กล้าแต่ก้มหน้าแกล้งทำเป็นไม่เห็น

เพราะถ้าเรื่องนี้สำเร็จ มีผลประโยชน์ต่อพวกเขา หากไม่สำเร็จ ฮ่องเต้ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะโทษพวกเขาทั้งกลุ่ม

แต่ก็มีความกดดันด้วย

ซ่งฉงปิงเห็นฉากนี้รู้สึกโมโหมาก

กำลังคิดจะพูดอะไร ฉีเทียนเห้าก็จับมือนางเอาไว้

ซ่งฉงปิงหันหน้ามองไปทางฉีเทียนเห้า ทำหน้าไม่เข้าใจ

ฉีเทียนเห้าส่ายหน้า"เรื่องนี้ให้ฝ่าบาทจัดการเอง"

ซ่งฉงปิงขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้คิดจะทำขั้นต่อไปแล้ว

ฉีเทียนเห้าพูดถูก เรื่องนี้ต้องให้เสด็จพ่อจัดการเอาเอง

เพราะเรื่องแบบนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกแล้ว และก็ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย

ยังไงนางก็เป็นลูกสาว ไม่ดีที่จะพูดอะไรในตอนนี้

"ข้า"

ซ่งหยุนดาค่อยๆอ้าปาก น้ำเสียงทุ้มต่ำ

ทุกคนล้วนมองไปทางซ่งหยุนดา กลั้นหายใจและรอคำตอบจากซ่งหยุนดา

แม้กระทั่งฮองเฮาเว่ยหยุนซี ตอนนี้ก็ประคองหน้าท้องของตัวเอง และฟังด้วยความกังวล

นับบัดนี้นางไม่กล้ามองซ่งหยุนดาเลย และก็ไม่กล้ามีการแสดงออกไม่ดีต่อหน้าเหล่าขุนนาง ดังนั้นคนอื่นมองไม่ออกว่านางมีสิ่งผิดปกติอะไร

มีเพียงซ่งหยุนดารู้ว่า ตอนนี้ลมหายใจของเว่ยหยุนซียังมีความตื่นเต้นเลย

ดังนั้นซ่งหยุนดาเลยรู้สึกว่าเห็นใจนางมาก อยากจะพาเว่ยหยุนซีไปทันทีเลย เพื่อจะได้ปลอบใจนางดีๆ

แต่เขายังต้องจัดการเรื่องต่อหน้านี้

"ตั้งแต่เมื่อไหร่ ข้าทำอะไรล้วนต้องผ่านการอนุญาตจากพวกเจ้าแล้ว?"น้ำเสียงเย็นชามาก มีความโกรธและทรงพลัง

พอพูดเช่นนี้ ขุนนางที่คุกเข่าอยู่ข้างล่างล้วนใจกระตุก

ฝ่าบาทหมายความว่าอย่างไรเนี่ย?

"ฝ่าบาท"

เห็นกับตาว่าซ่งหยุนดาอยากจะปฏิเสธ มีขุนนางก็อยู่นิ่งไม่ได้ อยากจะโน้มน้าวใจ

แต่ถูกซ่งหยุนดาใช้สายตาจ้องไป คำพูดที่ขุนนางคนนั้นจะพูดก็ค้างอยู่ในลำคอทันที

"กระหม่อมไม่กล้าพ่ะย่ะค่ะ"

ขุนนางส่วนใหญ่รู้จักสถานการณ์ ดังนั้นเลยรีบพูดว่าไม่กล้า

ซ่งหยุนดาใช้สายตาที่เย็นชามองไป ยิ้มมุมปาก"ข้ารู้อย่างชัดเจน พวกเจ้าช่างกล้านัก ความคิดที่แท้จริงของพวกเจ้าในการเร่งให้ข้าแต่งตั้งพระสนมนั้น พวกเจ้าคงรู้อยู่แก่ใจกว่าใครๆหรอก"

"วันนี้อยู่ต่อหน้าทูต ข้าจะกล่าวอีกครั้งหนึ่ง ราชวงศ์ของข้าจะไม่พึ่งปู้หญิง วังหลังของข้าจะไม่เลี้ยงคนที่ไร้ประโยชน์ หากใครยังคิดจะให้ข้าแต่งตั้งพระสนมอีก ก็ไสหัวออกไปเลย อย่ามาปรากฏตัวให้ข้าเห็น ข้ารำคาญตา"

คำพูดของซ่งหยุนดาไม่ไว้หน้าใดๆเลย แถมยังมีความอาฆาตอยู่ในน้ำเสียง

ถึงแม้ขุนนางเหล่านั้นยังมีความคิดอะไรอยู่ ก็ไม่กล้าเอ่ยเสียงในเวลานี้

ตลกละ ไสหัวออกไปที่ฮ่องเต้กล่าวนั้น จะเพียงแต่ไสหัวออกไปอย่างเดียวหรือ?

ไม่แน่อาจปลดจากตำแหน่งขุนนางโดยตรง

ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันไม่เหมือนองค์เก่าสักหน่อย

ส่วนขุนนางที่กลัวเป่ยอันจะไม่พอใจเพราะการปฏิเสธเรื่องแต่งงานนั้นถึงแม้จะรีบร้อนมากนัก แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรในเวลานี้

เพราะทูตยังอยู่ พูดอะไรล้วนไม่ดี

ส่วนทูตของเป่ยอัน พอได้ยินคำพูดของซ่งหยุนดา สีหน้าก็แย่มาก

ความหมายของฮ่องเต้ต้าชิ่งคือ ไม่ยอมแต่งงานกับองค์หญิงของพวกเขาหรือ?

ถูกปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทูตก็รู้สึกโกรธ

"ซืออวี่กราบขอบพระคุณฝ่าบาทก่อนเพคะ แต่ซืออวี่ขอร้องให้ฝ่าบาทช่วยพระราชทานงานแต่งงานให้ซืออวี่เถอะเพคะ"ตอนนี้หูหยานซืออวี่ประพฤติตัวอย่างเคารพมาก สามารถกล่าวได้ว่าตอนนี้นางได้เก็บความเย่อหยิ่งลงไปหมด

นางรู้ว่าตัวเองเป็นไปไม่ได้ที่จะกลับไปกับทูตอีกแล้ว

และตัวเองก็เลือกคนแล้วสองครั้ง ล้วนถูกปฏิเสธ ถ้ามาอีกครั้งหนึ่ง เกรงว่าจะหน้าแตก

ดังนั้นให้ฮ่องเต้ของต้าชิ่งพระราชทานงานแต่งงานถึงเป็นข้อเลือกที่ดีที่สุด

แถมฮ่องเต้ของต้าชิ่งก็เป็นไปไม่ได้ที่จะพระราชทานคู่สมรสที่แย่เกินไปให้นาง

ระหว่างที่พูด หูหยานซืออวี่ก็พูดอีกว่า"แต่ซืออวี่มีคำขออย่างหนึ่งเพคะ"

ครั้งนี้หูหยานซืออวี่ก็ไม่ได้รอให้ซ่งหยุนดาถาม ก็พูดตรงๆว่า"ซืออวี่เห็นว่าฝ่าบาทและอ๋องเซ่อเจิ้งล้วนมีภรรยาเพียงคนเดียว ซืออวี่อิจฉามาก ดังนั้นในตอนที่ฝ่าบาทพระราชทานคู่สมรสให้ ซืออวี่ขอร้องให้ฝ่าบาทกำหนดให้คนนั้นไม่สามารถมีเมียน้อยได้ เพราะซืออวี่ก็ไม่อยากแบ่งบันสามีกับคนอื่นเพคะ"

คำพูดของหูหยานซืออวี่ทำให้คนที่มีเมียน้อยนั้นสีหน้าล้วนแย่ลง

เพราะว่าพวกเขาไม่มีโอกาสแล้ว

ส่วนบางคนที่ไม่มีเมียน้อย สีหน้าก็ไม่ค่อยดี

เพราะไม่ว่าหูหยานซืออวี่จะดีขนาดไหน พวกเขาก็ไม่เคยคิดจะอยู่กับผู้หญิงคนเดียวตลอดกาล

หลังจากหูหยานซืออวี่พูดคำพูดนั้นเสร็จ ก็เปิดผ้าปิดหน้าของตัวเองออก เผยให้เห็นหน้าตาของตัวเอง

ต้องยอมรับว่าหน้าตาสวยจริงๆ แถมยังเป็นหน้ารู้ไข่ที่สวยงาม

แต่ถึงแม้เป็นเช่นนี้ ผู้ชายส่วนใหญ่ก็ไม่อยากมีผู้หญิงเพียงคนเดียว

ซ่งหยุนดาได้ยินเช่นนี้ก็พยักหน้า"ได้"

ระหว่างที่พูดก็มองไปข้างล่าง"ใครอยากจะแต่งงานกับองค์หญิงเป่ยอัน สามารถยืนออกมาได้"

พอพูดเช่นนี้กลับไม่มีคนยืนออกมา

หลังจากมีบางคนยืนออกมาแล้ว ซ่งหยุนดาก็ได้ถามคนข้างๆว่าตำแหน่งของพวกเขาคืออะไร และก็ไม่ได้เอ่ยเสียงเช่นกัน

เพราะเป็นคู่สมรสให้องค์หญิงเป่ยอัน จะเป็นคนที่มีฐานะดูธรรมดาไม่ได้ ไม่งั้นจะเหมือนกับว่าต้าชิ่งดูถูกเป่ยอัน อยากจะก่อเรื่อง

อยู่ๆ ซ่งหยุนดาก็นึกถึงคนหนึ่งขึ้นมาได้ ตาสว่างขึ้นมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง