ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 107

แต่ถึงตอนนี้พวกเขาไม่สามารถหยุดลงได้อีก นอกจากวิ่ง เอากำลังกายกำลังใจทั้งหมดที่มีมาใช้สำหรับการวิ่งหนี! แต่ว่า เช่นนั้นไม่เพียงไม่ใช่นิสัยของเฉินซ่าเท่านั้น นางเองก็ไม่มีความเคยชินเช่นนี้เหมือนกัน! ในเมื่อรู้แล้วว่าในภูเขาอาจจะมีสิ่งที่พวกเขาต้องการ แล้วจะกลับไปมือเปล่าได้อย่างไร! หากว่าพวกเขาต่อสู้อย่างสุดกำลังมานานขนาดนี้แล้ว ฆ่าหมาป่าไปกว่าครึ่ง สุดท้ายของดีกลับตกไปอยู่ในมือคนอื่นอย่างง่ายดาย นางต้องกระอักเลือดแน่! สมบัติล้ำค่าแสวงหาได้จากความเสี่ยงเสมอ ข้อนี้นางรู้ดี!

โหลชีสูดลมหายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง ร่างกายยังคงบินโฉบขึ้นต่อไป บนยอดเขามีหิมะน้อยกว่าด้านล่าง แต่อากาศกลับยิ่งหนาวกว่า ทันทีที่ขึ้นมา เสียงลมหนาวพัดดังก้อง เย็นยะเยือกเข้ากระดูก ทำให้นางอดหนาวสั่นไม่ได้

พรึบ

เท้าของนางยืนนิ่งอยู่บนโขดหินก้อนหนึ่งของยอดเขา กำลังเตรียมพร้อมที่จะมองสังเกตการณ์อย่างละเอียด จู่ๆขนอ่อนตามตัวทั้งร่างกายก็ลุกขึ้นมาหมด ราวกับรู้สึกได้ถึงอันตรายโดยสัญชาตญาณ คอของนางบิดเป็นมุมอย่างไม่น่าเชื่อ มีสิ่งของที่เย็นเฉียบติดหน้าของนางแล้วลอยออกไป

โหลชีสบตาเข้ากับดวงตาสีเขียวเข้มคู่หนึ่ง

นางแยกแยะออกในทันที คือมนุษย์ ไม่ใช่งู ไม่ใช่สัตว์เดรัจฉาน!

และคนผู้นี้กลับแฝงตัวอยู่ในที่ลับราวกับงูพิษ เมื่อครู่นี้หากไม่ใช่ว่านางมีสัญชาตญาณที่แข็งกล้ากว่าคนทั่วไปมาแต่กำเนิด เกรงว่าคงจะถูกจู่โจมไปแล้ว ในมือของคนคนนั้นมีงูเขียวตัวเล็กตัวหนึ่งพันรอบอยู่

สิ่งที่เพิ่งโจมตีนาง ก็คืองูเล็กตัวนั้น

"พวกเจ้า แข็งแกร่งมาก"

เป็นภาษาจงหยวนที่แข็งทื่อ

เสียงของชายผู้นั้นก็แฝงไปด้วยความเย็นชาราวกับงูพิษที่ร้ายกาจและเจ้าเล่ห์ ฟังแล้วทำให้คนรู้สึกไม่สบายตัวอย่างมาก

"คนหนานเจียง"

โหลชีมั่นใจในน้ำเสียง ขณะเดียวกัน นางก็เข้าใจในทันที ไม่ใช่ว่าหมาป่าหิมะพวกนั้นต้องการจะปกป้องสิ่งใด แต่มีคนควบคุมหมาป่าหิมะพวกนั้น ออกคำสั่งให้พวกมัน มุ่งมั่นที่จะทำลายล้างพวกเขาให้หมด

และเท่าที่นางรู้ ที่นี่มีเพียงคนหนานเจียงเท่านั้นถึงจะมีความสามารถเช่นนี้ได้ พวกเขามีหนอนพิษแปลกๆ หรือพวกยาบางชนิด และยังมีความสามารถในการใช้คลื่นเสียงเพื่อควบคุมสัตว์ร้าย นอกจากซีเจียงแล้ว หนานเจียงคือสถานที่ที่ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวอีกแห่งหนึ่งในโลกนี้ ผู้ชายคนนี้สามารถควบคุมฝูงหมาป่าฝูงใหญ่เช่นนี้ได้ ความสามารถจะต้องไม่ด้อยอย่างแน่นอน

เขาสะอาดสดชื่นไปทั้งตัว ลมหายใจสงบมั่นคง

แต่ทั้งตัวของนางเปรอะเปื้อนไปด้วยรอยเลือด เพราะสู้สุดกำลังมาเป็นเวลานานทำให้ผมเผ้ายุ่งเหยิง และเป็นเพราะเพิ่งใช้กำลังทั้งหมดที่มีเพื่อปีนขึ้นมาบนยอดเขา ลมหายใจวุ่นวายเล็กน้อย และยังเหนื่อยหอบเล็กน้อยอีกด้วย

นางตระหนักได้ถึงข้อแตกต่างข้อนี้ คนหนานเจียงคนนั้นก็ต้องสังเกตเห็นเช่นกัน

"ผู้หญิง เจ้า แข็งแกร่งมาก"

เขาพูดออกมาอีกคำหนึ่ง ขณะเดียวกัน นัยน์ตาสีเขียวเข้มที่แตกต่างจากคนทั่วไปพวกนั้น แฝงไปด้วยแสงที่ราวกับกำลังมองพิจารณาสินค้าอยู่ หมุนรอบอยู่บนตัวของนางรอบหนึ่ง

สายตาเช่นนี้ทำให้โหลชีรู้สึกรังเกียจ มันทำให้นางรู้สึกสะอิดสะเอียนขึ้นมา

ไม่มีคนกล้าใช้สายตาเช่นนั้นมองนางมานานมากแล้ว พ่อค้ายาที่ใช้สายตาเช่นนี้มองนางในตอนนั้น ถูกนางยิงนัดเดียวไปที่หัว ขณะเดียวกัน ก็เสริมอีกสองนัดไปที่ดวงตาทั้งคู่ของเขา ครั้งนั้น นางยังถูกผู้กองที่ร่วมงานด้วยท่านหนึ่งตำหนิอย่างจริงจัง บอกว่าวิธีการของนางโหดเหี้ยมเกินไป แต่ว่าต่อมา ผู้กองท่านนั้นเหมือนจะได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับนางมากยิ่งขึ้น เมื่อได้พบกับนางอีกครั้งก็ไม่กล้าพูดคำว่าไม่ดีออกมาอีกแม้แต่ครึ่งคำ

และตั้งแต่ครั้งนั้น นางก็ไม่ชอบร่วมงานกับคนเบื้องบนอีก แต่ละคนคิดว่าตนเองถูกต้องตลอดเวลา

ตอนนี้สายตาของคนหนานเจียงคนนี้ทำให้นางนึกถึงสายตาของพ่อค้ายาคนนั้นอีกครั้ง

"เจ้า น่าขยะแขยงมาก"

นางตอบเขาไปคำหนึ่ง

ดูเหมือนคนหนานเจียงคนนี้จะไม่ค่อยเข้าใจว่าน่าขยะแขยงมากคือผลการประเมินเช่นไร แต่ก็ไม่หมกมุ่นอยู่กับมัน เขาใช้นิ้วลูบไปที่หัวของงูพิษตัวนั้นเบาๆ แล้วก็มองนางไปด้วย "เจ้าเป็นใคร?"

"ข้าเป็นใคร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย?" เสียงของโหลชีจบลง ก็หมุนข้อมือ พิชิตวันก็พุ่งไปทางสายตาดุดันคู่นั้นของเขา

รูม่านตาของคนหนานเจียงคนนั้นหดตัวลงเล็กน้อย ร่างกายกลับถอยหลังออกไปอย่างรีบร้อน "เจ้า ดีมาก"

"ข้าดีมากมาตลอดอยู่แล้ว!" โหลชีกล่าวอย่างเย็นชา กระทืบเท้าลงไป เกล็ดหิมะกลุ่มหนึ่งลอยไปทางใบหน้าของเขา ขณะเดียวกัน มืออีกข้างของนางก็จับไปที่เอว แล้วผงแป้งละเอียดกำหนึ่งก็พุ่งไปทางเขา

"ต่อหน้าข้า ใช้พิษ......" ดูเหมือนคนหนานเจียงจะดูถูกเหยียดหยามมาก กำลังเอ่ยวาจาเย้ยหยัน จู่ๆงูพิษที่พันรอบข้อมือเขาก็ตกลงมาจากข้อมือของเขาอย่างอ่อนระทวย เขายังไม่ทันได้ตอบสนอง โหลชีก็ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เหยียบไปบนหัวของงูพิษตัวนั้น บดขยี้มันอย่างโหดเหี้ยม

ผงพิษของนาง เดิมทีก็ไม่ได้ใช้สำหรับต่อกรกับเขาอยู่แล้ว แต่ต้องการจะกำจัดงูพิษของเขาตัวนั้น งูพิษประเภทนี้อาจจะไม่มีผลต่อนาง หรือต่อเฉินซ่า แต่กับเยว่หรือองครักษ์คนอื่นๆจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เมื่อมีภัยคุกคาม นางจะต้องฆ่ามันก่อนอยู่แล้ว

คนหนานเจียงที่ยังไม่ทันได้ตอบสนองกลับมาเห็นงูของตัวเองตายอย่างไม่สามารถตายได้อีกในเสี้ยววินาที แถมยังถูกเหยียบหัวงูจนเละ ไฟโกรธที่ท่วมท้นกลืนกินเขาในคราวเดียว ไหนเลยจะยังมีเวลามาสนใจว่าผู้หญิงคนนี้ดูแล้วถูกใจเขามาก!

งูที่ติดตัวตลอดของพวกเขาต้องใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะเลี้ยงให้เชื่องได้ นั่นเป็นอาวุธที่ทรงพลังอย่างหนึ่งของพวกเขา ถูกฆ่าตายในทันที มันเจ็บปวดราวกับถูกฆ่าลูกชาย

"เจ้ารนหาที่ตาย!"

"ข้าไม่เคยรนหาที่ตายหรอก ความตายไม่สนุกสักหน่อย!" โหลชียิ้มอย่างเย็นชา

ดีจิ้งจอกมารที่อยู่ในขวดตัวนั้น กลิ้งไปมาในขวด ดุจโปโลน้ำที่สวยงาม กระแทกไปถูกผนังขวดเบาๆ ส่งกลิ่นประเภทนั้นออกมา ก็เห็นหนอนกู่ตัวนั้นสั่นเทาไปทั้งตัว จากนั้นก็วิงๆเวียนๆ พรึบ ร่วงหล่นไปบนพื้น

ภายใต้สายตาที่เบิกกว้างจนเบ้าตาแทบจะถลนออกมาของชายผู้นั้น โหลชียกเท้าขึ้นมา เหยียบลงไป ใช้กำลังภายใน บดขยี้ลงไปอย่างไร้ความปรานี ชะตากรรมเดียวกันกับงูของเขาตัวนั้น

เสียงนกหวีดในมือของคนหนานเจียงคนนั้นหยุดลง ก้มหน้าลงไปอย่างแข็งทื่อ มองไปทางเท้าของนาง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างแข็งทื่อ มองไปที่รอยยิ้มมุมปากบางเบานั่นของนาง พุด!

กระอักเลือดพุ่งกระฉูดออกมา

ตอนที่พวกเยว่ขึ้นมาเห็นฉากนี้เข้าพอดี นอกจากเฉินซ่าแล้ว คนอื่นตกตะลึงไปอย่างสิ้นเชิง สมองทำงานไม่เป็นไปอย่างสิ้นเชิง

"นายท่าน โหลชีนาง......" เยว่รู้สึกว่าตัวเองได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจอีกครั้ง แน่นอนว่า การกระทบกระเทือนจิตใจเช่นนี้สำหรับฝั่งพวกเขาแล้วน่าจะเป็นเรื่องที่ดี แต่นี่มันกระเทือนใจของพวกเขามากเกินไป

พวกเขารู้ว่าโหลชีแข็งแกร่ง รู้มาตลอด ครั้งแล้วครั้งเล่า นางก็ทำให้พวกเขารู้ว่าที่แท้นางไม่เพียงแค่แข็งแกร่งเช่นนี้เท่านั้น แต่ว่าครั้งนี้มันจะอุกอาจมากเกินไปแล้ว! ไม่เห็นหนอนกู่อยู่ในสายตาก็แล้วไปเถอะ นี่ถึงขนาดฆ่ามันได้อย่างง่ายดายเช่นนี้! ไม่เพียงแค่ฆ่าทิ้ง ยังเหยียบมันจนเละเทะไปหมด!

โหลชีนี่เกิดมาเพื่อโจมตีจิตใจคนใช่ไหม!

ในดวงตาเคร่งขรึมของเฉินซ่ายังอดที่จะมีรอยยิ้มผุดขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้

ไหนเลยที่พวกเขาจะรู้ว่า โหลชีนั้นโชคดีมากจริงๆ หากไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้นางได้ดีจิ้งจอกมารมาพอดี เกรงว่าครั้งนี้คงต้องมีการต่อสู้ที่ดุเดือดเลือดสาดจริงๆ! แต่นางก็ดันได้สิ่งนั้นมา เมื่อคืนเขาก็บอกกับนางพอดี ของสิ่งนี้สามารถทำให้นางไม่ต้องกลัวแม้แต่หนอนกู่ของหนานเจียง วันนี้ผู้ชายคนนี้โชคไม่ดี เข้ามารนหาที่ตาย

"เจ้า......"

นางเกลียดการที่มีคนพยายามจะควบคุมนางมากที่สุด ใช้กู่หุ่นเชิดกับนาง เห็นได้ชัดว่ามาแตะต้องเส้นตายของนาง อีกอย่าง เพราะกู่ปลิดชีพในร่างกายของเฉินซ่า นางก็เลยพาลโกรธคนเจียงหนานทั้งหมดไปด้วย ทันทีที่ชายผู้นี้ปรากฏตัวมา นางก็มีเจตนาสังหารขึ้นมาแล้ว

โหลชีเก็บรอยยิ้มที่ชั่วร้ายนั่นเอาไว้ กล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก: "ข้าชื่อโหลชี หากชาติหน้าจะแก้แค้นก็อย่าหาผิดคนล่ะ" พูดไป พิชิตวันก็แกว่งออกไป คอของผู้ชายคนนั้นก็ถูกปาดเป็นรอยเลือดขึ้นมา มีเลือดค่อยๆไหลซึมออกมา คล้ายกับภาพช้า เขาต้องการจะก้มหน้าไปมองบาดแผลของตนเอง แต่หัวนั่นกลับกลิ้งลงมากะทันหัน

ในขณะนั้น ในใจของบรรดาองครักษ์ต่างก็พังทลายลง เหตุใดวิธีการของแม่นางโหลถึงได้คล้ายกับฝ่าบาทเยี่ยงนี้ได้......

"พักผ่อน" เฉินซ่าเดินเข้าไป อุ้มนางขึ้นมา พูดเพียงสองคำ หลังจากที่ขึ้นมาบนภูเขานางก็พบกับคนหนานเจียงคนนั้นอีก แม้แต่เวลาพักหายใจสักครู่ก็ยังไม่มี เห็นสีหน้านางซีดขาวเล็กน้อย เขารู้สึกแค่ว่ามีความปวดใจที่ไม่เคยมีมาก่อนเต็มตื้นขึ้นมา

เฉินซ่าไม่เคยมีประสบการณ์ในการปลอบประโลมคนมาก่อน เลยได้แต่อุ้มนางในท่าอุ้มเจ้าหญิง ให้นางพักอยู่ในอ้อมกอดของตนเองครู่หนึ่ง

โหลชีถูกเฉินซ่าอุ้มขึ้นมา ความดุร้ายในตัวก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันที เงยหน้ามองไปทางเขา แล้วยิ้มสดใสขึ้นมา: "ข้าไม่เป็นไร"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ