ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 134

เรือทุกลำถูกดูดเข้าไปในกระแสน้ำวนนั่นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ถูกดูดลงไปในใจกลางกระแสน้ำวนอย่างรวดเร็ว เรือบางลำถึงกับพลิกคว่ำไปเลยโดยตรง คนที่อยู่บนเรือต่างก็ตกลงไปในน้ำ พริบตาเดียวก็จมลงไปในกระแสน้ำวน ไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย

บนพื้นผิวของแม่น้ำเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้อง มีหัวหน้าผู้ควบคุมเรือตะโกนขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว "ปีศาจน้ำ เจอกับปีศาจน้ำเข้าแล้ว!"

"รีบควบคุมเรือให้มั่นคง อ่าาาา เรือจะพลิกคว่ำแล้ว!"

ตะโกนไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ที่สมควรจะพลิกคว่ำมันก็พลิกคว่ำอยู่ดี

เยว่มองดูฉากสยดสยองที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตกตะลึง แล้วมองเรือเล็กที่ยังคงลอยอย่างมั่นคงของพวกเขา อ้าปากค้างจนคางเกือบจะตกลงไปในน้ำ ท่านเฒ่ายืนอยู่ตรงหัวเรือ ยืนสองเท้าแยกออกจากกัน มั่นคงราวกับภูเขาที่ตั้งอยู่กับที่ เรือเล็กล่องไปตามกระแสน้ำวนตลอด ขึ้นลงไปตามคลื่นน้ำ อยู่ระหว่างคนที่ลอยคอและเรือที่พลิกคว่ำ มันช่างดูแปลกประหลาดมาก

"เฮ้ๆๆ เรือกำลังพลิกคว่ำแล้ว โดดลงน้ำสิโดดลงน้ำ" เขาหันกลับไป กลับเห็นโหลชีกำลังโบกมือตะโกนให้คนที่อยู่บนเรือลำใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า ท่าทางเช่นนั้น มันท่าทางของคนที่กำลังดูการแสดงชัดๆ

เยว่: "......"

โหลีชี นี่เจ้าอยากให้คนที่อยู่บนเรือใหญ่ลำที่อยู่ตรงข้ามไม่ตกลงไปจมน้ำตาย ก็ถูกเจ้าทำให้โมโหจนกระอักเลือดตายหรือ?

"แม่นางน้อยเจ้าต้องยืนให้ดีล่ะ เดี๋ยวตกลงไปในน้ำข้าไม่ช่วยเจ้านะ" ท่านเฒ่าตะโกนออกมาคำหนึ่ง

โหลชีโบกมือแล้วกล่าวว่า: "ท่านดูแลเรือให้ดีก็พอแล้ว กังวลมากมายขนาดนั้นทำไม"

ท่านเฒ่าดุอย่างขบขัน: "ไม่รู้เจตนาดีของผู้อื่น"

"โหลชี เจ้ารู้จักเขา?" เวลานี้เยว่เพิ่งจะหาโอกาสถามขึ้นมาได้

โหลชีส่ายหน้า: "ไม่รู้จัก ใครบอกว่าข้ารู้จัก? เพิ่งจะเคยเห็นครั้งแรก" แต่ว่า เป็นการเห็นตัวจริงครั้งแรกนะ เมื่อก่อน ที่นางเห็นคือภาพวาด

ใช่แล้ว ท่านเฒ่าผู้นี้ ก็คือหนึ่งในจำนวนภาพวาดของนักพรตเลวเช่นกัน คนที่สามารถทำดีด้วยได้ ท่านจิน(ในภาษาจีน ทองคำออกเสียงว่าจิน)

ท่านจินชอบทองคำ เหมือนนามสกุลของเขา

ไม่ชอบเงิน ชอบทองคำ สีทองอร่าม บอกว่าแค่เห็นก็มีความสุข

ท่านจินและข่งซิวถือเป็นอาจารย์อากับศิษย์หลาน นักพรตเลวบอกว่า ถ้าหากมีใครที่สามารถจะเกลี้ยกล่อมข่งซิวได้ คนคนนั้นจะต้องเป็นท่านจินแน่นอน แต่เสียดายที่ท่านจินอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง เจอตัวได้ยากมาก เขาก็คือเฒ่าทารกคนหนึ่ง สิ่งที่ชื่นชอบที่สุดก็คือท่องเที่ยวชมความงามของธรรมชาติ และชอบเล่นมาก บางครั้งเมื่อเจ้าพบเขา บางทีเขาอาจจะเป็นพ่อครัว เมื่อพบครั้งต่อไป บางทีเขาอาจจะดูเหมือนนักบวช และเมื่อได้พบอีกครั้ง เขาอาจจะเป็นโจรภูเขาอีกก็เป็นได้

และในครั้งนี้ดูเหมือนเขาว่าจะแสดงเป็นคนพายเรือ

ตอนที่เห็นเขาบนฝั่ง โหลชีก็รู้แล้วว่า ในที่สุดท่านจินก็รู้ข่าวของข่งซิวแล้ว ถึงได้รีบเดินทางมา คิดว่ากำลังจะไปช่วยข่งซิว แต่ถึงแม้ว่ากำลังจะไปช่วยคน เขาก็ต้องเล่นสนุกก่อน ถือโอกาสหารายได้เป็นทองใบไปด้วย

"ระวังไว้นะ เจ้าหนุ่มคนนั้น เจ้าบังคับท้ายเรือให้มั่นคงเอาไว้ด้วย" ท่านจินสั่งเฉินซ่าอย่างไม่เกรงใจ เฉินซ่าไม่มองที่เขาด้วยซ้ำ ใต้เท้ายกสูงขึ้นมา คนก็แวบไปถึงท้ายเรือแล้ว สมอเรือที่ถูกให้กำลังภายใน ทำให้ท้ายเรือไม่ถูกคลื่นซัดให้แกว่งไปมา

เบ็ดตกปลาที่อยู่ในมือท่านจินจิ้มลงไปในกระแสน้ำวนนั่นซ้ายทีขวาที จู่ๆก็ตะโกนเสียงดังขึ้นมา: "ขึ้น!"

เรือเล็กนั่นพุ่งทะยานขึ้นไป หลุดออกจากกระแสน้ำวน ทะยานออกไปไกลในอากาศราวกับเรือบิน จากนั้นก็มีเสียงพรึบดังขึ้นแล้วเรือก็กลับคืนสู่ผิวน้ำ

"หยุดเอาไว้"

"พูดมาก" เฉินซ่ายืนอย่างมั่นคง ส่งกำลังไปที่ร่างกายส่วนล่างอีกครั้ง เรือลำเล็กนั่นเพียงแค่ส่ายไปมาเล็กน้อยก็ถูกกำลังภายในที่ล้ำลึกของคนที่อยู่หน้าหลังสองคนหยุดเอาไว้ ลอยอยู่บนพื้นผิวแม่น้ำอย่างมั่นคง

เยว่กับโหลชียืนอยู่ตรงกลาง เท้าก็ติดอยู่บนกระดานเรืออยู่ตลอดเช่นกัน ท่านจินลูบไปที่หน้า กล่าวว่า: "ไอ๊หยาทำข้าตกใจแทบแย่ นี่ก็คือปีศาจน้ำ"

แม้แต่เฉินซ่ายังอยากกลอกตาใส่เขา ตาข้างไหนเห็นท่านตกใจกัน?

"พวกเจ้าทั้งหลายต่างก็ไม่เลวเลย" สายตาของท่านจินกวาดตาทางไปพวกเขาทีละคน และสุดท้ายก็ยังหันไปทางโหลชี: "เจ้าดูเจริญตาสุด ชื่ออะไร?"

"โหลชี"

"โหล?"

โหลชีจับความประหลาดใจที่ประกายขึ้นมาแวบหนึ่งในสายตาของท่านจินได้ ตื่นเต้นในใจขึ้นมา แต่กลับตอบขึ้นมาด้วยใบหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ: "อืม โหล"

"ตามหลักแล้ว...ตระกูลโหลอยู่ที่นี่......" ท่านจินปิดปากเอาไว้ แล้วส่ายหน้า "ไม่มีอะไรไม่มีอะไร"

โหลชีรู้ว่าท่านจินผู้นี้ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ตระกูลโหล? ในโลกนี้มีตระกูลโหลที่มีฐานะค่อนข้างพิเศษอยู่หรือ? แต่ว่านางก็ไม่ค่อยได้ยินว่ามีคนแซ่โหลที่นี่ หลังจากที่มาแล้วก็ไม่เคยได้ยินว่ามีคนแซ่โหลมาก่อน

ท่านจินไม่พูด ครั้งหน้านางค่อยถามก็ได้

"พวกเจ้าทั้งหลายก็กำลังจะไปเพื่อบัวเลือดเขาน้ำแข็งนั่นด้วยหรือ?"

โหลชีพยักหน้า: "เราแค่ไปดูเฉยๆไม่ได้หรือ?" นางยังไม่อยากจะพูดเรื่องของข่งซิว

"บัวเลือดปลอมดอกหนึ่ง มีอะไรน่าดู? ไม่งั้นเจ้าก็ให้พวกเขาสองคนไปร่วมครื้นเครง ส่วนเจ้ากับข้าไปหาอะไรอร่อยๆกินกัน เป็นเช่นไร?"

ท่านจินขยิบตาให้โหลชี เหมือนกับนักกินกำลังล่อลวงนักกินด้วยกัน

โหลชีหวั่นไหวเล็กน้อยจริงๆ มือก็ถูกเฉินซ่าจับเอาไว้อย่างแรง ผู้หญิงคนนี้ จะทิ้งเขาไว้แล้วจะไปกับตาเฒ่าเลวนี่จริงๆ? ช่างกล้าหาญมากจริงๆ!

"ไม่ได้ นี่คือนายท่านของข้า ข้าเป็นเพียงสาวใช้เท่านั้น ต้องตามติดนายท่านเอาไว้" โหลชีรีบกล่าวอย่างเศร้าสร้อยในทันที

ท่านจินชิออกมาคำหนึ่ง

"ท่านลุง เพราะอะไรท่านถึงบอกว่าบัวเลือดดอกนั้นเป็นของปลอม?" โหลชีปลอบประโลมคนที่ชอบหึงหวงบางคนแล้ว ไปสอบถามความลับกับท่านจินอีก บัวเลือดดอกนั้น หลังจากที่นางได้มาก็ยังไม่เคยเปิดออกดูจริงๆ ตอนนั้นนึกว่าเป็นบัวเลือดจริงๆ ความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นสักนิดก็ไม่มี ดังนั้นความจริงนางก็ไม่รู้ว่าบัวเลือดที่อยู่บนกล่องนั่นเป็นอย่างไรกันแน่

"ใครบอกเจ้าว่าของสิ่งนั้นอยู่ในมือข้า? ตอนที่ข้าเห็นมันยังไม่บานเต็มที่เลย แล้วข้าก็ขี้เกียจจะรออยู่ที่นั่น ก็เลยจากมา"

ของดีขนาดนั้นเจ้ายังขี้เกียจจะรอ ขี้เกียจ! จะ! รอ!

หากคนอื่นได้ยินเข้าคงต้องกระอักเลือดแน่ๆ! หากจะลำดับการยั่วโมโหคน เฒ่าทารกคนนี้เก่งกว่านางเยอะเลย!

โหลชีลูบไปที่หน้าผาก: "ในเมื่อท่านจากมาแล้ว แล้วทำไมถึงแน่ใจว่าไม่ใช่หยุนเสี้ยงหยางไปที่นั่นหลังจากนั้นพอดี แล้วเจอตอนดอกบานพอดี เลยเด็ดมันมาด้วย"

"สถานที่แห่งนั้น หยุนเสี้ยงหยางไปไม่ได้" ท่านจินส่ายหน้า "ไม่ ควรจะพูดว่ามีไม่กี่คนที่สามารถไปได้"

"สถานที่แบบไหนกันถึงลึกลับเช่นนี้?"

"เจ้ารับปากข้าเรื่องหนึ่ง ข้าก็จะรับปากเจ้าว่าหลังจากเรื่องนี้เสร็จสิ้นแล้วข้าจะพาเจ้าไปหาบัวเลือดเขาหิมะนั่น เป็นอย่างไร?" ท่านจินลดเสียงลงแล้วกล่าวอย่างลับๆล่อๆ

"ท่านพูดมาก่อนว่าเรื่องอะไร"

"ข้าไปช่วยคนคนหนึ่งกับข้า"

ในใจโหลชีตื่นเต้นขึ้นมา ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ: "ช่วยคน?"

"ถูกต้อง ข้าไม่ได้มาเพื่อร่วมสนุกครื้นเครง ข้ามาเพื่อช่วยศิษย์หลานของข้า แต่ไม่รู้ว่าเขาถูกขังอยู่ที่ไหน เจ้า แล้วก็เจ้าหนุ่มสองคนนั้นช่วยข้าหาด้วย"

ในใจโหลชีระเบิดเสียงหัวเราะออกมากะทันหัน ฮ่าๆๆ นี่ต้องการจะหาข่งซิวหรือ? การค้าขายนี้ทำง่าย ทำง่าย!

แต่นางก็ยังทำหน้าลำบากใจ: "ได้ยินมาว่าอุทยานเขาเฟิงหยุนมียอดเขาสูงชันอยู่ทุกที่ ทั้งเล็กทั้งใหญ่เต็มไปหมดทั้งเกาะ การจะหาคนคนหนึ่งมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด? และครั้งนี้ก็มีคนมามากมายขนาดนี้ ก็ยิ่งหายากขึ้นไปใหญ่ หากมีคนคิดว่าข้าจะมาแอบหาบัวเลือดนั่น เช่นนั้นข้ามิกลายเป็นเป้าให้ทุกคนจู่โจมหรือ? มันอันตรายมากนะ"

องครักษ์เยว่แอบกลอกตา เจ้าก็รู้อยู่แล้วว่าคนคนนั้นถูกขังอยู่ที่ไหนแท้ๆ! จุดประสงค์ที่พวกเขามาครั้งนี้ก็เพื่อช่วยคนคนนั้นแท้ๆ! ตอนนี้ยังจะหลอกเอาบัวเลือดเขาหิมะไปด้วย?

ท่านจินอึ้งไป: "มีอันตรายอะไร? เจ้าสามารถแอบหาเงียบๆได้นี่ ข้าไม่ได้ให้เจ้าทำให้คนใต้หล้ารู้เสียหน่อย"

"แต่ว่ามีคนมามากมายขนาดนี้ มันต้องมียอดฝีมือมาด้วยอยู่แล้ว อาจจะมีอุบัติเหตุที่ยากจะเลี่ยงได้ อย่างไรก็มีความเสี่ยงอยู่ดี"

"เช่นนั้นเจ้าต้องการอะไร?"

"ในเมื่อข้าต้องเสี่ยงมากขนาดนี้ เช่นนั้นหลังจากที่ช่วยศิษย์หลานของท่านออกมาแล้ว ท่านต้องรับปากข้าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าอย่างไรท่านก็ต้องพาข้าไปหาบัวเลือดเขาหิมะดอกนั้น และห้ามแย่งชิงกับข้าด้วย อีกอย่าง รับปากข้าอีกเรื่องหนึ่ง"

"เรื่องอะไร?" ท่านจินฟังแล้วรู้สึกว่าไม่มีปัญหาอะไร เดิมทีเขาก็ไม่ได้คิดจะแย่งบัวเลือดดอกนั้นอยู่แล้ว

"เรื่องนี้ตอนนี้ข้ายังนึกไม่ออก ถือซะว่าท่านติดหนี้ข้า อีกหน่อยข้านึกออกเมื่อไหร่ค่อยมาขอกับท่านแล้วกัน"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ