“แม่ รอเดี๋ยวก่อน หนู หนูเพิ่งตื่นนอน ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลย”
จ้าวลู่ลู่ร้อนรนหมือนกวางตัวน้อยที่ตกตะลึง หัวใจเต้นผิดจังหวะ
ถ้าจางอวี้หลานเห็น เธอก็คงมองหน้าจางอวี้หลานไม่ติดแล้ว
และไม่มีเวลาสนใจกางเกงชั้นในที่เปลี่ยนใหม่ รีบหากางเกงมาสวม
เมื่อทำเสร็จแล้ว จ้าวลู่ลู่จึงโล่งใจ เปิดประตูกระแอ่มและพูด
“เสร็จแล้วค่ะแม่ เข้ามาเลยค่ะ”
เสียงดังเอี๊ยด จางอวี้หลานเปิดประตูเดินเข้าไป
เห็นหน้าจ้าวลู่ลู่ที่แดงเหมือนตูดลิง ยืนตัวตรงที่ประตู จึงขมวดคิ้วถาม
“เจ้าเด็กนี่เป็นอะไรกันแน่ ทำไมหน้าแดงขนาดนั้น? ตะโกนร้องโวยวายอะไร?”
“แม่คะ เมื่อกี้หนูฝันร้ายแล้วตกใจค่ะ”
จ้าวลู่ลู่ก้มหัว โกหกด้วยเหตุผลที่แย่
“ฝันร้ายงั้นเหรอ? ฝันร้ายอะไร ถึงทำให้เธอได้ร้องแบบนี้ห้ะ?”
สายตาจางอวี้หลานยังคงแปลก ๆ ดีที่เธอไม่ได้ถามอะไรต่อ
จ้าวลู่ลู่รู้สึกอาย มือทั้งคู่จับแน่นเข้าด้วยกัน กระทั่งเธอรู้สึกว่าตัวเองตื่นเต้นจนเหงื่อออกแล้ว รีบเปลี่ยนเรื่อง
“แม่มาเรียกหนูมีเรื่องอะไรงั้นเหรอ?”
“หลินเฟยเจ้าเด็กกำพร้านั่นมาพร้อมกับอาเล็กของเขา และมีของติดมือมาด้วย บอกว่าจะมาขอบคุณเธอ”
“นี่เกิดอะไรขึ้นเนี่ย”
จางอวี้หลานขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย
วันนี้จ้าวฟู่กุ้ยไปประชุมในเมืองอีกแล้ว จางอวี้หลานอยู่บ้านน่าเบื่อ จึงเตรียมตัวจะออกไปเล่นไพ่
ก็เห็นหลินเฟยและถังรั่วเสวี่ยถือสิ่งของสองลัง เดินตรงเข้ามา
บอกว่ามาขอบคุณลูกสาวตัวเอง
จางอวี้เฟยไม่เข้าใจว่าหลินเฟยเล่นอะไร ก็ให้เขาและถังรั่วเสวี่ยรออยู่ข้างล่าง ดังนั้นจึงขึ้นมาเรียกจ้าวลู่ลู่
“อ๋อ เป็นเพราะเมื่อวานหนูออกไปเล่น เห็นหลินเฟยไม่ระวังตกแม่น้ำหนูช่วยเขาขึ้นมา”
“เขาทั้งคู่น่าจะมาขอบคุณหนูน่ะ”
จ้าวลู่ลู่ปิดบังไม่ได้เล่าส่วนที่หลินเฟยมองร่างกายเธอ
“อะไรนะ เธอลงบ่อไปช่วยเขาเหรอ? คราวหน้าเจอแบบนี้ก็ทำเป็นไม่เห็นนะ อันตรายมากเลย”
ได้ยินแบบนั้น จางอวี้หลานก็ทำตาขวางและตำหนิ
หลินเฟยไม่มีภาพลักษณ์ที่ดีกับเธอมาตลอด ไม่เคยต้อนรับมาก่อน ได้ยินว่าหลินเฟยต่อแม่น้ำ สิ่งแต่ที่เป็นห่วงก็ต้องเป็นความปลอดภัยของลูกสาวตัวเองอยู่แล้ว
"แม่คะ อย่างน้อยก็เป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน ชีวิตคนคนหนึ่ง จะไม่สนใจได้ยังไงล่ะคะ"
จ้าวลู่ลู่พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ
"ช่างเถอะ ขี้เกียจว่าเธอ"
"รีบให้พวกเขาไปซะ อย่าให้หลินเฟยไอ้เด็กไม่เอาไหนคนนั้นทำของบ้านเราเปื้อนหมดล่ะ"
"จริงด้วย ของที่พวกเขาเอามาก็เก็บไว้นะ ฉันไปเล่นไพ่ละ"
จางอวี้หลานติดไพ่มาก ๆ แม้แต่จ้าวฟู่กุ้ยก็ห้ามไม่ได้ ทุกวันแม้จะมีพายุลมฝนก็ต้องไปเล่นสักตา
เมื่อน้ำเสียงที่รังเกียจพูดจบแล้ว หันหลังลงไป
"หนูรู้แล้วค่ะแม่" จ้าวลู่ลู่ทำได้แค่ตอบอย่างช่วยไม่ได้
มองดูจางอวี้หลานลงไป จ้าวลู่ลู่ถอนหายใจยาว ๆ
เธอเปิดตู้เสื้อผ้า เปิดหากางเกงชั้นในตัวเอง เตรียมเปลี่ยนเสร็จแล้วค่อยลงไป
ชั้นล่าง
หลินเฟยเห็นจางอวี้หลานอยู่ชั้นล่าง รีบลุกขึ้นจากโซฟาและถาม
"คุณป้าครับ พี่ลู่ลู่ลงมารึยังครับ"
"ไม่รู้ ไม่ต้องถามฉัน"
"ถ้าไม่อยากรอก็ออกไปจากบ้านฉันซะ"
จางอวี้หลานไม่อยากสนใจหลินเฟย ชักสีหน้า เชิดก้นและเดินออกไปตรงประตูบ้าน
"แม่งเอ้ย ป้าคนนี้ทำเหมือนเป็นหนี้เธออย่างงั้น"
หลินเฟยไม่พอใจ พึมพำเสียงเบา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แพทย์เซียนเนตรทะลวงแห่งขุนเขา